ยศ วัชรเสถียร ผู้แปล นิทานอีสป ฉบับของแพร่พิทยา (พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.2505) ชี้แจงไว้ในคำนำหนังสือว่า เคยอ่านนิทานอีสปซึ่งมีรวมกันราว 20 เรื่อง มาตั้งแต่สมัยเรียนประถม 1

พอได้อ่านฉบับภาษาอังกฤษ โจเซฟ จาคอป ผู้เรียบเรียงบอกว่า นิทานภายใต้ชื่ออีสป มีอยู่เป็นจำนวนพันๆเรื่อง สืบสาวแล้วหลายเรื่องอีสปไม่ได้ผูกเรื่องแต่ง เพราะเป็นเรื่องเล่าเก่า เล่าๆกันมาก่อน

และอีกหลายเรื่อง มีหลักฐานว่ากำเนิดในภาคตะวันออกของโลก เพราะมีอยู่ในภาษาสันสกฤตของอินเดีย

จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุลงไป เรื่องที่เป็นและไม่เป็นเรื่องของอีสป

โจเซฟ จาคอป ได้คัดเลือกเรื่องที่ถือกันว่าเป็นมาตรฐาน ซึ่งแพร่หลายอยู่ในทวีปยุโรปและอเมริกา ทั้งยังดัดแปลง แก้ไข และเล่าใหม่ จำนวน 82 เรื่อง

และหนึ่งใน 82 เรื่อง ตามแบบฉบับของเขา คือเรื่องต่อไปนี้ ส่วนแบ่งของราชสีห์

ในกาลครั้งหนึ่ง ราชสีห์กับสุนัขจิ้งจอก สุนัขป่า และสุนัขในได้หารือกันว่า กว่าจะไล่จะล่าเหยื่อมาเป็นอาหารได้แต่ละตัว ต้องออกเรี่ยวแรงมาก เหน็ดเหนื่อยนัก

หากตกลงร่วมเป็นหุ้นส่วนกัน ต่างตัวต่างทำหน้าที่ ตัวหนึ่งซุ่ม ตัวหนึ่งดัก อีกตัวต้อน และอีกตัวโจมตี ก็จะได้เหยื่อง่ายๆ ในเวลารวดเร็ว ไม่เปลืองเรี่ยวแรง

เงื่อนไขหุ้นส่วนฟังดูดี สี่สัตว์นักล่าตกลงร่วมกันทันที

งานแรกเริ่มต้น...ในเวลาไม่นาน ก็ได้เหยื่อ กวางพ่วงพีตัวหนึ่ง

จากนั้น กระบวนการแบ่งสันปันส่วนจึงมีขึ้น

ราชสีห์ร้องคำรามด้วยเสียงกึกก้อง ตามลีลาเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ “มาช่วยข้าแบ่งกวางตัวนี้ออกเป็นสี่ส่วน”

งานไล่งานล่าเป็นงานยาก พอมาถึงงานกัดฉีกเหยื่อเป็นเรื่องง่าย สุนัขจิ้งจอก สุนัขป่า สุนัขในก็รับงาน แบ่งกวางออกเป็นสี่ส่วนเสร็จในเวลาอันสั้น

...

ราชสีห์สั่งสามสุนัข ถอยห่างจากกองเหยื่อ แล้วบอกให้รอฟังคำตัดสิน ใครควรได้เหยื่อกองไหน?

“ส่วนหนึ่งเป็นของข้า ในฐานะเป็นราชาแห่งสัตว์ทั้งหลาย” เป็นคำตัดสินที่ดี สามสุนัขตั้งใจฟังต่อ

“ส่วนที่สองก็เป็นของข้า ในฐานะที่ข้าเป็นตุลาการ ส่วนที่สามก็ยังเป็นของข้า ในฐานะที่ข้ามีส่วนในการล่าไล่”

สุนัขทั้งสาม ฟังถึงตอนนี้ เริ่มรู้สึกไม่ดี แต่ก็เอาล่ะ! อดทนทำงานมาด้วยกันทั้งที ก็ต้องอดทนฟังต่อไป

แล้วก็มาถึงคำตัดสินสุดท้าย ราชสีห์ประกาศเสียงดังๆ

“ทีนี้มาถึงส่วนที่สี่ เอาล่ะ ข้าอยากจะเห็นนักว่า พวกเจ้าตัวใด จะบังอาจแตะต้อง”

ที่จริง พอราชสีห์ประกาศตัดสินถึงเหยื่อกองที่สาม สามสุนัขยังพอมีความหวังส่วนแบ่งที่เหลือในเหยื่อกองที่สี่อยู่บ้าง แต่เมื่อคำตัดสินเหยื่อกองที่สี่ออกมา

สุนัขป่าและสุนัขในก็รู้ชะตาฐานะตัวเอง ต่อหน้าราชสีห์เจ้าป่า ก็ไม่แสดงสีหน้าท่าทีอะไรออกมา

มีเพียงเสียง “ฮึ่มม์...” เบาๆจากคอสุนัขจิ้งจอก ขณะที่มันผละออกเดินห่างออกมา โดยมีหางห้อยอยู่ระหว่างขาหลัง มันหลุดปากออกมาเป็นถ้อยคำ ไม่ตั้งใจให้สองเพื่อนสุนัขได้ยินด้วยเสียงกังวานต่ำๆ

“เราอาจร่วมทำกิจการหาประโยชน์กับผู้ยิ่งใหญ่กว่าได้ แต่เราจะไม่มีส่วนได้กับเป็นผลงานนั้นเลย”

นิทานอีสปเรื่องนี้ จบลงตรงสุนัขจิ้งจอกสอนตัวเองออกมาแล้ว จึงไม่มีคำสอนคนอื่นต่อท้าย ตามธรรมเนียมนิทานอีสปทั่วไป

แต่อ่านเรื่องนี้แล้ว คนบางบ้านเมือง คงมีความหวังกันบ้างหรอกน่า! เราอาจจะเจอราชสีห์ใจดี แบบราชสีห์รู้คุณเหลืออยู่ให้สบตาให้อุ่นใจเล่น...สักตัว.


กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม