ยอดอุบัติเหตุ 8 วันของการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยฯ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 พุ่งลิ่วกว่า 2.1 พันครั้ง คร่าชีวิตแล้ว 363 ศพ เจ็บทะลุ 2 พันราย กทม.ขึ้นแชมป์ตายเยอะสุด ด้านรองอธิบดี ปภ.เตือนคนกลับจากเหนือ-อีสาน ขับขี่ยวดยานด้วยความระวังจากสภาพอากาศ อาจมีหมอกลงจัด เลี่ยงเส้นทางที่ อาจมีการเผาพื้นที่เกษตรข้างทาง รวมถึงหากง่วง เพลีย เหนื่อยล้าให้แวะพัก อย่าฝืนขับรถ ส่วนคดีเมาแล้วขับรวม 8 วัน 6,927 คดี ติดกำไล EM แล้ว 41 ราย
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อวันที่ 4 ม.ค. เวลา 10.30 น. นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดี ปภ. ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2568 แถลงข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 ม.ค.2568 เป็นวันที่ 8 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ว่ายังมีประชาชนเดินทางกลับเข้าพื้นที่ กทม. และจังหวัดอื่นที่เป็นเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ทำให้รถบนเส้นทางสายหลักและสายรองมีปริมาณหนาแน่นอีกครั้ง ศปถ.กำชับให้ทุกจังหวัดยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างต่อเนื่อง เข้มข้นการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัดบนถนน สายหลัก บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ร่วมกับการตั้งจุดพักรถและจุดบริการประชาชน เพื่อรองรับประชาชนที่อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากการขับรถเป็นเวลานาน และแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้เส้นทาง ในกรณีไม่ชำนาญเส้นทาง ต้องลดความเร็วในการขับขี่
นายสหรัฐกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณยอดดอยและยอดภูที่มี อากาศเย็นและมีหมอกลงจัดในหลายพื้นที่ ขอให้เปิดใช้ไฟตัดหมอก หลีกเลี่ยงการแซง และเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า ส่วนในพื้นที่ที่มีทัศนวิสัยต่ำจากควันไฟที่เกิดจากการเผาไร่สวนข้างทาง อาจทำให้ไม่สามารถมองเห็นทางได้อย่างชัดเจนและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น หากเป็นไปได้ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทาง หากจำเป็นขอให้ลดความเร็วในการเดินทางลง รวมถึงประเมินสภาพความพร้อมในการขับขี่ของตนเองเสมอ หากง่วง อ่อนเพลีย หรือรู้สึกเหนื่อยล้า ขอให้แวะพักยังจุดพักรถหรือจุดบริการประชาชน อย่าฝืนขับรถต่อ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
...
สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 3 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุ 205 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 199 คน ผู้เสียชีวิต 32 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถเร็ว และทัศนวิสัยไม่ดี ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ส่วนใหญ่ยังได้แก่รถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ถนนกรมทางหลวง และถนนใน อบต./หมู่บ้าน ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 17.01-18.00 น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50-59 ปี จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 10 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 11 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก 3 ราย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 8 วันของการรณรงค์ (27 ธันวาคม 2567-3 มกราคม 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,149 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,090 คน ผู้เสียชีวิตรวม 363 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 78 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 88 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กทม. 21 ราย
ขณะที่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีคุมประพฤติช่วงปีใหม่ 2568 ว่า วันที่ 3 ม.ค. มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติรวมทั้งสิ้น 681 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 610 คดี และคดีขับเสพ 71 คดี สรุปยอดสะสม 8 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2567-3 ม.ค.2568 มีคดีคุมประพฤติรวม 7,237 คดี ยอดติดกำไล EM สะสม 43 ราย เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 6,927 คดี (ร้อยละ 95.72) ติด EM 41 ราย คดีขับเสพ 304 คดี (ร้อยละ 4.20) ติด EM 2 ราย คดีขับรถประมาท 4 คดี (ร้อยละ 0.05) คดีขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 คดี (ร้อยละ 0.03) จังหวัดที่มียอดสะสมคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กทม. 511 คดี เชียงใหม่ 427 คดี และสมุทรปราการ 359 คดี
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่