ฉบับเมื่อวานผมเขียนถึงมุมสวยๆ ความรู้สึกดีๆ ของคนจีนที่ชื่นชอบทุเรียนไทย ทำให้สำนักงาน ทท.คุนหมิงปิ๊งไอเดียจัดแฟมทริป ให้คณะอินฟลูเอนเซอร์และ KOL ของจีนมาเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวตามรอยทุเรียน แต่วันนี้เราไปดูเงาทะมึนของการส่งออกทุเรียนไปจีนกันบ้าง ถ้าภาครัฐและชาวสวนทุเรียนยังไม่ตระหนักถึงปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้น อนาคตการส่งออกทุเรียนอาจไม่สดใสเหมือนในปัจจุบัน

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจำนวนคนรักทุเรียนในประเทศจีนเพิ่มขึ้นมาก ปี 2560 จีนนำเข้าทุเรียนสดเพียง 224,400 ตัน พอถึงปี 2565 นำเข้าทุเรียนถึง 825,000 ตัน เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าภายในระยะเวลา 5 ปี ขณะที่ปี 2566 ตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง ก.ย. ตัวเลขนำเข้าอยู่ที่ 1,240,105 ตัน เป็นทุเรียนไทย 878,972 ตัน มูลค่าประมาณ 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 73.37% ของการนำเข้าทุเรียนทั้งหมดของจีน

อย่างไรก็ตาม จะย่ามใจไม่ได้เด็ดขาด เพราะทุเรียนเวียดนามตามมาเป็นเบอร์ 2 และกำลังเร่งสปีดขยายตัวเร็วมาก ตามด้วยทุเรียนฟิลิปปินส์และมาเลเซีย

คุณอุกฤษฏ์ วงษ์ทองสาลี ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี เผยว่า ช่วงที่ทุเรียนราคาดี คนไทยแห่ปลูกกันจำนวนมาก การปลูกทุเรียนใช้เวลา 5 ปี จึงจะออกผลมาขายได้ ปลูกกันตั้งแต่ก่อนโควิด อีกปีสองปีจะเริ่มทยอยเก็บผลได้แล้ว ปีที่แล้วทุเรียนไทยส่งออกไปขายจีนร่วม 1 ล้านตัน แต่อีก 2-3 ปีข้างหน้าผลผลิตเราจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว กลายเป็นสินค้าล้นตลาด และทุเรียนไทยก็พึ่งพาตลาดจีนเพียงตลาดเดียว จึงค่อนข้างอันตรายเสี่ยงสูง

...

สิ่งที่ตามมาคือ พ่อค้าล้งจีนจะเข้ามากว้านซื้อแบบกดราคา เพราะเขามีทางเลือกเยอะขึ้น เวียดนามปลูกทุเรียนมากขึ้น แม้รสชาติไม่อร่อยเท่าทุเรียนไทย แต่ราคาถูกกว่าทั้งผลทุเรียนและค่าขนส่ง ขณะที่มาเลเซียแม้พื้นที่เพาะปลูกมีน้อย แต่ทำการตลาดรุนแรง พยายามเคลมว่าพันธุ์มูซันคิงเป็นราชาแห่งทุเรียน

คุณอุกฤษฏ์ย้ำว่า หัวใจสำคัญที่ทุเรียนไทยครองใจคนจีนได้คือ “คุณภาพ” หอการค้าจันทบุรีคิดมาตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ได้ ทุเรียนเกรดคุณภาพ ไปขายตลาดจีนเพื่อยืนเป็นเบอร์ 1 ตลอดไป

(แพลตฟอร์มซุปเปอร์มาร์เกตยักษ์ใหญ่ Jingdong มีบริการรับประกันจำนวนพูทุเรียน โดยทุเรียนน้ำหนัก 2-4 กิโลกรัม/ลูก รับประกันทุกลูกมีเนื้อ 3 พูครึ่ง และทุเรียนน้ำหนัก 4 กิโลกรัม/ลูก รับประกันทุกลูกมีเนื้อ 4 พูครึ่ง หากจำนวนพูไม่ตรงตามที่รับประกันยินดีคืนเงินตามส่วนต่าง แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคจีนตื่นตัวด้าน คุณภาพและมาตรฐาน ไม่อยากกินทุเรียนแล้วคอยลุ้นเหมือนเปิดกล่องสุ่ม)

ประธานหอการค้าจันทบุรีกล่าวว่า นอกจากนี้ภาครัฐควรเข้ามาสนับสนุน องค์ความรู้ด้านการแปรรูป เพราะเรายังมีรูปแบบการแปรรูปทุเรียนไม่มากเท่าที่ควร เท่ากับยังใช้ประโยชน์จากทุเรียนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ต้ม กวน ทอด แต่รวมไปถึงผลิตภัณฑ์นอนฟู้ด เช่น จากเปลือกหรือไฟเบอร์ในทุเรียน อยากให้ภาครัฐส่งเสริมงานวิจัยเพื่อทำให้ทุเรียนเป็นซุปเปอร์ฟรุต และจะได้รองรับจำนวนผลผลิตที่จะมีออกมาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

พืชเศรษฐกิจชนิดอื่นเช่นข้าวยังมีเจ้าภาพดูแลคือกรมการข้าว ขณะที่ ผลไม้เมืองร้อนของไทย  กลับไม่มีหน่วยงานไหนเป็นเจ้าภาพเลย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้ง สถาบันผลไม้เมืองร้อน เพื่อเป็นยานแม่ส่งผลไม้ไทยไปตีตลาดโลก ทุเรียนจะเป็นหัวหอกและโมเดลนำร่อง ผลักดันให้ไทยเป็นฮับแห่งผลไม้เมืองร้อน เรามีทั้งมะม่วง มะพร้าว ส้มโอ มังคุด ฯลฯ มูลค่าการตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ปิดท้ายสำหรับชาวสวนและเอสเอ็มอีที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้ทุเรียน ทางหอการค้าจันทบุรีได้จัดงาน Fruit Innovation Fair 2024 ระหว่างวันที่ 2–4 ก.พ. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล จันทบุรี โชว์นวัตกรรมทั้งระบบเกี่ยวกับทุเรียนและผลไม้เมืองร้อน จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวแรกให้เห็นว่า ชาวสวนไทยมีความตั้งใจในการผลิตทุเรียนคุณภาพสู่ตลาดโลก และเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้การปลูกผลไม้เมืองร้อนอื่นๆ สู่การเป็นผู้นำการผลิตและการตลาดในอนาคต.

ลมกรด

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม

...