จากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่อาจส่งผลให้ในบางพื้นที่จะประสบกับสภาวะขาดแคลนน้ำและปริมาณน้ำต้นทุนอาจมีไม่เพียงพอให้ใช้ในระยะยาว

ที่ประชุมคณะอนุกรรมการวางแผน และติดตามการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร มีมติเห็นชอบแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2566/67 กำหนดให้มีการวางแผนการบริหารจัดการน้ำแบบยั่งยืน โดยจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำ เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำทุกกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งตามปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำ และความเหมาะสมของพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกพืชได้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ดังนี้ แผนพื้นที่การเพาะปลูกทั้งประเทศ 10.66 ล้านไร่ แบ่งเป็นข้าวรอบที่สอง 8.13 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 5.80 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 2.33 ล้านไร่) พืชไร่พืชผัก 2.53 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 0.57 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 1.96 ล้านไร่)

สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด 4.90 ล้านไร่ แบ่งเป็นข้าวรอบที่สอง 4.20 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 3.03 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 1.17 ล้านไร่) พืชไร่พืชผัก 0.70 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 0.13 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 0.57 ล้านไร่)...ลุ่มน้ำแม่กลอง 7 จังหวัด 1.13 ล้านไร่ แบ่งเป็นข้าวรอบที่สอง 0.86 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 0.84 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 0.02 ล้านไร่) พืชไร่พืชผัก 0.27 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 0.17 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 0.10 ล้านไร่)

สำหรับการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากในบางพื้นที่มีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำค่อนข้างน้อย จึงมีความจำเป็นต้องงดการจัดสรรน้ำในการเพาะปลูกข้าวรอบที่สอง ในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่, เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง, เขื่อนแม่มอก จ.สุโขทัย, เขื่อนลำตะคอง เขื่อนมูลบน จ.นครราชสีมา, เขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์, เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี, เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี, เขื่อนประแสร์ จ.ระยอง, เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และเขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์.

...

สะ-เล-เต

คลิกอ่าน "หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน" เพิ่มเติม