กลุ่มผู้เสียหายสุดช้ำ สั่งซื้อ "ทุเรียนออนไลน์" หวังนำมากินให้อร่อย แต่กลับโดนมิจฉาชีพหลอกส่ง "ทุเรียนทิพย์" เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก มูลค่าความเสียหายร่วมแสน

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 5 กันยายน 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ซึ่งเป็นเทปครบรอบ 1 ปี ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญถึงประเด็น เตือนภัยนักช็อปออนไลน์ เจอตุ๋น "ทุเรียนทิพย์" สูญร่วมแสน เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก

คุณปุ๊ก ผู้เสียหาย เล่าว่า เป็นคนชอบรับประทานทุเรียน ขณะเล่นเฟซบุ๊กก็มีเพจหนึ่งเด้งขึ้นมา จัดโปรโมชันหมอนทองแกะเนื้อ 3 กิโลกรัม ราคา 1,000 บาท ซึ่งน่าสนใจเพราะราคาถูก ตนจึงเข้าไปเช็กในเพจก็พบว่ามีคนติดตามเพจนี้หลักหมื่นคน และมีคนมารีวิว ก่อนจะโอนเงินก็นำชื่อบัญชีไปตรวจสอบอีกครั้งว่าติดแบล็กลิสต์หรือไม่ ซึ่งก็ไม่เจอ จึงมั่นใจและหลงเชื่อ 

โดยทางร้านบอกว่า วันรุ่งขึ้นช่วงเย็นจะได้ของ เราก็รอ พอถึงเวลาเราก็ถามทางร้าน เขาก็บอกว่าตอนนี้รถมีปัญหาอาจจะเลื่อนไปตอนเที่ยงของอีกวัน พอถึงเวลายังไม่มา เราก็ถามไปอีก เขาก็บอกว่าจะคืนเงินให้ แต่พอส่งเลขบัญชีไปก็โดนบล็อก ทำให้ตนเข้าไปดูเพจไม่ได้ ซึ่งตนได้สั่งซื้อเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม แต่ตอนนี้เพจดังกล่าวยังเปิดอยู่  

...

ด้านคุณพรรณ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนได้สั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ตอนที่ตนเล่นเฟซบุ๊กก็มีเพจเด้งขึ้นมา ตนก็สอบถามไป ทางร้านก็ส่งทะเบียนการค้ามาด้วยเพื่อเป็นการยืนยัน มีคนติดตามเพจหมื่นกว่าคน มีคนมารีวิวว่าได้รับทุเรียนแล้วเป็นร้อยรีวิว ตนสอบถามทางร้านไปสักพักจึงตัดสินใจสั่งซื้อ โดยเป็นทุเรียนแกะเนื้อ 2 กิโลรัม ราคา 895 บาท ทางร้านบอกว่าให้รอ 1-2 วัน รอไป 2 วันก็เปิดแอปพลิเคชันแชตในเฟซบุ๊กดู ก็พบว่าถูกบล็อก ตนจึงไปแจ้งความที่ สน.บางเขน เพื่อนำหลักฐานไปดำเนินเรื่องอายัดบัญชีที่ธนาคาร 

คุณปุ๊ก กล่าวว่า หลังรู้ว่าโดนหลอก ตนก็ไปเจอเพจคนที่โดนโกงทุเรียน ตนจึงเข้าร่วมด้วย และพบว่ามีผู้เสียหายเยอะมาก ซึ่งตนก็คิดว่าทำไมไม่มีใครทำอะไร แจ้งความไปก็เงียบ ตนไปแจ้งความเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 คนอื่นก็แจ้งความ จึงตั้งกลุ่มไลน์เพื่อรวบรวมผู้เสียหาย ตอนนี้มี 145 คน ส่วนตัวเชื่อว่ามีผู้เสียหายมากกว่านี้ เพราะแต่ละเพจที่มีคนโดนโกงมีจำนวนเกือบหมื่นคน 

อย่างไรก็ตาม นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ในวันนี้แม้มิจฉาชีพยังไม่โดนดำเนินคดี แต่ขอเตือนคนที่กำลังหลอกประชาชนว่า วันนี้ยังไม่โดนจับแต่วันข้างหน้ายังไงก็โดนจับ แล้วความผิดตามกฎหมายคือ 1.ฉ้อโกงประชาชน 2.นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  3.พ.ร.ก.บัญชีม้า และไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตามก็ต้องโดนดำเนินคดี

คาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนกลุ่มก้อนเดียวกัน ทำซ้ำๆ จนย่ามใจ อย่างแรกคือ คิดว่ามูลค่าที่หลอกนั้นมูลค่าน้อย คิดว่าพอผู้เสียหายไปแจ้งความแล้วทางตำรวจจะดำเนินการช้า จริงๆ ไม่ช้าหรอก แต่มีหลายขั้นตอน และความฉลาดของมิจฉาชีพคือ มีการสร้างยอดกดไลค์ สร้างรีวิวปลอม ทำมุกอย่างที่ตำรวจเคยแจ้งเตือนประชาชน จึงแนะนำว่าให้ดูอีกจุดว่าใครเป็นผู้สร้างเพจ และอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ หากอยู่ต่างประเทศให้สันนิษฐานว่าโดนหลอก.