นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ในนโยบาย Thailand Zero Dropout เพื่อให้เด็กนอกระบบที่มีอายุ 3-18 ปี จำนวน 1.02 ล้านคน ได้รับการติดตามช่วยเหลือเป็นรายบุคคลนั้น ตนได้มอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศ สกร.จัดทำโปรแกรมติดตามผู้ที่ออกเรียนกลางคันเมื่อไปชวนกลับเข้าเรียนแล้วเลือกไม่เรียนต่อว่า บุคคลนั้นอยู่ที่ไหน ทำอะไร และถ้าพร้อมจะกลับเข้ารับการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองเมื่อไร ก็สามารถมาเรียนกับหน่วยงานสถานศึกษาของ สกร.ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้ทันที ทั้งนี้ แบ่งผู้ที่ออกเรียนกลางคันเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ออกจากโรงเรียนไปแล้วกลับมาเรียนใหม่ กลุ่มที่ 2 ออกจากโรงเรียนไปแล้วไปเรียนอาชีพ และกลุ่มที่ 3 ออกไปแล้วตามเจอแต่ไม่เรียน ซึ่งตนสนใจกลุ่มที่ 3 มากกว่า ควรมีการติดตามต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้เพียงแต่ต้องใช้เวลา และโปรแกรมนี้ก็จะช่วยในการติดตามได้มาก
อธิบดี สกร.กล่าวอีกว่า สกร.มีหน้าที่สนับสนุนการเรียนรู้ 3 รูปแบบ คือ 1.การเรียนรู้ตลอดชีวิต 2.การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง และ 3.การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ ซึ่ง สกร.ได้มี การจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียนและท้องถิ่น โดยกำหนดรับสมัครนัก ศึกษาภาคเรียนที่ 1 ในเดือน เม.ย. และภาคเรียนที่ 2 ในเดือน ต.ค.ของทุกปี ผู้สนใจสมัครเรียนได้ที่ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอ/เขต และศูนย์การเรียนรู้ตำบล/แขวงทั่วประเทศใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามได้ที่โทร. 0-2282-2868 หรือสถานศึกษาของ สกร.ใกล้บ้านทั่วประเทศ.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม
...