ตะครุบหนุ่มไทยรับจ้างขนย้ายคอมพิวเตอร์และมือถือกว่า 1 พันเครื่อง จากชายแดน อ.แม่ระมาด จ.ตาก เตรียมส่งพัสดุไปให้ขบวนการใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คาดเป็นของกลุ่มทุนจีนเทา เร่งย้ายฐานที่มั่นจากชเวโก๊กโก-เมียวดี ไปปอยเปต หลังโดนกดดันหนัก “รมว.ยุติธรรม” นำคณะบินลงแม่สอดช่วยสาวฮ่องกง 1 ในเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งกลับบ้านเกิดสำเร็จ “สืบภาค 1” ขยายผลจับหนุ่มจีนว่าจ้างคนไทยติดตั้ง “ซิมบ็อกซ์” ย่านรามคำแหงได้แล้ว ขณะที่ “สืบภาค 2” เปิดปฏิบัติการซีลชายแดน ทลายขบวนการพาคนข้ามไปทำงานกับกลุ่มมิจฉาชีพ

ทุนจีนเทาเร่งเคลื่อนพล หลังเมืองชเวโก๊กโก และเมียวดี ถูกทางการจีนกดดันหนัก ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ว่า ขณะนี้ขบวนการสแกมเมอร์ ที่มีชาวจีนเป็นนายทุนใหญ่ มีฐานที่ตั้งอยู่ในเมืองชเวโก๊กโก เคเคปาร์ค และเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆไปยังฐานปฏิบัติการแห่งใหม่ หลังจากรัฐบาลจีนส่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา วางแผนร่วมกับรัฐบาลไทยเร่งปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ข้ามชาติ ส่งผลให้กลุ่มจีนเทาต้องปรับกระบวนทัพและหาแหล่งพำนักใหม่ มุ่งเน้นไปยังสถานกาสิโน เมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อช่วงสายวันที่ 1 ก.พ. ทหารหน่วย ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร ร่วมกับทหารพราน กรมทหารพรานที่ 35 ตชด.ที่ 345 ตำรวจ สภ.แม่ระมาด และฝ่ายปกครองอำเภอแม่ระมาด จ.ตาก จับกุมรถกระบะโตโยต้า รีโว่ รุ่นจีอาร์สปอร์ต สีขาว ทะเบียน กต 6389 ตาก บรรทุกกล่องใส่สิ่งของมาเต็มคันรถ บนเส้นทางเขตรอยต่อบ้านท่าล้อ-บ้านน้ำดิบบอนหวาน ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก เปิดกล่องตรวจสอบพบโทรศัพท์มือถือใช้แล้ว 1,251 เครื่อง ซิมโทรศัพท์ 274 อัน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 19 ชุด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท มีนายอาทิตย์ ร่วมจิตวรวิทย์ อายุ 45 ปี ชาว อ.แม่ระมาด เป็นคนขับ และมีภรรยานั่งคู่กันมาด้วย

...

สอบสวนนายอาทิตย์รับสารภาพอ้างว่า ได้รับการติดต่อให้มารับสิ่งของที่ริมแม่น้ำเมย ช่วงบ้านน้ำดิบบอนหวาน อ.แม่ระมาด จ.ตาก เพื่อนำไป ส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน ให้กับคนชื่อ “เปาวลี” อยู่บ้านเลขที่ 1256 หมู่ 10 ต.วัฒนา อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท ทำมาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่ถูกจับได้ก่อน จากการตรวจสอบคาดว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือดังกล่าวเป็นของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ที่ต้องการย้ายฐานปฏิบัติการไปอยู่ฝั่งประเทศเขมร ด้านตรงข้าม จ.สระแก้ว คุมตัวคนขับรถพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท.ณว์พรรณ์ เทียมฉันท์ สว. (สอบสวน) สภ.แม่ระมาด เพื่อสืบสวนขยายผลดำเนินคดี

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติ เดินทางมาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อช่วยเหลือชาวจีน-ฮ่องกง ที่ถูกหลอกไปค้ามนุษย์ในเมียนมา หลังได้รับประสานจากสำนักงานเลขาธิการด้านความมั่นคง เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ให้ช่วยเหลือชาวจีน-ฮ่องกง 12 ราย ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มจีนเทา ต่อมาวันที่ 20 ม.ค. พบตัวนายลัม กา ลก ชาวจีน-ฮ่องกง 1 ในเหยื่อ 12 ราย ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก ช่วยเหลือส่งกลับฮ่องกงแล้ว และวันที่ 27 ม.ค. พบตัวนางซือ ฉุย ยี ชาวจีน-ฮ่องกง เพิ่มเติมในฝั่งเมียนมา ขณะนี้รับตัวกลับมาฝั่งไทยแล้ว และเตรียมเดินทางกลับฮ่องกงต่อไป

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.1พ.ต.ท.กิตติพนธ์ สังฆะพันธ์ รอง ผกก.กก.สส.3 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาที่ 32/2568 เข้าค้นห้องพักในคอนโดฯย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ จับนายชุน เชนเหลียว อายุ 37 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 18/2568 ลงวันที่ 1 ก.พ.68 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ชุดสืบสวนเข้าจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 ราย ผู้ติดตั้งเครื่องซิมบ็อกซ์ พร้อมอุปกรณ์ 15 เครื่อง ได้ในพื้นที่ซอยรามคำแหง 52 และซอยรามคำแหง 54 ผู้ต้องหาอ้างรับค่าจ้างติดตั้งเครื่อง จุดละ 25,000 บาท เพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ส่งข้อความ sms ดูดเงินและโทร.หลอกลวงประชาชนให้โอนเงิน

สอบสวนขยายผลทราบว่า นายชุน เชนเหลียว เป็นตัวการใหญ่ของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นผู้ว่าจ้างให้นำเครื่องซิมบ็อกซ์ทั้งหมดไปติดตั้งในพื้นที่ย่านรามคำแหง รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้นและหมายจับ ก่อนเข้าจับตัวได้ในห้องพักพร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ผู้ต้องหารับสารภาพ ตรวจสอบข้อมูลพบว่านายชุน เชนเหลียว มีประวัติคดีฉ้อโกง (บัญชีม้า) และถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงที่ไต้หวัน เมื่อวันที่ 11 ม.ค.67 เป็นผู้ต้องหาที่ทางการไต้หวันต้องการตัว เมื่อปี 53 เคยถูกดำเนินคดี “ร่วมกันฉ้อโกง ปลอมบัตรเครดิต” ศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี ถูกคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 65

ด้าน พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวถึงมาตรการสกัดกั้นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังย้ายฐานมาเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ติดกับ จ.สระแก้ว ว่า ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน ภาค 2 ได้เปิดยุทธการ “อรัญฯ 68 SEAL BORDER” พบหญิงบัญชีม้ารายหนึ่งขอความช่วยเหลือ หญิงคนดังกล่าวอยู่ กทม. ถูกชวนไปทำงานให้เช่าบัญชีทำเว็บพนันในตลาดโรงเกลือ ฝั่งไทย มีขบวนการมารับพาไปเปิดบัญชีในห้างดังย่านลาดพร้าว และพาไป จ.สระแก้ว ก่อนถูกพาข้ามแดนไปกัมพูชา ผ่านช่องทางลับ เป็นช่องทางธรรมชาติใกล้ห้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ จากนั้นมีคนกัมพูชามารับพาส่งให้คนอินเดียที่ฝั่งปอยเปต และพาไปยังออฟฟิศพักคอย สั่งให้เปิดบัญชีคริปโตฯเป็นม้าสแกนหน้า เมื่อบัญชีถูกนำไปก่อเหตุมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความจนบัญชีถูกบล็อก ขบวนการได้ส่งตัวหญิงสาวให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์กักขังต่ออีกจนต้องมาขอความช่วยเหลือ สาวบัญชีม้ารายนี้ได้เงินตอบแทนเพียง 10,000 บาท แต่ต้องเปิดบัญชีม้าถึง 4 บัญชี

ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า อีกรายพบขบวนการพาคนไปทำงานอ้างจะให้เป็นแอดมินเว็บพนัน จนท.ส่งสายลับชุดสืบสวน บูรพา 491 บก.สส.ภ.2 เข้าไปติดตาม พบขบวนการนำพานัดพบใกล้ห้างแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อพาไปใกล้หน้าด่านพรมแดนคลองลึก จะมีรถเก๋งมารับขับไปตามถนนเลาะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านด่านทหารพรานเข้าไปจนถึงบ้าน “เจ๊ ม.” และ “ตา ท.” ที่อยู่ประชิดชายแดน มีพฤติการณ์เปิดช่องทางธรรมชาติให้คนข้าม คิดค่าผ่านทางหัวละ 7,000 บาท เมื่อเข้าไปจะมีคนเปิดประตูให้พาเข้าถนนลูกรังมุ่งหน้าไปทางคลองพรมโหดี่กั้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ชุดสืบสวนบุกเข้าจับกุมได้ทั้งหมด คุมตัวเจ๊ ม.และตา ท. ทำประวัติ และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพื่อจับกุมดำเนินคดี

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่