เป็น “คนไทย” ทำไมชีวิตมันเสี่ยงแบบนี้? ทั้งๆที่ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่ความชุ่ยของคนอื่นกลับ ทำให้เสี่ยงชีวิตเหมือนอยู่บนเส้นด้าย?
เหมือนเหตุโรงงานพลุระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำซากหลายครั้งช่วงนี้ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ก.ค. เกิดเหตุระเบิดสนั่นหวั่นไหวภายในโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ เลขที่ 111 หมู่ 14 บ้านสันทุ่งใหม่ ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
แรงระเบิด! ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บทั้งสาหัสและไม่สาหัสอีกนับสิบ บ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน!
หลังเกิดเหตุฝ่ายปกครองตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปถึงกับเต้น เพราะตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ทั้งเรื่องใบอนุญาตและการตรวจสอบความเรียบร้อยของโรงงานเหล่านี้
ถึงเจ้าของโกดังอ้างว่า เป็นแค่ที่เก็บพลุดอกไม้ไฟก่อนส่งขาย แต่มีคนงานออกมาปูดว่า มันไม่ได้เป็นเฉพาะโกดังเก็บ แต่มันเป็นโรงงานผลิตที่เต็มไปด้วยสารประกอบ
ทั้งดินประสิว (โปแตสเซียมไนเตรต, KNO3) กำมะถัน และยังมีส่วนประกอบอื่นอีกที่อ่อนไหว สารเหล่านี้เอาไปประกอบระเบิดได้สบายๆ!
หลังเหตุการณ์แรกยังไม่ซา เกิดเหตุโรงงานพลุดอกไม้ไฟระเบิดขึ้นซ้ำอีก คราวนี้ลงใต้มาสุดชายแดน ที่ร้านวิรวัฒน์พาณิชย์บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
แรงระเบิดหนักหน่วงรุนแรงชนิดราบเป็นหน้ากลอง!
ซากศพผู้เสียชีวิตกระจัดกระจาย ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 12 คน บาดเจ็บกว่า 120 คน บ้านเรือนเสียหายเกือบ 300 หลังคาเรือน!
สาเหตุเพราะมีดินดำและสารเคมีหนักหลายตันเก็บไว้ในที่เกิดเหตุ?!
คำถามจากทั้ง 2 เหตุการณ์คือ โรงงานผลิตและจัดเก็บพลุดอกไม้ไฟทั้ง 2 กรณี มาอยู่ในชุมชนได้ยังไง?
งานนี้ตำรวจที่เข้าไปสอบสวนคดี ทำให้ดีนะครับ ใครสมควรติดคุกติดตะรางเอาให้หมด
...
อย่าจ้องเอาผิดเฉพาะเจ้าของโรงงาน แล้วละเว้นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่!
สหบาท