การพัฒนาสมองของคนเราจะเจริญเติบโตรวดเร็วที่สุดในช่วงปฐมวัย โดยเฉพาะในขวบปีแรก ที่สมองของเด็กจะพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด และจะเป็นกลไกที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาทักษะในทุกๆ ด้าน ด้วยเหตุนี้เอง พ่อแม่จึงไม่ควรมองข้ามโอกาสทองในการพัฒนาสมองของลูกน้อย ที่เป็นรากฐานของการเรียนรู้และปรับตัวของเด็กในอนาคต ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงมากมายรออยู่ และคาดเดาได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี AI ที่ก้าวเข้ามามีส่วนในวิถีชีวิตมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพื่อช่วยให้พ่อแม่ยุคใหม่เตรียมความพร้อมให้ลูกตั้งแต่วันนี้ S-Mom Club ได้เปิดเผยข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ศาสตราจารย์ฌอน ดิโอนี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็ก (MRI) โรงพยาบาลโรดไอแลนด์ และศาสตราจารย์ประจำภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบราวน์ ซึ่งท่านได้ศึกษาวิจัยด้านการพัฒนาสมองของมนุษย์อย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงสารอาหารสมองในนมแม่ ที่ช่วยเสริมพัฒนาการสมองไว
ศาสตราจารย์ฌอน เล่าว่า “พัฒนาการของสมองเปรียบเหมือนกับการสร้างบ้าน ถ้าเราอยากได้บ้านที่แข็งแรงและใช้งานได้จริงนั้น ก็ต้องวางเสาเข็มไว้อย่างดีที่สุดตั้งแต่ต้น เมื่อรากฐานแข็งแรง ก็สามารถสร้างโครงสร้างตัวบ้านและตกแต่งให้เป็นบ้านที่น่าอยู่ได้ไม่ยาก เช่นเดียวกันกับคนเราที่เมื่อเติบโตขึ้นแล้วจะสามารถคิด ทำงาน หรือใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ถ้ามีรากฐานที่แข็งแรงนั่นคือ ‘สมอง’ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมสนใจศึกษาค้นคว้าเรื่องพัฒนาการของสมองเด็กที่เป็นรากฐานสำคัญของวัยอื่นๆ”
ช่วงเวลาทองของการพัฒนาสมองลูก
ขวบปีแรกคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เป็นช่วงเวลาที่สมองเรียนรู้ได้เร็วกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของชีวิต เพราะทุกวินาทีจะเกิดการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทถึง 1 ล้านเซลล์ ผ่านกระบวนการสร้างไมอีลิน (Myelination) จึงทำให้เด็กในวัยนี้จดจำรายละเอียดและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้รวดเร็ว ยิ่งสมองสามารถเชื่อมโยงผ่านกันด้วยความเร็วสูงเท่าใด จะเป็นกลไกที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาทักษะในทุกๆ ด้านได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งการเคลื่อนไหว การหยิบ การจับ การคิด การวิเคราะห์ และการตัดสินใจ ดังนั้นช่วงเวลาในวัยนี้จึงเป็นโอกาสทองของการพัฒนาสมองของลูก และเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้การเรียนรู้ด้านต่างๆ ของเด็กขวบปีแรกนั้นดีและรวดเร็วขึ้น
งานวิจัยยืนยัน สมองไวสร้างได้ ด้วยสารอาหารสำคัญในนมแม่
ในงานวิจัยล่าสุด ศาสตราจารย์ฌอน ได้นำ MRI มาศึกษาผลและประสิทธิภาพของสารอาหารกลุ่ม Myelin Blend เช่น สฟิงโกไมอีลิน และดีเอชเอ ซึ่งมีอยู่ในนมแม่ กับกระบวนการสร้างไมอีลิน (Myelination) ผลการศึกษายืนยันว่า เด็กที่กินนมแม่ซึ่งมีสารอาหาร เช่น สฟิงโกไมอีลิน มีผลต่อการสร้างไมอีลินที่เร็วกว่าและมากกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในด้าน โครงสร้างไมอีลิน ปริมาณไมอีลิน และอัตราการสร้างไมอีลิน
“สมองทุกส่วนของมนุษย์จะต้องทำงานเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการมองเห็น การขยับตัว การจะฝึกเดินตั้งแต่เด็ก ซึ่งการเชื่อมต่อกันนั้นจะทำได้เร็วมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับไมอิลีนในสมอง สฟิงโกไมอีลินและสารอาหารหลายชนิด ในนมแม่ จะช่วยสร้างและพัฒนาไมอีลินในสมองของทารกให้ดีขึ้น การเชื่อมโยงของสมองจะรวดเร็วขึ้น ยิ่งสมองมีความไวเท่าไร เด็กยิ่งสามารถเรียนรู้ได้ไวมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับการปรับตัวในยุค AI” ศาสตราจารย์ฌอน กล่าว
สฟิงโกไมอีลิน พบมากในนมแม่ ไข่ นม และชีส และเป็นไขมันชนิดฟอสโฟไลปิดที่มีความจำเพาะต่อการสร้างไมอีลิน โดยไมอีลินเป็นส่วนที่หุ้มเส้นใยประสาทที่จะมาเชื่อมโยงเส้นประสาทต่างๆ อันส่งผลต่อการส่งสัญญาณประสาทและการประมวลผลภายในสมอง สมองเด็กที่มีไมอีลินมากกว่าจึงเรียนรู้ได้ไวกว่า
ศาสตราจารย์ฌอน ยังฝากถึงพ่อแม่ยุคใหม่ว่า “ไม่ว่าโลกอนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ถ้าเด็กได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักและความเข้าใจ เปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ และได้รับสารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองตั้งแต่ขวบปีแรก ก็จะทำให้สมองดีเรียนรู้ไว และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีทักษะ มีความสามารถในการปรับตัวในอนาคตได้อย่างดีเยี่ยม”
หากอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสฟิงโกไมอีลิน และสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อย สามารถเข้าชมได้ใน S-Mom Club ที่เว็บไซต์ S-Mom Club และสามารถสมัครสมาชิกเพื่อปรึกษาทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง