เห็นเรื่องส่วยทางหลวงเงียบๆไป แต่การสอบสวนของ กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ยังไม่เงียบนะครับ
หลังจากดำเนินการมาพักใหญ่ ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ตามอำนาจหน้าที่แล้ว ป.ป.ช.ตรวจสอบสำนวนเห็นว่า ครบถ้วน ตีกลับมาให้ บช.ก.ดำเนินการต่อ ส่งฟ้องตำรวจทางหลวงที่มีมูลหลักฐานให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้เลย
สรุปมีระดับสัญญาบัตรโดนไป 9 นาย และชั้นประทวน 6 นาย!
จากที่ร้องเรียนกันมาเบื้องต้นมีผู้เกี่ยวข้องแค่สิบต้นๆ แต่สอบสวนแล้วมีเพิ่มก็ต้องดำเนินคดีกันไป ไม่ปล่อยไว้เป็นขี้ปากชาวบ้าน
เป็นข้าราชการก็แบบนี้แหละ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดัง?
แต่หลังจากตำรวจโดนคดีแล้ว คราวนี้ถึงคิวผู้ประกอบการรถบรรทุก ที่ชอบนักชอบหนาที่จะหากำไรเกินควร บรรทุกน้ำหนักเกิน ทำถนนหลวงพังพินาศ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เจ้าพ่อสอบสวนกลาง หลังจากกัดฟันกลืนเลือดดำเนินคดีลูกน้องตัวเองแล้ว ถึงคราวผู้ประกอบการที่ทะเลาะกันเองแล้วมาซวยที่ตำรวจ?!
“บิ๊กก้อง” พูดถึงการดำเนินการเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ยังดำเนินการอยู่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึงวันที่ 31 พ.ค. จับกุมผู้กระทำความผิดบรรทุกน้ำหนักเกินได้ 551 ราย
แต่ในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ถึงวันที่ 25 ต.ค.จับกุมได้ 812 ราย เพิ่มขึ้นถึง 47 เปอร์เซ็นต์ รวมแล้วปัจจุบันจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินไปแล้วกว่า 1,363 ราย!
กำลังหามาตรการดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการอิทธิพลเหล่านี้อยู่
ส่วนกรณีส่วยยืนยันว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวงเข้มงวดเรื่องนี้ ออกหนังสือคำสั่งคาดโทษผู้กำกับการและสารวัตรใหญ่ทุกสถานี หากไม่บังคับใช้กฎหมายแล้วถูกตำรวจจากส่วนกลางไปจับกุม
ผู้กำกับการหรือสารวัตรใหญ่สถานีนั้นๆต้องรับผิดชอบ!
...
หนังชีวิตเรื่องนี้ยังไม่จบ มาดูต่อว่าจะบาดเจ็บกันแค่ไหน?
สหบาท
คลิกอ่านคอลัมน์ "ส่องตำรวจ" เพิ่มเติม