ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 สนามช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางความหวังและความภาคภูมิใจของชาวไทย เมื่อการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่จัดงานสำคัญ แต่เป็นเวทีที่ชาวกระทรวงศึกษาธิการ ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และประชาชนชาวไทยได้ร่วมมือกันอย่างทุ่มเท เพื่อแสดงถึงศักยภาพและความเป็นเลิศของการศึกษาไทยต่อสายตาชาวโลก
บรรยากาศในสนามช้างอารีนาเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและความเป็นหนึ่งเดียว ทุกคนพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับคณะผู้มาเยือนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ติมอร์-เลสเต และประเทศคู่เจรจา เจ้าบ้านกว่า 10,000 คน ร่วมกันต้อนรับแขกผู้มีเกียรติอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ โดยมี พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้กล่าวเปิดงานในนามของประชาชนและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ด้วยถ้อยคำที่สะท้อนถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมครั้งสำคัญนี้
เบื้องหลังความสำเร็จของการประชุมครั้งนี้ คือความร่วมมือที่ไม่ธรรมดาของชาวไทยทุกคน กระทรวงศึกษาธิการได้ทำงานอย่างหนักในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนเชิงกลยุทธ์ ไปจนถึงการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ครูและนักเรียนก็ไม่แพ้กัน พวกเขาใช้เวลานอกเหนือจากการเรียนการสอนมาช่วยกันเตรียมความพร้อม ทั้งการสร้างสรรค์ผลงานและการแสดงโชว์ที่บ่งบอกถึงความสามารถของเยาวชนไทยในเวทีนานาชาติ
ไม่เพียงแค่นั้น ประชาชนชาวไทยจากทั่วทุกสารทิศก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานนี้อย่างเต็มที่ ทุกคนร่วมมือกันช่วยเหลือและสนับสนุนในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำอุปกรณ์ การเตรียมสถานที่ หรือการประชาสัมพันธ์ ทั้งหมดนี้แสดงถึงความเสียสละ และความรักชาติที่แท้จริง ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือการทำให้งานนี้เป็นที่จดจำ และแสดงให้โลกเห็นถึงพลังของคนไทย
การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์ แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ในการผลักดันการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่ ภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัล” การประชุมในครั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ประเทศไทยยังชูนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลดภาระของครูและนักเรียน เพื่อให้มีเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มากขึ้น สนับสนุนการสร้างรายได้จากการเรียน การฝึกงาน และการสร้างบุคลากรที่มีทักษะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต
การประชุมดำเนินไปท่ามกลางการแลกเปลี่ยนความคิดจากผู้นำด้านการศึกษาจากทั่วอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเน้นถึงการสนับสนุนการศึกษาในภูมิภาคให้ตอบสนองต่อความท้าทายในระดับโลก จากนั้นได้ให้การรับรองถ้อยแถลงร่วมบุรีรัมย์ของการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 (Buriram Joint Statement of the 13th ASEAN Education Ministers Meeting) ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025
นอกจากนั้นยังให้การรับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียนบวกสามครั้งที่ 7 ซึ่งให้ความสำคัญกับศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัลในการเพิ่มการเข้าถึงการศึกษา และการมีส่วนร่วมในกลุ่มประชากรชายขอบ การพัฒนาการเรียนการสอนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูลทางการศึกษาเพื่อการวางแผนและกำหนดนโยบายภายใต้แนวคิด “พลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัล” ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียนบวกสาม สำนักงานเลขาธิการซีมีโอ เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาอาเซียนบวกสาม ปี พ.ศ. 2561-2568 และแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาอาเซียน ปี พ.ศ. 2564-2568
เมื่อผลการประชุมถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก จะเป็นที่แน่ชัดว่า ความร่วมมือ ความทุ่มเท และความเสียสละของชาวไทยในการเตรียมงานครั้งนี้ จะไม่เพียงแค่สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมประชุม แต่ยังเป็นการประกาศให้โลกได้รับรู้ถึงพลังและความสามารถของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านการศึกษาในยุคดิจิทัลที่กำลังมาถึง
ยังมีเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยทุกคน เมื่อรองเลขาธิการอาเซียนได้กล่าวว่า “ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ การเป็นเจ้าภาพรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียนครั้งที่ 13 ได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้แก่อาเซียน” ประจักษ์พยานนี้เห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมที่มีความพอใจสูงเกินกว่าร้อยละ 90 ทั้งในด้านการประทับใจในสถานที่จัดประชุมที่มีความแปลกใหม่ และชื่นชอบพิธีเปิดการประชุมและการต้อนรับอบอุ่นจากชาวบุรีรัมย์กว่าร้อยละ 95
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยความซาบซึ้งว่า "ผมขอขอบคุณท่านเลขาธิการอาเซียน ที่ได้มอบความไว้วางใจให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมที่สำคัญในครั้งนี้ ขอบคุณลูก ๆ นักแสดงทุกคนจากใจ ที่มาร่วมแสดงให้โลกได้เห็นถึงศักยภาพอันยอดเยี่ยมของเยาวชนไทย ขอบคุณพี่น้องชาวอาชีวศึกษาที่ได้นำทักษะและความสามารถของเด็ก ๆ มาเสิร์ฟความประทับใจให้กับแขกผู้มีเกียรติของเราตลอดการจัดงานนี้ ขอบคุณบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านที่รวมพลังใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้การประชุมครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และเหนือสิ่งอื่นใด ขอบคุณชาวไทยทั่วประเทศที่ได้ร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่อบอุ่นและน่าประทับใจ แขกผู้มาเยือนของเราไม่เพียงแต่จะประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ประเทศไทย แต่พวกเขาจะจากไปพร้อมกับความทรงจำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและน้ำใจของคนไทย ซึ่งจะตราตรึงในหัวใจของพวกเขาตลอดไป"
ติดตามข้อมูลตลอดทั้งงานเพิ่มเติมได้ที่ https://13ased.moe.go.th/