ถกเถียงกันเรื่องประเด็นร้อนของข้อกฎหมาย

ท้ายสุดที่ประชุม ก.ตร.ลงมติเป็น “เอกฉันท์” ด้วยคะแนนเสียง 12-0 เห็นชอบคำสั่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ สมัยรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อนถูกต้อง

เป็นไปตามอนุกรรมการ ก.ตร. พิจารณาความผิดทางวินัยนำเสนอเข้าวงประชุมที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะพิพากษาชะตากรรมนายพลตำรวจคนดังร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ ก.ตร. รวมทั้งหมด 12 ท่าน

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานการพิจารณาในส่วนของอนุกรรมการ ก.ตร. ยืนยันทำตามพยานหลักฐานที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ตอบข้อสงสัยและเหตุผลในที่ประชุม ก.ตร. อย่างกระจ่างชัด แถมเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิในการป้องกันชื่อเสียงของตัวเอง

เมื่อนายพลตำรวจรุ่นน้องตั้งแท่น “เปิดศึก” จะฟ้องกลับ

“เส้นทางการเงิน รูปภาพ หรือหลายๆอย่าง อยากให้สาธารณชนรับรู้ว่าใครผิด ใครถูก ใครทำผิดกฎหมาย ใครทำ ถูกกฎหมาย เปิดถึงความดี ความชั่ว ใครทำดี ใครทำชั่ว ใครคนดี ใครคนชั่ว” พล.ต.อ.วินัยว่า

เปรียบเทียบถึงตำรวจอาชีพกับอาชีพตำรวจมาอาศัยเครื่องแบบในการแสวงหารายได้ พิสูจน์คุณธรรม จริยธรรม “คนที่จะเป็นผู้บังคับบัญชา คนที่จะมาเป็นผู้นำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรจะประพฤติปฏิบัติตนอย่างไร”

เจ้าตัวไม่หวาดหวั่นว่าจะถูกฟ้องเอาผิด

“ดีเลยครับ ผมจะได้เอาสิ่งพวกนี้ไปเปิดเผยให้สาธารณชน แล้วเชิญสื่อมวลชนสังเกตการณ์วันที่ผมไปให้การที่ศาล ไปดูเลยไม่ต้องใช้นักกฎหมาย” ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเปิดอกให้สัมภาษณ์จริงจัง

ถึงวันนั้นสามัญชนจะชี้ได้ว่า ใครทำดี ใครทำชั่ว.

...

สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม