เจ้าหน้าที่ย้าย "พังมีนา" จากกระบกคู่ จ.ฉะเชิงเทรา ไปอนุบาลที่สถาบันคชบาล ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง พร้อมกำหนด 6 แนวทางการดูแล "ลูกช้างป่าพลัดหลง"

วันที่ 28 พ.ย. 2566 น.ส.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) รายงานว่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ร่วมกับสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน (พี่เลี้ยงพังมีนา) ดำเนินการเคลื่อนย้ายลูกช้างป่า "พังมีนา" อายุ 10 เดือน เพื่อไปอนุบาลดูแลที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ที่มีความพร้อมและยินดีสนับสนุนช้างแม่รับ โดยออกเดินทางจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.

สำหรับอาการโดยรวมของลูกช้างป่า ปกติสนใจสิ่งแวดล้อม ไม่หวาดกลัว ภายในรถเจ้าหน้าที่ได้ปูกองฟางเพื่อป้องกันอากาศหนาว และทำให้ลูกช้างป่าอบอุ่นขณะเดินทางโดยจะมีการแวะพักให้กินนมผสมอาหารเม็ดปั่นทุกๆ 2 ชั่วโมง และคาดว่าน่าจะถึงสถาบันคชบาล ในพระอุปถัมภ์ฯ เวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 29 พ.ย. 2566 โดยจะมี "พังแสนดี" เป็นช้างแม่รับ อยู่ภายใต้ความดูแลของควาญช้าง เพื่อช่วยดูแลน้องมีนาให้ปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่และเรียนรู้การใช้ชีวิตของช้างได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป

ทั้งนี้ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โดยคณะทำงานได้เตรียมแม่ช้างพังแสนดี อายุ 22 ปี แม่ช้างที่เพิ่งหย่านมลูกเป็นช้างแม่รับ และได้กำหนดแนวทางการดูแลลูกช้างป่าพลัดหลง (พังมีนา) ดังนี้

1. ให้ช้างพังแสนดีได้รับการตรวจสุขภาพและโรคติดต่อที่สำคัญ ก่อนที่จะนำช้างเข้าใกล้เพื่อทำความคุ้นเคยกับช้างพังมีนา

...

2. กำหนดให้ใช้พื้นที่คอกช้างเล็กบริเวณโรงเรียนฝึกช้างและควาญช้างเป็นสถานที่อยู่ของช้างพังมีนา โดยให้ควาญช้างดูแลตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

3. ช้างพังมีนาต้องเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังโรคเป็นระยะเวลา 14 วัน ในพื้นที่โรงเรียนฝึกช้างฯ โดยในระหว่างนี้ให้มีการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสุขภาพและตรวจโรคติดต่อที่สำคัญในช้าง

4. การนำช้างทั้ง 2 เชือกเข้าทำความคุ้นเคยให้อยู่ภายใต้ความดูแลของควาญช้างและสัตวแพทย์ประจำสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ทั้งนี้ให้ดำเนินการภายหลังจากผ่านกระบวนการ เฝ้าระวังโรคและไม่พบการติดเชื้อโรคติดต่อในช้างพังแสนดีและพังมีนา

5. เพื่อให้การปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่ของลูกช้างพังมีนาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและลูกช้างไม่เกิดความเครียด จึงอนุญาตเฉพาะบุคลากรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ดูแลลูกช้างเท่านั้น

6. ทุกท่านสามารถติดตามความคืบหน้า ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของลูกช้างพังมีนาได้ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง).

ขอบคุณเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช