บาปซ้ำกรรมซัดสาว 20 โร่ร้องเรียน “รองโจ๊ก” ถูกพนักงานสอบสวนยศ “พ.ต.ท.” รีดทรัพย์ แถมขอมีความสัมพันธ์ชู้สาว แลกช่วยเหลือคดีข้อหาบุกรุกในเวลากลางคืน สาวระบุเจอวิบากกรรมขับรถกลับบ้านช่วงดึก แต่รถเกิดเสีย เจอชายทำตัวเป็นพลเมืองดีบ้านใกล้จุดเกิดเหตุมาช่วยพาเข้าไปในบ้าน ใช้กำลังทำอนาจาร ออกอุบายขอเข้าห้องน้ำแล้วหนีข้ามรั้วเข้าไปบ้านหลังติดกัน แต่เจ้าของบ้านไม่รู้ต้นสายปลายเหตุแจ้งความบุกรุก หลังรู้ข้อเท็จจริงขอถอนแจ้งความ แต่พนักงานสอบสวนแสบอ้างถอนแจ้งความไม่ได้เพราะเป็นคดีอาญา เรียกรับเงิน 1 แสน ต่อรองเหลือ 1 หมื่นบาท และขอมีความสัมพันธ์ชู้สาวด้วย “รองโจ๊ก” ได้ฟังถึงกับเดือด สั่งการ ผบก.ภ.จ.สระบุรี รับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีมูลให้ดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญาเด็ดขาด
เหยื่อสาวบุกร้อง “รองโจ๊ก” ถูกตำรวจเรียกรับเงินและขอสานสัมพันธ์เชิงชู้สาว เปิดเผยขึ้นที่สโมสรตำรวจ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 ก.ค. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีถูกนายตำรวจเรียกเงิน 1 แสนบาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน เนื่องจากผู้เสียหายถูกล่อลวงเข้าไปในบ้านชายแปลกหน้าแล้วพยายามทำอนาจาร ต้องปีนรั้วไปบ้านข้างๆขอช่วยเหลือ แต่กลับถูกเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวแจ้งความข้อหาบุกรุก แต่หลังจากเจ้าของบ้านทราบข้อเท็จจริงจึงขอถอนแจ้งความ แต่พนักงานสอบสวนระดับสารวัตรยศ พ.ต.ท.เจ้าของคดีขณะนั้น (ตอนนี้ย้ายไปแล้ว) ไม่ยอมให้ถอนแจ้งความ อ้างว่าเป็นคดีอาญาแล้วยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหายคบหากันเพื่อช่วยเหลือด้านคดีไม่ต้องถึงมืออัยการ พร้อมจะเร่งดำเนินคดีอนาจารกับพลเมืองดีจอมปลอมที่ล่อลวงไปทำอนาจาร
...
น.ส.เอ เหยื่อสาวผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน ต.ค.2565 ที่ จ.สระบุรี ขณะขับรถกลับบ้านช่วงกลางคืน แต่รถเกิดดับมารู้ทีหลังว่าเพราะแบตเตอรี่หมด และโทรศัพท์มือถือของตนก็แบตเตอรี่หมดเช่นกัน ขณะนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งที่บ้านอยู่แถวนั้น ทำตัวเป็นพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ เข็นรถยนต์เข้าไปในที่เปลี่ยว อ้างว่าสงสัยน้ำมันหมดจะพาไปเอาแกลลอนน้ำมันที่บ้านและไปซื้อน้ำมันมาเติมรถให้ ตนเอ่ยขอยืมสายชาร์จโทรศัพท์ ชายคนดังกล่าวบอกว่า ให้เดินไปหยิบในห้องในบ้าน จากนั้นชายคนดังกล่าวตามเข้ามาล็อกห้องและพยายามลวนลาม จึงออกอุบายขอเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะยอมจนหลบหนีออกมาได้ โดยปีนรั้วหนีไปยังบ้านข้างๆเพื่อขอความช่วยเหลือ
“หลังจากรอดมาได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีถูกลวนลามที่ สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี แต่กลับถูกควบคุมตัวไว้เนื่องจากเจ้าของบ้านที่ปีนหนีเข้าไปแจ้งความว่า บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ขณะที่ฉันแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ชายที่ล่อลวงเข้าไปในบ้านเพื่อทำอนาจาร แต่หลังจากเจ้าของบ้านหลังที่ 2 รู้เรื่องราวทั้งหมดจึงขอถอนแจ้งความ แต่ตำรวจไม่ยอมให้ถอน อ้างว่าเป็นคดีอาญาไม่สามารถถอนแจ้งความได้ จากนั้นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เรียกรับเงินจำนวน 1 แสนบาท อ้างว่าจะช่วยเหลือไม่ฟ้องร้องคดีบุกรุก ไม่ต้องให้คดีไปถึงชั้นอัยการ แต่หาเงินให้ไม่ได้ขอต่อรองเหลือ 1 หมื่นบาท ตำรวจนายนั้นตกลง แต่ขอมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวด้วย แล้วจะเร่งทำคดีถูกอนาจารด้วย” เหยื่อสาวกล่าว
ด้านนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนจากหญิงสาวผู้เสียหายแล้ว ตนสอบถามไปยัง พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สระบุรี เบื้องต้นได้ข้อมูลว่า นายตำรวจคนดังกล่าวเคยมีประวัติเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์มาแล้ว 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการกระทำผิดที่ซ้ำเติมผู้เสียหาย จึงตัดสินใจพาเข้าร้องขอความเป็นธรรมให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้อง
ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เผยว่า หลังจากนี้จะนำหลักฐานและข้อมูลการสอบปากคำผู้เสียหายว่า เข้าข่ายความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 หรือไม่ หากมีหลักฐานดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการด้วย พร้อมทั้งเตือนให้ประชาชนมีสติ หากมีตำรวจมาอ้างว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีได้ให้ติดต่อผู้กำกับการของแต่ละพื้นที่ได้ทันทีและอย่าโอนเงินให้เด็ดขาด
ต่อมาหลังจาก น.ส.เอเข้าให้ข้อมูลชุดทำงานเสร็จสิ้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์สั่งการให้พาตัว น.ส.เอ ผู้เสียหาย เดินทางไปพบ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สระบุรี ทันที เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายตำรวจยศ พ.ต.ท.ที่เรียกรับผลประโยชน์ และเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด หากพบกระทำความผิดจริงต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาถึงที่สุด