สาวสอบติดครูแต่รายชื่อล่องหน บุก ศธ.ทวงความเป็นธรรม พร้อมแฉซ้ำมีคนในเขตพื้นที่ฯติดต่อขอให้ลบโพสต์ ด้านโฆษกกระทรวงศึกษาธิการยืนยันเรื่องนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน จี้สอบข้อเท็จจริงให้เสร็จใน 7 วัน พร้อมให้นิติกรยึดข้อสอบมาตรวจอย่างละเอียด
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 16 ก.ย. เวลา 09.30 น. มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม พร้อมด้วย น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม หรือ “ครูเบญ” ผู้สอบพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ที่มีการประกาศรายชื่อในรอบแรกสอบได้ลำดับที่ 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) สระแก้ว แต่รายชื่อหายล่องหนในการประกาศผลรอบที่สอง โดย สพม.สระแก้ว อ้างว่าสาเหตุที่การประกาศผลในรอบที่ 2 ไม่มีรายชื่อของ “ครูเบญ” เนื่องจากการประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านในรอบแรกเกิดข้อผิดพลาด ดังนั้นจึงเดินทางเพื่อเข้าร้องเรียน ทวงความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นผู้รับเรื่อง
ทั้งนี้ นายสิริพงศ์กล่าวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน มีความห่วงใยและติดตามเรื่องนี้ตลอด โดยย้ำว่าการดำเนินการตรวจสอบจะต้องยึดหลักธรรมาภิบาลและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ซึ่งตั้งแต่เกิดประเด็นปัญหาขึ้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ส่งนิติกรจากส่วนกลางเดินทางไปตรวจสอบทันที เนื่องจาก สพม.สระแก้ว รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถจะปักใจเชื่อได้ จึงได้จัดเก็บเอกสารชุดข้อสอบมาตรวจสอบแล้ว รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สระแก้ว ก็เดินทางไปตรวจยึดชุดเอกสารการสอบทั้งหมดจากเขตพื้นที่แล้วเช่นกัน
...
นายสิริพงศ์กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าเรื่องนี้หากตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ผู้เกี่ยวข้องจะต้องโดนลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด คนกระทำผิดจะต้องได้รับโทษและยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะไม่มี มวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ครูเบญญาภาขอให้ ศธ.เยียวยาในการเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่งครูนั้น ระหว่างนี้เราขอตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน ไม่ว่าจะเป็นชุดกระดาษคะแนนคำตอบของข้อเท็จจริงในการประกาศผลรอบแรก และรอบสองแตกต่างกันตรงจุดไหนอย่างไร ซึ่งเราจะหาวิธีเยียวยาครูเบญญาภาอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว สำหรับกรณีการเสนอตำแหน่งครูอัตราจ้างให้แก่ครูเบญญาภานั้น อยากชี้แจงว่าเป็นแนวทางของ สพฐ.ที่อยากจะเสนอให้ครูเบญญาภาได้มีงานทำระหว่างรอผลสอบสวน โดยการให้บรรจุเป็นครูอัตราจ้างในจังหวัดบ้านเกิดตัวเองไปพลางๆก่อนระหว่างที่ไม่มีงานทำ จึงไม่ใช่ข้อเสนอของ สพม.สระแก้ว ที่พยายามจะยัดเยียดตำแหน่งงานใหม่ให้จบเรื่อง
“การตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เราขีดเส้นตาย 7 วัน จะต้องรู้ผลสรุปทั้งหมด และจะพยายามไม่ให้มีการขยายเวลาการสอบสวน ส่วนข้อเสนอที่จะล้มกระดานสอบใหม่ทั้งหมดหรือไม่นั้น คิดว่าคงต้องดูเป็นรายกรณีไป เพราะถ้าดำเนินการสอบใหม่ทั้งหมด จะมีผู้เกี่ยวข้องคนอื่นได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยในวันที่ 17 ก.ย. ที่จะมีการรายงานตัวผู้สอบผ่านพนักงานราชการ ตำแหน่งครู สพฐ.ได้สั่งให้มีการชะลอการรายงานตัวทั้งบัญชีไว้ก่อนแล้วจนกว่าผลสอบสวนจะเสร็จสิ้น” นายสิริพงศ์กล่าว
ด้าน น.ส.เบญญาภากล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนภายในเขตพื้นที่รายหนึ่งพยายามติดต่อให้ตนลบโพสต์ข้อความดังกล่าวที่เกิดขึ้นออกจากเฟซบุ๊กของตนเอง แต่ไม่ทำเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดของตน และตั้งใจทำข้อสอบอย่างเต็มที่ ส่วนตัวมองว่าหากจะมีการเยียวยาจริงเมื่อมีการตรวจสอบคะแนนตามหลักฐานข้อเท็จจริงแล้วและพบว่าตนได้ทำข้อสอบได้คะแนนอย่างถูกต้อง ก็ต้องเยียวยาให้ได้เป็นพนักงานราชการ แต่หากผลการตรวจสอบทำคะแนนไม่ได้จริง ก็พร้อมยอมรับ ขอให้มีความชัดเจนเกิดขึ้นในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาการที่ได้เห็นประกาศรายชื่อที่มีตราครุฑประทับของตัวเอง สอบติดเป็นลำดับแรก รู้สึกดีใจมาก และทำเรื่องลาออกจากโรงเรียนเก่า แต่หลังจากนั้นผ่านไป 3 วัน สพม.สระแก้วโทรศัพท์มาแจ้งว่าให้ตนเข้าไปตรวจสอบรายชื่อใหม่ในเว็บไซต์ และประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบฉบับสอง กลับไม่มีตราครุฑประทับและก็ไม่มีรายชื่อตัวเองติดอยู่ในประกาศฉบับรอบที่สอง โดย สพม.สระแก้วไม่มีคำตอบอะไรให้ในเรื่องนี้ด้วย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่