แก๊งขนแรงงานเถื่อนเหิมเกริมหนัก ใช้รถพ่วง 22 ล้อขนชาวเมียนมาจากชายแดนสังขละบุรี อัดแน่นเต็มคันถึง 169 คน ก่อนจนมุมคาจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ คุมตัวคนขับและเพื่อนดำเนินคดีรับสารภาพรับจ้างขนต่างด้าวไปส่งตัวเมืองกาญจน์ ได้ค่าเหนื่อยหัวละ 6,000 บาท อีกรายตำรวจเมืองคอนสกัดจับชาวเมียนมา 53 คน ซุกรถบรรทุก 6 ล้อ มุ่งหน้าชายแดนมาเลย์ ระหว่างทางรถเสียหลักตกร่องกลางถนน โชเฟอร์อาศัยช่วงชุลมุนเผ่นหนี

ตำรวจร่วมกับทหารสกัดจับขบวนการค้าแรงงานเถื่อน ลักลอบใช้รถพ่วง 22 ล้อขนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองคาด่านถึง 169 คนรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 1 ม.ค. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ร่วมกับนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช รรท.ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์/ผบ.ร.29 พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.ต.อ.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รรท.ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า และ พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ นำกำลังตั้งจุดสกัดบริเวณจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ ทางหลวงสาย 323 หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ

พบรถพ่วง 22 ล้อ ทะเบียน 83-5900 กาญจนบุรี ขับมาจากชายแดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งมาเต็มคันและตัวพ่วง มีการใช้สแลนคลุมอำพรางสายตา บางส่วนนั่งอัดแน่นในห้องโดยสารรวมทั้งหมด 169 คน แยกเป็นชาย 102 คน และหญิง 67 คน ส่วนคนขับทราบชื่อนายชินกร แสนสีคำมวล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 820/9 หมู่ 1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และนายอำนาจ เข็มศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 691/1 หมู่ 1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย เพื่อนที่นั่งมาด้วยดำเนินคดีข้อหา “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วนกลุ่มแรงงานเมียนมาทั้ง 169 คนมีความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ

...

สอบสวนนายชินกร คนขับให้การว่าตนพร้อมนายอำนาจนำรถพ่วงไปรับชาวเมียนมาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาจาก อ.สังขละบุรี ใช้เส้นทางสาย 323 (สังขละบุรี-กาญจนบุรี) มุ่งหน้าไปส่งปลายทาง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีรถบรรทุกมารับช่วงต่อไปส่งในพื้นที่จังหวัดชั้นในอีกทอดหนึ่ง ได้ค่าจ้าง หัวละ 6,000 บาท ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 วันก่อนใช้รถพ่วงคันเดียวกันขนแรงงานชาวเมียนมามาแล้วช่วงกลางดึกเวลา 01.00-02.00 น. แต่ครั้งนี้เลือกตอนเช้า เพราะมีทีมงานคอยนำทางสังเกตการณ์ตามด่านต่างๆและแจ้งข่าวตลอดทาง เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะผลัดเวรยาม ทำให้ขับรถผ่านด่านง่าย แต่ผิดคาดกลับเจอเจ้าหน้าที่เต็มจุดตรวจ

ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ช่วงเช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.อิสริย์กร แก้วประเสริฐ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 70-7575 ลำปาง เสียหลักตกร่องกลางถนนสายเอเชีย 41 ฝั่งล่องใต้ บริเวณหน้าหมวดการทางหลวงนาบอน หมู่ 9 ต.แก้วแสน อ.นาบอน ตรวจสอบพบหน้ารถพังเสียหาย กระบะท้ายคลุมผ้าใบมิดชิด ภายในพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 53 คน เป็นชาย 38 คน และหญิง 15 คน แต่ไม่พบคนขับ ก่อนนำรถเครนมายกรถบรรทุกและคุมตัวชาวเมียนมาทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก

ต่อมา พ.ต.อ.ภูวศิษฏิ์ วังแก้ว ผกก.สภ.นาบอน ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสอบปากคำแรงงานต่างด้าว ทราบว่าทั้งหมดลักลอบหลบหนีออกจากชายแดนประเทศเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดนจังหวัดภาคเหนือของไทย จากนั้นมีรถมารับไปส่ง จ.สมุทรสาคร และมีรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวมารับส่งชายแดนภาคใต้เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่มาเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักตกร่องกลางถนนเสียก่อน เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับไม่ทราบว่าเป็นใครอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากหลับใน หลังสอบปากคำตำรวจจะสอบขยายผลติดตามจับกุมคนขับและนายทุนตัวบงการใหญ่ในการขนแรงงานต่างด้าวต่อไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่