"คนขับ" เล่านาทีเกิดเหตุ "ไฟไหม้รถบัสนักเรียน" อ้างตกใจหนีไปบ้านญาติ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.คูคต พร้อมแจ้งข้อหาหนัก

จากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีครูและนักเรียนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ต่อมา "คนขับรถบัส" ได้ติดต่อมามอบตัวกับตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังหลบหนีตอนรถเกิดไฟไหม้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (ด่วน คนขับรถบัสติดต่อมอบตัวแล้ว หลังหลบหนีตอนเกิดไฟไหม้)

ต่อมา เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 2567 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุทธ จอนขุน ผบก.จ.ปทุมธานี ได้เดินทางมาสอบปากคำ นายสมาน จันทร์พุฒ อายุ 48 ปี คนขับรถบัสที่นำนักเรียนไปทัศนศึกษาและเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ไฟลุกไหม้รถบัสทั้งคัน จนทำให้มีเด็กนักเรียนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย

พล.ต.ต.ชยานนท์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดปทุมธานีเร่งติดตามตัวผู้ขับขี่คือ นายสมาน จันทร์พุฒ มาดำเนินคดี ซึ่งได้ติดตามไปพบที่บ้านภรรยาจังหวัดอ่างทอง ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ เพื่อที่จะขอมอบตัว และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.คูคต เบื้องต้นมีอยู่หลายข้อหาคือ

1. ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 

...

2. ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4), 78, 157, 160 วรรค 2

จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะสอบสวนผู้ต้องหาเกี่ยวกับข้อหาที่แจ้งไปทั้งหมด ส่วนเจ้าของรถนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสภาพรถอีกครั้งและจะพิจารณาข้อหาอีกครั้ง

ขณะที่ นายสมาน เล่าว่า ตนเองขับรถมาคันที่ 2 ประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเสียหลักคล้ายตกหลุม ยางระเบิดหรือถุงลมแตกและล้อหน้าเกิดดึงจนทำให้ไปเฉี่ยวชนกับรถเบนซ์ จากนั้นตัวรถก็ครูดไปกับแท่งแบริเออร์ โดยหลังจากเกิดเหตุที่หนีไปนั้น ทางด้านผู้ต้องหายังให้การว่า หลังเกิดเหตุก็ไปเอาถังดับเพลิงมาช่วยฉีด จากนั้นก็ตกใจและหนีไปบ้านญาติ.