เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ณ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยมีผู้แทนสมาชิกสมาคมเข้าร่วมประชุม 38 องค์กร เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ สมัยที่ 13 (ปี 2567) รายงานสถานะการเงินประจำปี 2566-2567, แต่งตั้งผู้สอบบัญชี และแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมาย
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ สมัยที่ 13 มีรายละเอียดโครงการประกอบด้วย
1. กิจกรรมสัมมนา “กระชับสัมพันธ์ SONP” ระดมสมองทิศทางการดำเนินงานปี 67 ณ เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ
2. กิจกรรม One Day Training ครั้งที่ 1: หัวข้อ “Digital Journalism in the context of Influencer Economy Business Model & Monetization”, ครั้งที่ 2: หัวข้อ “ความสำคัญของ MarTech กับอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัล ในยุค Digital Era” ส่วนครั้งที่ 3 หัวข้อ “Navigating Change: Strategies for Survival of Online News Providers in the Evolving Media Landscape” และครั้งที่ 4 หัวข้อ: Cyber Security & กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3. โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวรุ่นเยาว์ ประจำปี 2567 รุ่นที่ 8 (Young Digital News Providers 2024) ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี
4. โครงการประกวด รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี 2567 (Digital News Excellence Awards 2024) ณ ห้องมรกต โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่ต่อยอดจากโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวรุ่นเยาว์ เปิดเวทีให้นิสิต นักศึกษา ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ ส่งผลงานเข้าประกวด ในประเภท “รางวัลผู้ผลิตข่าวรุ่นเยาว์” เพื่อเตรียมความพร้อมกับการก้าวเข้ามาทำงานในวงการข่าวดิจิทัลอย่างมืออาชีพ
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังเข้าร่วมกับพันธมิตรด้านสื่อสารมวลชน จัดทำโครงการเพื่อสังคม และพันธมิตรสื่อต่างประเทศ อาทิ
1. ร่วมเวที Media Forum กฎบัตรปารีสเรื่องจริยธรรมสื่อในยุค AI และ บริบทของไทย จัดโดย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ
2. ร่วมเป็นกรรมการ (ร่าง) แนวปฏิบัติ เรื่อง การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับสื่อมวลชน โดย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติพร้อมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น
3. ร่วมประชุมความร่วมมือระหว่างองค์กรสื่อของไทยและกัมพูชา
4. พบปะหารือกับทีมโฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย
5. เปิดตัวโครงการเพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ: Cyber Booster #สร้างภูมิสู้ภัยไซเบอร์
นายนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมฯ กล่าวขอบคุณ “คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ สมาชิกสมาคมฯ ทุกองค์กรที่ร่วมกันขับเคลื่อน และผลักดันวิชาชีพด้านสื่อออนไลน์ จากความท้าทายด้านเทคโนโลยี สมาคมฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนในหลาย ๆ ด้าน เนื่องจากปัจจุบันได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้น จึงต้องมีผู้ดูแลบริหารจัดการงานสมาคมฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ อุปนายกดูแลเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านมาตรฐานวิชาชีพ ด้านพัฒนาธุรกิจ และด้านวิชาการ รวมถึงมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการบริหารสมาคมฯ ด้วย”
สำหรับการดำเนินงานของสมาคมฯ ในปี 2567 นั้น นโยบายหลักของสมาคมฯ คือ การพัฒนาให้ความรู้กับบุคลากรของสมาชิก โดยในปีนี้ได้มีความร่วมมือกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ หรือองค์กรเอกชน รวมถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ความรู้กับสมาชิกฯ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ รวมถึงการสร้างสรรค์ผลิตคอนเทนต์ อาทิ การอบรม One Day Training ที่ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน จัดทำโครงการเพื่อประโยชน์ต่อสังคม อย่างเช่น โครงการ Cyber Booster #สร้างภูมิสู้ภัยไซเบอร์ สร้างความปลอดภัย เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยเหลือประชาชนให้รู้ทันภัยไซเบอร์จากมิจฉาชีพออนไลน์ เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายการสถานีประชาชน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และ บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโครงการฯ ต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป ส่วนการหารายได้ยังมีการหารือร่วมกับทาง Google พร้อมทั้งเน้นย้ำอุปนายกด้านพัฒนาธุรกิจ ระดมกรรมการตั้ง Core Team เพื่อหาแนวทางการสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้กับสมาชิก
“ขอชื่นชมโครงการประกวด “รางวัลข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม” ครั้งที่ 10 มีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดมากขึ้น รวมถึงสมาชิกสมาคมฯ ที่ส่งผลงานเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอที่ชวนติดตามตั้งแต่วินาทีแรกจนจบคลิป แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านการสร้างสรรค์ของหลายสื่อสมาชิก และมียอดการรับชมที่สูง แต่ไม่ได้ลดคุณภาพของเนื้อหาการทำหน้าที่สื่อ และสุดท้ายขอขอบคุณสมาชิกทุกองค์กรที่ให้ความช่วยเหลืองานกิจกรรมสมาคมฯ มาตลอดทั้งปี”
จากนั้นในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ที่ปรึกษาและสมาชิกสมาคมฯ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมทั้งหารือให้คำแนะนำแก่คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในปีต่อไป
นายระวี ตะวันธรงค์ ที่ปรึกษาสมาคมฯ กล่าวว่า “ขอชื่นชมการทำงานของนายกฯ และคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ในปีหน้าจะเป็นปีที่แนวโน้มเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ซึ่งจะมีผลต่อธุรกิจโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่กระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อ ทางสมาคมฯ ควรมีการวางทิศทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมสื่อ เพื่อช่วยเหลือบุคลากรด้านสื่อที่อาจจะตกงานเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ หรือวิทยุ จึงขอฝากสมาคมฯ เรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งองค์กรและบุคลากร”
นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาคมฯ กล่าวเสนอ “ให้จัดทำหลักสูตรระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือบุคลากรในวิชาชีพที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างธุรกิจสื่อ และหรือบุคคลที่ต้องการทำสำนักข่าวออนไลน์ เนื้อหาหลักสูตรต้องครบกระบวนการผลิตข่าวออนไลน์ ที่รวมถึงเรื่องการตลาด แนวทางการสร้างรายได้ แนะนำแหล่งเงินทุน รวมทั้งเรื่องของกฎหมาย จริยธรรมเข้าไปด้วย ซึ่งสมาคมฯ มีศักยภาพในการบริหารจัดทำหลักสูตร”
นางสาวชุตินธรา วัฒนกุล ที่ปรึกษาสมาคมฯ กล่าวว่า “ขอแบ่งปันการเข้าร่วมสัมมนาที่ประเทศเยอรมนี เรื่อง “เสรีภาพสื่อ” ซึ่งพบว่าสื่อจากหลายประเทศไม่ค่อยมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าว ทั้งยังมีการพูดถึงเรื่อง AI และเรื่องการทำข่าวเชิงสืบสวนในยุคที่ AI เข้ามาคุกคาม โดยมองว่าทางรอดของสื่อต้องเน้นการทำข่าวเชิงสืบสวน สื่อต้องปรับตัว เนื่องจากในตลาดมีทั้ง Influencer รวมทั้ง User generated content ดังนั้นสื่อต้องทบทวนว่าคอนเทนต์ที่นำเสนอไปนั้นแตกต่างจากคนเหล่านี้หรือไม่ ทั้งเรื่องข่าวเชิงสืบสวนหรือ Solution journalism นอกจากเรื่องนี้ยังมีเรื่อง Fact checking และที่น่าสนใจคือเรื่องการใช้วัฒนธรรม POP Culture ส่ง Message สื่อสารเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่”
ปัจจุบันสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ https://www.sonp.or.th/ มีสมาชิกทั้งสิ้น 50 องค์กร ซึ่งประกอบไปด้วยองค์กรสื่อและองค์กรที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตข่าวออนไลน์ โดยในปีนี้สมาคมฯ ได้เริ่มเปิดรับสมาชิกวิสามัญ ประเภท Corporate member หรือสมาชิกองค์กรอีกด้วย