“กองปราบปราม” บุกรวบอดีตอัยการจังหวัดกลางกรุง หลังหนีไม่มาฟังคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 3 คดีตกเป็นผู้ต้องหารับสินบนจากผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด 1 แสนบาท เพื่อไม่ให้ถูกลงโทษ หลังสู้คดีถึงชั้นฎีกาเชื่อติดคุกแน่ ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย สั่งจำคุก 3 ปี 4 เดือน จากนั้นหลบเลี่ยงเงื้อมมือกฎหมายไปมาระหว่าง จ.ยโสธรและกรุงเทพฯ หลังถูกรวบให้การรับสารภาพ ส่งตัวให้ศาลดำเนินการตามคำพิพากษาต่อไป
ชุดสืบสวนกองปราบปรามตามรวบอดีตอัยการจังหวัดเบี้ยวนัดฟังคำพิพากษาคดีรับสินบน 1 แสนบาท ช่วยผู้ต้องหาคดียาเสพติด เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.พ. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายคงศิริ สันทนะประภา อายุ 67 ปี อดีตอัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่ 11/2566 ลงวันที่ 26 ธ.ค.2566 ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม (หลบหนีหมายศาล) จับกุมที่บ้านในพื้นที่แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2544 ขณะนายคงศิริยังรับราชการสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ดำรงตำแหน่งเป็นอัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร มีหน้าที่รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนในเขตอำนาจการสอบสวน พิจารณาเสนอความเห็นสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องสำนวนต่อศาลจังหวัดยโยธร แต่นายคงศิริเรียกรับเงิน 1 แสนบาท จากญาติผู้ต้องหา ไม่ให้ถูกลงโทษจำคุกคดีมียาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย
สอบสวนทราบว่า พนักงานสอบสอน สภ. มหาชนะชัย จ.ยโสธร รวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็นสั่งฟ้องคดียาเสพติดดังกล่าว ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร เพื่อส่งฟ้องศาลตามขบวนการยุติธรรม แต่นายคงศิริผู้มีอำนาจพิจารณาทำความเห็นและสั่งคดีดังกล่าว กลับรับเงินสินบนเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดี อันเป็นการกระทำการโดยมิชอบ เป็นเหตุให้สำนักงานอัยการจังหวัดยโสธรได้รับความเสียหาย
...
หลังนายคงศิริถูกตรวจสอบพบว่า เรียกรับสินบนจากผู้ต้องหาจริงถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย เมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลฎีกาถึงกำหนดวันนัดฟังคำพิพากษา ปรากฏว่านายคงศิริกลับไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะรู้ตัวดีว่ากำลังจะแพ้คดีต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เลือกหลบหนีคดีไม่มาฟังคำพิพากษา
ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาว่า นายคงศิริกระทำความผิดจริง หลังจากนายคงศิริสู้คดีตามกระบวนการถึงศาลฎีกา สุดท้ายเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 ศาลมีคำพิพากษาให้รับโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน แต่นายคงศิริหลบหนีการจับกุมไปมาระหว่างพื้นที่ จ.ยโสธร และกรุงเทพ มหานคร ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จึงออกหมายจับนายคงศิริข้อหาหลบหนีหมายศาลเอาไว้ คดีมีอายุความ 10 ปี พร้อมประสานตำรวจหลายหน่วยเร่งติดตามตัวมาให้ศาล เนื่องจากเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม และเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจเป็นวงกว้าง
ล่าสุดชุดสืบสวน กก.3.บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. สืบทราบว่า นายคงศิริ หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่บ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย นำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวนเบื้องต้น นายคงศิริให้การรับสารภาพ คุมตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่