เจ้าหน้าที่ธุรการร้องสื่อ อ้างถูกอดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก ลวงขึ้นรถไปข่มขืนริมถนนกลางวันแสกๆ พร้อมให้เงิน 3,000 บาท

วันที่ 20 มกราคม 2568 มีรายงานว่า น.ส. บี (นามสมมติ) อายุ 29 ปี พนักงานธุรการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก ได้เข้ามาร้องกับสื่อ โดยอ้างว่าถูกอดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนลวงขึ้นรถไปข่มขืนภายในรถยนต์ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 11.20 น. บริเวณข้างถนนก่อนถึงแยกสุพรรณิการ์ ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก จึงได้แจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.จุฑามาศ พรประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก ในวันดังกล่าวตอนเวลา 13.54 น. โดยได้นำพยานหลักฐาน 2 อย่าง คือ กระดาษทิชชู่เช็ดคราบอสุจิ และ เงินสดจำนวน 3,000 บาท ที่รอง ผอ. คนดังกล่าวให้ไว้หลังจากข่มขืนเสร็จ มอบให้แก่พนักงานสอบสวนเพื่อเป็นพยานหลักฐานและนำคราบอสุจิไปตรวจสอบพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันตัวตนเจ้าของคราบอสุจิที่ผู้เสียหายนำมาเป็นพยานหลักฐาน

โดยผู้เสียหายให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า วันที่ 23 ธันวาคม 2567 ผู้แจ้งเป็นพนักงานธุรการโรงเรียนได้เดินทางออกมาทำธุรกรรมที่ธนาคารกรุงไทย สาขานครนายก และได้มีรอง ผอ. ขับรถมาที่ธนาคารกรุงไทย สาขานครนายก ได้ฝากผู้แจ้งทำธุรกรรมกดเงินสด เมื่อเสร็จธุรกรรม รอง ผอ.ได้บอกกับผู้แจ้งให้ขึ้นรถยนต์ไปด้วย โดยให้เหตุผลกับผู้แจ้งว่ามีธุระด่วนต้องไปทำต่อ จึงได้ร่วมรถไปถึงบริเวณสถานที่เกิดเหตุ

เมื่อจอดรถเสร็จ จากนั้น รอง ผอ.รร. ได้พูดจาโน้มน้าวกับผู้แจ้งให้ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย และได้กระทำชำเราสอดใส่จนสำเร็จความใคร่ จากนั้น รอง ผอ.รร. ได้มอบเงินจำนวน 3,000 บาทให้กับผู้แจ้งและให้เหตุผลว่าเอาไปใช้กินใช้เที่ยวช่วงปีใหม่

...

ขณะเดียวกันผู้เสียหายได้ร้องเรียนร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 โดยมีนางสาวจิรวดี บรรพบุตร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครนายก เลขานุการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครนายก เป็นผู้รับเรื่อง และได้ส่งหนังสือตอบรับมาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568

ด้านเจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนดังกล่าว เล่าว่า อดีตรองผอ. มีพฤติกรรมชอบพูดแทะโลมผู้หญิงอยู่เรื่อย รวมทั้งพฤติกรรมลวนลามผู้หญิงเกิดขึ้นบ่อยมาก หากมีคนสมยอม เขาก็จะเงียบ แต่กรณีของเจ้าหน้าที่ธุรการคนนี้ไม่ยอม เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ธุรการคนนี้มีเรื่องอะไรก็จะมาเล่าให้คนฟังเนื่องจากสนิทกับตน และรู้สึกอัดอั้นตันใจไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ ทำให้ตนรู้ว่าที่ผ่านมา รองผอ.คนนี้ลวนลามเจ้าหน้าที่คนนี้อยู่บ่อยครั้ง

ในวันที่เจ้าหน้าที่ธุรการต้องอยู่เวรโรงเรียน รอง ผอ.คนนี้จะใช้ให้ผู้เสียหายขึ้นไปหาในห้องปลอดสายตาคน เช่น ให้ไปหาของ พอสบโอกาสก็จะเข้ามาลวนลามจับต้องตามร่างกาย ที่ผ่านมาผู้เสียหายก็พยายามปัดป้องตัวมาโดยตลอด ส่วนคนอื่นจะโดนหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจเพราะเขาอาจจะไม่ได้สนิทกับตนอย่างผู้เสียหายรายนี้

จากที่เคยได้ยินประวัติ รองผอ.คนนี้จากที่ทำงานเก่าก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่ก็จะมีประวัติเรื่องผู้หญิงชัดเจน แต่ตนไม่รู้ว่าที่ผ่านมาจริงไหม แต่สำหรับที่โรงเรียนนี้พบว่าเป็นจริงอย่างที่ได้ข่าวมาตามที่ผู้เสียหายเล่าให้ตนฟัง โดยอดีตรองผอ.คนนี้ จะมีกล้องวงจรปิดส่วนตัวที่เอามาติดตั้งเองในโรงเรียนเพื่อดูว่าใครจะมาเข้าเวรที่โรงเรียนอยู่ตลอด

และเมื่อดูกล้องที่เอามาติดไว้เองแล้วรู้ว่าผู้เสียหายคนนี้มาเข้าเวรก็จะแสดงพฤติกรรมเดินเข้าไปหาที่โต๊ะทำงาน บางครั้งผู้เสียหายจะพาสามีมาอยู่เป็นเพื่อน แต่พอรองผอ.คนนี้เดินเข้ามาเจอสามีผู้เสียหายก็จะตกใจผงะ รีบเดินออกจากห้องไปทันที ส่วนเรื่องล่าสุดที่ลวงผู้เสียหายไปข่มขืนในรถนั้น วันนั้นเป็นเวลาราชการ กลางวันแสกๆ ซึ่งตอนนี้อดีตรองผอ.คนนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ตนรู้สึกว่าพฤติกรรมเช่นนี้ก็ยังเป็นอยู่เนื่องจากเกิดความย่ามใจไม่มีใครออกมาเอาเรื่อง

จากนั้นผู้เสียหายได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดที่ถูกอดีตรองผอ. ลวงไปข่มขืน ริมถนนข้างทางบริเวณข้างถนนก่อนถึงแยกสุพรรณิการ์ ต.ท่าช้าง อ.เมืองนครนายก พร้อมทั้งมอบบทความสนทนาระหว่างผู้เสียหาย กับคลิปเสียงที่รองผอ.พูดจาบังคับให้ผู้เสียหายไปหา.