นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ตน พร้อมด้วยนายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตวัฒนา นำคณะผู้บริหาร กทม. ร่วมกิจกรรมลงพื้นที่ กิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร (รอบ 2)” เขตวัฒนา โดยได้ติดตามงานจากการสัญจรครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหัวใจคือการไปสอบถามปัญหาของประชาชน ที่สะท้อนมาให้ กทม.แก้ปัญหาซึ่งจากการที่ประชาชนร้องเรียนถึงปัญหาโรงงานเชือดไก่ซอยปรีดีพนมยงค์ 44 ถึงเรื่องสาธารณสุข เช่น กลิ่นเหม็น ควัน และน้ำเสีย หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำผิดมาตรฐานจะสั่งปิด ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข โดยทันที อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ร่วมบูรณาการด้วย ขณะที่เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าตามหลักการแล้วห้ามขาย และตามกฎหมายคือห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร รวมถึงการกวดขันเรื่องกัญชาและเซ็กซ์ทอย ซึ่งที่ผ่านมา กทม. ร่วมกับ สน.ทองหล่อ และ สน.ลุมพินีลงพื้นที่ตรวจสอบถนนสุขุมวิทอย่างเข้มข้น ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ กทม.จะต้องดำเนินการกวดขันแก้ไขปัญหาขอทานต่างชาติ คนไร้บ้าน คนเร่ร่อนอย่างเข้มข้น ส่วนเรื่องของหาบเร่แผงลอย กทม.จะจัดระเบียบควบคู่กับการช่วยเหลือดูแลโดยหาพื้นที่ค้าขายให้
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการห้องเรียนปลอดฝุ่น ในโรงเรียนสังกัด 437 โรง ซึ่งมีชั้นอนุบาล 429 โรงเรียน จำนวน 1,966 ห้อง โดยขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 744 ห้อง และจะดำเนินการครบถ้วนทุกห้องภายในปีนี้ นอกจากนี้ทุกโรงเรียนจะมีห้องปลอดภัยที่มีเครื่องปรับอากาศและเครื่องกรองอากาศ เพื่อให้นักเรียนทุกคนปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 โดยที่ไม่ต้องประกาศปิดโรงเรียนทั้งกรุงเทพฯ เนื่องจากโรงเรียนยังเป็นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้ คือ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของเอกชนที่ยังมีห้องปลอดฝุ่นไม่ครบถ้วน ซึ่ง กทม.จะเร่งดำเนินการให้ทุกศูนย์ฯมีเครื่องตรวจอากาศให้ครบถ้วนภายในปีนี้ ส่วนแก้ปัญหารถสาธารณะจอดแช่บนถนนสุขุมวิทเพื่อบริการลูกค้าต่างชาติ ตั้งแต่ซอยนานาจนถึงซอยทองหล่อ กทม.จะบูรณาการความร่วมมือกับตำรวจในพื้นที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาการจราจรต่อไป
...
“จากการลงพื้นที่สัญจรรอบ 2 ทุกอย่างมีความก้าวหน้าเป็นไปด้วยดี ตามนโยบายเส้นเลือดฝอยที่ กทม.สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนในชุมชนต่างๆได้” นายชัชชาติกล่าว.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่