หากย้อนมองไปในอดีต “แว่นตา” คืออุปกรณ์ที่เกิดมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสายตาเท่านั้น “หนุ่มแว่นหรือสาวแว่น” ในยุคก่อน จึงมักถูกนำไปผูกติดกับภาพลักษณ์ของความเป็นเด็กเนิร์ด หรือถูกมองว่าเป็นคนเชยๆ ขาดสีสันในชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนาน
อย่างไรก็ตามเมื่อโลกแห่งแฟชั่นหมุนไป แนวคิดดังกล่าวก็ถูกพลิกกลับแบบ 180 องศา ปัจจุบันแว่นตาไม่ได้มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาสายตาเพียงอย่างเดียว แต่ยังกลายเป็นไอเทมสุดฮอตที่คนรุ่นใหม่แทบทุกคนต้องมีไว้ในครอบครอง เหตุเพราะแว่นตาถือเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นไอเทมที่ช่วยอัปลุคให้ดูดีและโดดเด่นได้ไม่แพ้แอ็กเซสซอรีอื่นๆ ดังนั้นการเลือกแว่นตาให้แมตช์กับเสื้อผ้าหน้าผมในแต่ละวัน จึงกลายเป็นความสนุกของคนยุคใหม่ ขณะเดียวกันแม้แต่การออกแบบกรอบแว่นตาก็ยังมีการปรับเปลี่ยนให้ดูดียิ่งขึ้นตามยุคสมัย จนไม่ผิดนักหากจะบอกว่า “แว่นตาได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องประดับชิ้นสำคัญที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ ความมั่นใจ ทำให้บุคลิกภาพดูดีขึ้น รวมถึงบ่งบอกตัวตนหรือไลฟ์สไตล์ ผ่านสีสันและดีไซน์ของกรอบและเลนส์ที่ประดับอยู่บนเรือนหน้า”
จากมุมมองที่เปลี่ยนไป เราจึงได้เห็นการเติบโตของตลาดแว่นตาอย่างต่อเนื่อง หลากหลายแบรนด์ต่างลงมาแข่งขันสร้างความคึกคักให้วงการ พลิกให้ธุรกิจแว่นกลายเป็นน่านน้ำสีแดงแห่งใหม่ อย่างไรก็ตามท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ชื่อของแบรนด์ “PERCY” กลับโดดเด่นขึ้นมาและเข้าไปนั่งในใจผู้หลงใหลแว่นตาแฟชั่น ในฐานะไอเทมที่อินฟลูฯ สายไลฟ์สไตล์พกติดตัวหรือหยิบมาแนะนำ
อันที่จริงแล้วการบูมขึ้นมาของ PERCY ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด หากแต่เกิดจากวิสัยทัศน์ของ “คุณนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์” CEO แว่นท็อปเจริญ - บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้เป็นหัวเรือใหญ่แห่งแว่นท็อปเจริญ ที่นำความเชี่ยวชาญของแบรนด์อายุเกือบ 8 ทศวรรษมาต่อยอด พร้อมใส่ “หัวใจคนรุ่นใหม่” เข้าไปจนออกมาเป็นแว่นตาที่สะท้อนเสน่ห์ในทุกมุมมอง
ฟังดูแล้วอาจน่าเหลือเชื่อที่ผู้ทำร้านแว่นภาพลักษณ์ภูมิฐานนี้ สามารถจับตลาดแว่นแฟชั่นได้อย่างอยู่มือ เราจึงอยากจะชวนทุกท่านไปรู้จักกับ PERCY ให้มากขึ้น นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงล่าสุดที่แบรนด์ได้เปิดตัวสองพรีเซนเตอร์ใหม่ โดยการดึง “โอบ-โอบนิธิ” และ “ญดา-นริลญา” เป็นตัวแทนสื่อสาร “ความเป็น PERCY” ไปในวงกว้างยิ่งขึ้น
“PERCY” ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างแฟชั่นและฟังก์ชัน
“มันเริ่มต้นจากความตั้งใจจะนำเสนอแว่นตาสวยๆ คุณภาพดี ใส่สบาย ทุกคนเข้าถึงได้ และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เปลี่ยนโลก”
คุณนพศักดิ์เอ่ยกับเราเมื่อถามถึงที่มาของแบรนด์ ก่อนจะเล่าต่อไปว่า แว่นท็อปเจริญเป็นร้านแว่นตาที่อยู่คู่คนไทยมานานมากเกือบ 80 ปี ก้าวข้ามมาทุกยุคสมัย มองเห็นทุกความเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาของเทรนด์จากรุ่นสู่รุ่น นับจากวันแรกๆ ที่ผู้คนเข้าร้านมาซื้อแว่นตาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตา จวบจนปัจจุบันแว่นตากลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ใช้ในการสะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสื่อสารถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน แว่นท็อปเจริญในฐานะผู้นำบริการด้านสายตาที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเสมอมา จึงตระหนักถึงการนำเสนอแว่นตาที่จะตอบโจทย์ยุคสมัย เกิดเป็นแบรนด์ PERCY ที่มุ่งเน้นในเรื่องการดีไซน์อันโดดเด่น มีเอกลักษณ์ พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์อันไร้ขีดจำกัด ผสานกับการใช้งานไปพร้อมกันอย่างลงตัวระหว่างแฟชั่นและฟังก์ชัน
ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้แว่นท็อปเจริญสามารถเดินทางมาถึงเกือบ 8 ทศวรรษได้อย่างมั่นคง คือการทำงานหนักเพื่อมองหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง ซึ่งหัวใจสำคัญนี้ได้ส่งต่อมายัง PERCY เช่นกัน โดยคุณนพศักดิ์ได้เล่าว่า แรกเริ่มแว่นตา PERCY ได้แรงบันดาลใจหลักมาจากทางฝั่งยุโรปอย่าง “ประเทศอิตาลี” ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นเมืองแฟชั่นที่มีผู้ชื่นชอบจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แบรนด์ได้มีการนำแนวคิดการดีไซน์มาพัฒนาต่อเพื่อให้เหมาะกับคนไทยและคนเอเชียมากขึ้น เช่น การปรับรูปแบบของกรอบแว่นหรือแป้นจมูกใหม่ให้รับกับรูปหน้า รวมถึงศึกษาเทรนด์แฟชั่นของประเทศต่างๆ อย่างลงลึก เช่น ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลี เพื่อนำเอาสิ่งที่ดีและเป็นที่สนใจของแต่ละประเทศมาต่อยอดและผสมผสานกลายเป็นแว่นตา PERCY ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากับทุกแฟชั่นทุกสไตล์ มั่นใจได้ว่าเหมาะกับใบหน้าของคนเอเชีย ทุกเพศ ทุกวัย และยังมาพร้อมความเบาสบาย เนื่องจากผลิตจากวัสดุพิเศษคุณภาพดี ไม่ว่าจะเป็น ไทเทเนียม อะซิเตท นิกเกิล เป็นต้น โดยแว่นของ PERCY มีสไตล์ที่หลากหลาย เรียกได้ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ชื่นชอบดีไซน์แบบไหน เพียงมาที่แว่นท็อปเจริญ กว่า 2,000 สาขามากที่สุดในไทยและอาเซียน แล้วสัมผัส PERCY ก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้แว่นที่โดนใจ ใส่ได้พอดี รองรับกับรูปหน้าอย่างแน่นอน
นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจมากๆ คือแบรนด์มีวิธีการทำตลาดที่ “ไม่ตะโกน” กล่าวคือแว่น PERCY จะไม่ได้ติดโลโก้ขนาดใหญ่ที่ตัวแว่นทุกอัน แต่เพราะต้องการนำเสนอความเป็นตัวเองอย่างแท้จริงมากกว่า ซึ่งการตัดสินใจไม่เน้นโลโก้มาก แม้จะเป็นความเสี่ยงในเรื่องการจดจำแบรนด์ แต่คุณนพศักดิ์กลับบอกว่ามันกลายเป็นผลดี เนื่องจากทำให้เข้าถึงวัยรุ่นได้มากขึ้น กลายเป็นกระแสที่สร้างความสนใจและการบอกต่อในหมู่คนรุ่นใหม่ได้อย่างกว้างขวาง
ดึง โอบ-โอบนิธิ, ญดา-นริลญา นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ บอกเล่าตัวตนผ่านแฟชั่น
อีกหนึ่งเรื่องน่าสนใจของ PERCY คือล่าสุดแบรนด์ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์หญิงอีกหนึ่งท่านนั่นคือคุณ ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร เข้ามาร่วมสื่อสารความเป็น PERCY ร่วมกับคุณ โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นาน โดยทั้งคู่ต่างเป็นนักแสดงมากความสามารถ เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในหลากหลายด้าน เป็นแบบอย่างที่ดีของคนเจนล่าสุด และยังมีความมั่นใจ หลงใหลในแฟชั่น ตามติดเทรนด์อยู่เสมอ อีกทั้งยังมักจะหยิบแว่นตาเก๋ๆ มาถ่ายทอดความเป็นตัวเองอยู่เป็นประจำ จึงเรียกได้ว่า ตรงกับคอนเซ็ปต์ของ PERCY ที่กล่าวไว้ว่า “Passions Lead The Way - ให้สิ่งที่คุณหลงใหลนำทาง” อย่างยิ่ง
โดยคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ คุณนพศักดิ์ได้เผยว่า เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดแบรนด์ PERCY เนื่องจากเราต้องการตอบรับแพสชันคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเองที่โดดเด่น เต็มที่กับทุกๆ ความหลงใหล และยังไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว เช่นเดียวกับการหยิบแว่นสวยๆ มาสวมใส่กับทุกลุค เพื่อสื่อสารไลฟ์สไตล์อันมีเอกลักษณ์โดยไม่ยึดติดกับข้อจำกัดเดิมๆ
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา คุณโอบและคุณญดาได้เข้าร่วมงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์ PERCY EYEWEAR อย่างเป็นทางการ ภายในงานมีทั้งการเดินแฟชั่นโชว์อัปเดตเทรนด์แว่นตาสุดชิคเก๋ มินิคอนเสิร์ตจากทั้งสองท่าน อีกทั้งยังมีการแบ่งปันเรื่องราวประทับใจเกี่ยวกับแว่นตา PERCY ในฐานะตัวแทนของคนรุ่นใหม่ พร้อมกิจกรรม Lucky Fan และความสนุกอีกมากมายให้ผู้ร่วมงานได้สนุกสนาน
การันตีคุณภาพจากประสบการณ์เกือบ 8 ทศวรรษ
ทั้งนี้เมื่อเอ่ยถึงแว่นตาแฟชั่น ภาพจำที่หลายคนอาจนึกถึงคือเน้นใส่เอาสวยงาม แต่เรื่องคุณภาพและความคงทนอาจจะเป็นเรื่องรองลงไป แต่แว่นตา PERCY ใส่ใจมากกว่านั้น เราจึงสร้างแว่น PERCY ทุกอันให้มาพร้อม “คุณภาพ” ที่ทุกคนหาซื้อง่ายได้ที่แว่นท็อปเจริญ กล่าวคือตั้งแต่คุณก้าวเข้าไปในร้าน ลูกค้าจะได้รับการบริการที่ดีจากพนักงานที่ผ่านการอบรมมาอย่างเข้มข้น อัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ทุกๆ 3 เดือน เพื่อที่จะสามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างตรงใจ ทั้งในเรื่องการเลือกแว่นที่เหมาะกับบุคลิก รูปหน้า ไปจนถึงการใช้งาน ในส่วนของการวัดสายตาเพื่อตัดแว่นก็ยังมั่นใจได้ถึงความถูกต้องแม่นยำ ด้วยโปรแกรมการตรวจวัดสายตา AxQ20 แบบละเอียดแม่นยำถึง 20 ขั้นตอน ที่ใช้เครื่องมือทันสมัย รวมถึงการใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้สายตา โดยนักทัศนมาตรและผู้เชี่ยวชาญด้านสายตามืออาชีพ ที่สำคัญแว่นตา PERCY ทุกอันยังมาพร้อมบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะดัดปรับทรงแว่น เปลี่ยนแป้นจมูก หรือล้างทำความสะอาด ทุกอย่างฟรีทั้งหมด โดยที่ลูกค้าสามารถเดินเข้าร้านแว่นท็อปเจริญสาขาใดก็ได้
ซึ่งการที่ PERCY มีวางจำหน่ายในร้านแว่นท็อปเจริญกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ ทำให้กลายเป็นจุดแข็งสำคัญอย่างยิ่ง โดยนอกเหนือจากความเข้าถึงง่าย ลูกค้ายังมั่นใจได้ถึงบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อจากสาขาไหน ก็รับบริการได้ทุกที่ทั่วไทย ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากแบรนด์อื่น
มองตลาดแว่นตาเติบโตสูง พร้อมยกระดับสินค้าตอบโจทย์อนาคต
เมื่อสอบถามถึงแนวโน้มของตลาดแว่นตาในอนาคต คุณนพศักดิ์แสดงถึงความเชื่อมั่นว่ายังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก โดยในปัจจุบันมูลค่าการตลาดแว่นตาไทยสูงประมาณ 13,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีก สอดคล้องไปกับการเติบโตของเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีส่วนทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพดวงตามากขึ้น ไปจนถึงวงการแฟชั่นที่มีการปรับทิศทางให้ความสำคัญกับแว่นตาในฐานะเครื่องประดับที่มาแรง
ทั้งนี้ ปัจจุบันแว่นท็อปเจริญ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด โดยมีส่วนแบ่งราว 41% โดยบริษัทยังคงมีจุดแข็งสำคัญเรื่องของสาขาที่มากกว่า 2,000 แห่ง มีช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไปจนถึงการมีสาขาใหญ่ยักษ์ทั้งตึกในรูปแบบ Flagship Store ที่เป็นศูนย์รวมแว่นตาและบริการด้านสายตาครบวงจร ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมแล้วทั่วประเทศไทย ทำให้เกิดข้อได้เปรียบในเรื่องการสต็อกแว่นตา โดยแต่ละสาขามีแว่นกว่า 10,000 อัน นำไปสู่การตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ครอบคลุม และเข้าถึง
สิ่งนี้ยังช่วยหนุนการเติบโตของ PERCY ไปพร้อมกันจากการมีวางจำหน่ายในแว่นท็อปเจริญกว่า 2,000 สาขา ทำให้สามารถสร้างการจดจำและความเชื่อมั่นในแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งด้วยบริการที่ดี ราคาที่เข้าถึงได้ ยังทำให้ลูกค้าเกิดความผูกพัน กลับมาซื้อซ้ำ โดยคุณนพศักดิ์เผยว่ามีเป้าหมายเพิ่มค่าเฉลี่ยการมีแว่นตาต่อประชากรของไทยให้อยู่ในระดับ 1 คนต่อแว่น 5 อัน ซึ่งหากทำสำเร็จอาจจะสามารถเพิ่มการเติบโตได้ถึง 5 เท่าทีเดียว และยังเตรียมความพร้อมจะขยายตลาดไปสู่ทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีศักยภาพในการสร้างความเติบโตสูงมาก
นอกจากนี้ประเทศไทยเองยังนับว่าเป็นผู้นำลำดับต้นๆ ในอุตสาหกรรมแว่นตา โดยแว่นท็อปเจริญเองก็มีลูกค้าต่างชาติเป็นสัดส่วนที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หรือย่านธุรกิจสำคัญ เช่น สุขุมวิท สีลม เป็นต้น
อนาคตแว่นท็อปเจริญยังเตรียมที่จะนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเตรียมที่จะสร้างร้านรูปแบบ Flagship Store สำหรับแบรนด์ PERCY โดยเฉพาะ เพื่อรองรับการเติบโตที่กำลังเป็นไปในทิศทางบวกและอาจมีการขยับขยายไปสู่การทำสินค้าแฟชั่นประเภทอื่นๆ อีกด้วย
จากสิ่งเหล่านี้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมาของ PERCY ได้สร้างความคึกคักให้กับวงการแว่นอย่างมาก ด้วยวิธีการนำเสนอที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ ซึ่งอันที่จริงแล้วแว่นท็อปเจริญเองก็นับเป็นร้านแว่นที่มักสร้างความแตกต่างอยู่เสมอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยล่าสุดที่โดดเด่นและน่าจดจำอย่างยิ่งคือการปรับโฉมภาพลักษณ์ร้าน Flagship Store ในทุกๆ จังหวัด ให้กลายเป็นแลนด์มาร์กสุดอลังการเปี่ยมสีสัน เพื่อสร้างความใกล้ชิดและดึงดูดให้คนทุกเพศทุกวัยเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การตัดแว่นที่เหนือชั้น ตั้งแต่เดินเข้าร้านไปจนถึงได้รับแว่นกลับบ้าน ซึ่งนับเป็นการปรับตัวเข้ากับยุคสมัยแต่ยังเปี่ยมไปด้วยรากฐานสำคัญที่ทำให้แว่นท็อปเจริญเติบโตมาได้ถึงวันนี้ นั่นคือการส่งมอบบริการอันเป็นเลิศที่เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
“ผมถือคติว่าแว่นตาที่ลูกค้าได้รับจากเราไป เขาจะต้องนำไปใส่อย่างมั่นใจและประทับใจ และอยู่กับเขาไปอีกนาน ผมบอกพนักงานทุกคนเสมอว่า ต้องแนะนำแว่นที่เหมาะกับลูกค้าจริงๆ ใส่แล้วต้องดูดี อย่าฝืน หรืออย่าเชียร์ขายแบบผิดๆ เพื่อให้ลูกค้าซื้อเร็วเพียงอย่างเดียว เราต้องนำเสนอสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจจนเขาเอาไปบอกต่อ สิ่งนี้คือการโฆษณาที่ดีที่สุด ฉะนั้นเราจึงต้องใส่ใจกับคุณภาพและบริการของเรามาก”
ข้างต้นคือประโยคที่คุณนพศักดิ์เอ่ยกับเราทิ้งท้าย ซึ่งเป็นการสรุปถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแว่นท็อปเจริญที่ถูกส่งต่อมายัง PERCY ได้อย่างชัดเจน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมแว่นตา PERCY กลายเป็นแบรนด์ที่หลายคนไว้วางใจ ไม่เพียงคนที่เติบโตมากับแว่นท็อปเจริญเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนรุ่นใหม่สายแฟชั่นที่พร้อมจะให้ “Passions Lead The Way” เช่นเดียวกับ PERCY
ทดลองสัมผัสแว่นตาแบรนด์ PERCY ที่พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านแว่นท็อปเจริญกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ