ฟังสองมุม ปมดราม่าหมาเป็นเหตุ สั่งล้อมรั้วปิดทางเข้าออกชุมชน ด้านเจ้าของหมาแจงเป็นที่ส่วนบุคคล แต่เปิดโอกาสให้เดินเข้าออกนาน 50 ปี สุดท้ายทะเลาะกัน ท้าทายให้ปิดทาง จึงทำตามที่ขอ ยันไม่รื้อรั้ว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบกับ น.ส.ปัทมา อายุ 38 ปี ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงความเดือดร้อนที่ครอบครัวได้รับจากการกระทำของเพื่อนบ้านที่ล้อมรั้วปิดทางเข้าออกชุมชน หลังจากทะเลาะกันเรื่องสุนัขของเพื่อนบ้านที่มักเข้ามาไล่กัดทำร้ายคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกเล็ก 2 คนและรถยนต์ที่จอดไว้
น.ส.ปัทมา กล่าวว่า ปัญหานี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 67 หลังจากตนโพสต์ตำหนิเพื่อนบ้านเรื่องสุนัขที่ชอบเข้ามาไล่กัดคนในบ้าน ทำให้แม่สามีล้มได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวอยู่ถึงทุกวันนี้ กัดแทะรถยนต์ที่จอดไว้ข้างบ้าน ที่สุดทนเมื่อมาไล่กัดลูกเล็ก 2 คนของตน จึงโพสต์ตำหนิผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แล้วเกิดการปะทะคารมกัน จากนั้นเพื่อนบ้านก็เข้ามาด่าและสั่งช่างมาล้อมรั้วปิดทางเข้า-ออกชุมชน ทำให้ตนและเพื่อนบ้านหลายหลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะแม่วัยชราของตนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องตัดนิ้วเท้าเดินไม่สะดวก ทำให้ได้รับความลำบากมากเวลาต้องออกไปหาหมอ เพราะต้องเดินไกลกว่าปกติ
...
จึงตั้งคำถามผ่านสื่อฯ ถึงการปิดล้อมรั้วของเพื่อนบ้านว่าทำได้หรือ ในเมื่อที่ผ่านมาตนและคนในชุมชนเข้าใจมาโดยตลอดว่าทางเข้าออกนี้เป็นทางสาธารณะ ซึ่งเมื่อปี 2562 มีการใช้งบประมาณของเทศบาล ต.คลองด่าน มาทำถนนในซอยให้ และยังมาบอกตนให้ช่วยออกเงินค่าถมดินและค่าทำเขื่อนรวมเป็นเงินกว่าหมื่นบาท พอมีปัญหากัน กลับมาล้อมรั้วปิดทางเข้าออก แล้วบอกว่าเป็นที่ส่วนบุคคล
นายสุทัศน์ และ นางสุนันท์ อายุ 64 และ 63 ปี พ่อ-แม่ของ น.ส.ปัทมา กล่าวว่า ครอบครัวตนใช้เส้นทางเข้า-ออกนี้มากว่า 50 ปีแล้ว หลังมีปัญหากันกลับถูกเพื่อนบ้านอ้างเป็นเจ้าของที่ดินแล้วมาทำรั้วปิด ส่วนเรื่องสุนัขที่เป็นต้นเหตุของปัญหานั้น ไม่ยอมรับว่าเป็นสุนัขของเขา แต่มีการเลี้ยงให้อาหารทุกวัน ตนและภรรยาได้รับความเดือดร้อนจากการถูกปิดล้อมรั้วทางเข้าออกเป็นอย่างมาก หากภรรยาที่ป่วยเป็นเบาหวานและถูกตัดนิ้วเท้าไป 4 นิ้ว ป่วยกลางดึกจะทำอย่างไร ตนคนเดียวคงอุ้มไม่ไหว
ก่อนหน้านี้ถนนอยู่ข้างบ้าน จะเดินทางก็ลงจากบ้านขึ้นรถได้เลย แต่ปัจจุบันต้องเดินไกลกว่า 50 เมตร รวมถึงหลังทำรั้วปิดทางเข้า-ออก ยังมีสายไฟฟ้าพาดอยู่บนรั้วสังกะสีข้างบ้านตน ทำให้สุ่มเสี่ยงเกิดไฟช็อตอีกด้วย จึงวอนผ่านสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง
...
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านหลังที่ถูกกล่าวหาว่าล้อมรั้ว พบกับ นายเรืองศักดิ์ อายุ 64 ปี และ นางสายสมร อายุ 60 ปี สองพี่น้องเจ้าของพื้นที่ นำหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมชี้แจงรายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้น
นายเรืองศักดิ์ พี่ชาย กล่าวว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นพ่อ ปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกันของตนกับนางสมร โดยมีการแบ่งที่ดินส่วนหนึ่งซึ่งอยู่ด้านข้างทำเป็นถนนเพื่อให้คนในครอบครัวได้เดินทางเข้าออก ขณะเดียวกัน เพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้เคียงก็ได้อาศัยใช้เส้นทางดังกล่าวนี้ร่วมด้วย ซึ่งครอบครัวของตนก็ไม่ได้ติดขัดอะไร อนุญาตให้ใช้มายาวนานกว่า 50 ปี ตนไม่เคยยกที่ดินในส่วนที่เป็นถนนเข้า-ออกของบ้านให้เป็นทางสาธารณะ แต่ยินยอมให้คนอื่นเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมได้
...
ส่วนเรื่องที่มีการนำเงินงบประมาณของเทศบาลตำบลคลองด่าน ในสมัยที่ นายสนั่น สุขแสง ญาติของตน ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี มาใช้ซ่อมแซมถนน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมกัดเซาะทำให้ถนนพัง เรื่องนี้ก็มีการประชาคม สอบถามคนที่อยู่โดยรอบและได้ใช้ประโยชน์กับถนนเส้นนี้ ซึ่งทุกคนยินยอมและต้องการให้เทศบาลฯ ทำ สุดท้ายขอขอบคุณสื่อมวลชนจากไทยรัฐที่เปิดโอกาสให้ตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยไม่ฟังความฝ่ายเดียว
นางสายสมร น้องสาว กล่าวว่า ยอมรับว่าทะเลาะกันเรื่องสุนัข กระทั่งลุกลามใหญ่โต มีการท้าทายให้กั้นรั้วปิดทาง ตนจึงทำตามคำท้าทาย แต่ก็ทำประตูบานเลื่อนเปิดไว้ตรงกลาง ทุกคนที่เคยใช้รวมถึงคู่กรณีสามารถเดินเข้าออกได้ ตนไม่ได้ปิดกั้น แต่คู่กรณีไม่เข้ามาใช้เอง ส่วนเรื่องที่จะออมชอม ตนยืนยันไม่รื้อถอนรั้วออกแน่นอน
...
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นได้พบสุนัขที่เป็นตัวต้นเหตุของปัญหา อยู่ประมาณ 3 ตัว วิ่ง-นอนเล่นอยู่ไม่ห่างจากเจ้าของบ้าน.