"วาฬเบลน์วิลล์" เกยตื้นหาดสงขลาตายแล้ว ด้านทีมสัตวแพทย์ผ่าซากหาสาเหตุการตาย หลังจากที่พยายามช่วยชีวิตจนสุดความสามารถ

วันที่ 5 ธันวาคม 2566 มีรายงานว่า จากกรณี "วาฬเบลน์วิลล์" ซึ่งเป็นวาฬน้ำลึกหายาก เพศเมีย ยาว 4 เมตร หนักกว่า 500 กิโลกรัม ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดปากบาง-สะกอม ม.1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา และเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ได้เคลื่อนย้ายวาฬเบลน์วิลล์ตัวนี้จากชายหาดปากบางสะกอมไปดูแลรักษาอาการต่อ ที่อาคารปฏิบัติการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 3 ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสัตว์น้ำชายฝั่ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.07 น. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า วาฬเบลน์วิลล์ ตัวดังกล่าวตายแล้วหลังจากที่ทีมสัตวแพทย์ได้พยายามดูแลรักษาอย่างเต็มที่ตลอด 4 วันหลังจากเกยตื้น

สำหรับอาการของวาฬตัวดังกล่าวพบว่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น. อาการของวาฬเบลน์วิลล์หายใจผิดปกติ กระสับกระส่าย ทีมผู้ดูแลพาเดิน แต่ไม่ตอบสนอง เริ่มสะบัดหางแรง จึงให้ยาซึม และยากันช็อก ยากระตุ้นหัวใจ ให้สารน้ำทางเส้นเลือด พยายามสอดท่อช่วยหายใจ กระทั่งเวลา 08.07 น. ไม่พบสัญญาณชีพ

...

อย่างไรก็ตาม หลังจาก วาฬเบลน์วิลล์ ตายลง ทีมสัตวแพทย์นำโดย นายสัตวแพทย์รัตนกร พากเพียร สัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้ผ่าพิสูจน์ซากวาฬตัวนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการตายได้ว่ามาจากสาเหตุใด

นายสัตวแพทย์รัตนกร พากเพียร สัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ วาฬตัวนี้มีอาการช็อกก่อนให้อาหาร จึงฉีดยาอะดรีนาลีน แต่ก็ไม่กลับมาและตายลงในที่สุด และได้ผ่าชันสูตรซากดูรอยโรคทั้งอวัยวะภายใน และภายนอก และส่งชิ้นเนื้อไปตรวจต่อว่ามีพยาธิสภาพอย่างไร

สำหรับ "วาฬเบลน์วิลล์" เป็นวาฬหายากมากอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากอาศัยอยู่ในทะเลเปิดในหลายพื้นที่ และอยู่ในเขตน้ำลึกระดับ 200-1,000 เมตร และชอบอยู่กันเป็นฝูง แต่ละฝูงจะมีตัวผู้ตัวเดียว แต่มีตัวเมียหลายตัว โดยตัวที่โตเต็มวัยอาจจะมีขนาดใหญ่เกือบ 5 เมตร และมีน้ำตัวประมาณ 1 ตัน

มีรายงานว่าในประเทศไทยพบเกยตื้นตัวแรกเมื่อ 12 ปีก่อนที่ จ.ภูเก็ต และตัวนี้เกยตื้นเป็นตัวที่ 2 ที่ชายหาดปากบางสะกอม อ.เทพา จ.สงขลา.