"นักวิจัย" ชี้ "ต้นลาน" ในเขตอุทยานฯ ทับลาน ออกดอกบานสะพรั่งเป็นวัฏจักรออกดอกแล้วต้นจะตาย มีไม้รุ่นใหม่ขึ้นทดแทน ควรช่วยกระจายเมล็ดให้ไกลจากจุดเดิมป้องกันการยืนต้นตายหมู่

วันที่ 26 ก.ค. 2566 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงกรณี ต้นลานในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานที่กำลังออกดอกสะพรั่งกว่าหมื่นต้น และกำลังจะตายนั้น พบว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการตรวจสอบข้อมูลจากนักวิชาการด้านพฤกษศาสตร์ กลุ่มงานพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช พบว่า "ต้นลาน" ที่พบในอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นพืชในวงศ์ปาล์มชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นชนิด "ลานป่า" มีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Corypha lecomtei Becc. ex Lecomte 

โดยธรรมชาติของต้นลานจะมีอายุขัย 20-80 ปี ออกดอกและติดผลเพียงครั้งเดียวก่อนยืนต้นตาย ซึ่งเป็นพืชที่มีช่อดอกขนาดใหญ่ที่สุดของพืชในโลก สามารถติดผลได้มากหลายพันจนถึงหลักหมื่นผลต่อช่อดอกต้นหนึ่งๆ โดยเมล็ดลานมีอัตราการงอกสูงมาก เมื่อร่วงหล่นตามพื้นดินที่เหมาะสม มีช่องแสงสว่างเพียงพอ หรือมีสัตว์ป่า พวกนก ค้างคาว กวาง กินผลแล้วพาไปงอกไกลต้นแม่ ดังนั้นเมล็ดลานจากต้นแม่ 1 ต้น อาจจะงอกเป็นต้นกล้าในรุ่นถัดไปได้หลายพันกล้า ไปทั่วทั้งพื้นที่นั้นๆ 

สำหรับปรากฏการณ์ที่ต้นลานออกดอกพร้อมๆ กันนับ 10,000 ต้น นั้น บอกให้เราทราบว่าพวกต้นลานเหล่านั้น เป็นพี่น้องจากต้นแม่เดียวกัน หรือจากต้นเครือญาติที่เคยออกดอกและติดผลพร้อมๆ กัน เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนนั่นเอง เช่นเดียวกับ "ปรากฏการณ์ไผ่ทั่วทั้งป่าตายขุย" ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งนอกจากนี้ สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ไม่สมบูรณ์บริเวณที่ต้นลานขึ้นอยู่ ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการทำให้ต้นลาน มีสภาพแคระแกร็นต้นขนาดเล็กกว่าปกติ และมีอายุที่สั้นลงด้วย บางต้นจึงออกดอกแล้วตายเร็วขึ้น เพราะทนต่อสภาพภูมิอากาศ หรือความแห้งแล้งไม่ได้ต่อไป  

...

ทั้งนี้ สาเหตุหลักการตายหมู่ของต้นลานในพื้นที่เกิดขึ้นจากการหมดอายุขัย และลักษณะการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติของต้นลานเอง ประกอบกับการเกิดปรากฏการณ์ช่วงปีเอลนีโญ ที่แห้งแล้งผิดปกติ ทำให้ต้นลานที่มีอายุมากใกล้หมดอายุขัยและไม่สมบูรณ์เร่งการออกดอกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงควรเก็บเมล็ดของต้นลาน มาเพาะต้นกล้าหรือนำเมล็ดบางส่วนเข้าไปหว่านในป่าที่ต้นลานเคยขึ้นอยู่ให้กระจายออกไปไกลจากต้นแม่เก่า เพื่อช่วยลดการตายจากต้นกล้าที่ขึ้นเบียดเสียดกันมากเกินไปที่ใต้ต้นแม่ นอกจากนี้ทุกปีที่มีต้นลานติดผล ควรจะช่วยกระจายเมล็ดให้ไกลออกไปจากต้นแม่เดิม ให้ไปขึ้นผสมกับหมู่ต้นลานครอบครัวอื่นๆ เพื่อลดโอกาสการผสมพันธุ์แบบพันธุกรรมใกล้ชิดและป้องกันการยืนต้นตายหมู่เป็นผืนใหญ่ต่อเนื่องกัน

สำหรับป่าลาน ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน สภาพจะเป็นป่าโปร่ง มีลานขึ้นอย่างหนาแน่นทั่วพื้นที่ ป่าลานนี้มีเนื้อที่ 200 ไร่ บริเวณที่ราบบนเขาละมั่ง ด้านตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี บริเวณป่าลานนับเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอีกหลายชนิด "ต้นลาน" นับเป็นต้นไม้โบราณที่มีประโยชน์หลายอย่าง ในอดีตใบลานจะถูกนำมาใช้ในการเขียนบันทึกต่างๆ รวมทั้งเขียนเป็นคัมภีร์ และใช้ทำเป็นเครื่องจักรสาน 

ส่วนเมล็ดลานก่อนหน้านี้จะนำมาทำเป็นขนมหวาน เรียกว่า ลูกชิด แต่ภายหลังเลิกใช้เปลี่ยนไปใช้ลูกจากแทน นอกจากนี้ ต้นลานยังมีประโยชน์ในระบบนิเวศแสดงถึงความสมบูรณ์ของป่าอีกด้วย ดังนั้นการที่ดอกลานออกดอกมากในปีนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจะได้เรียนรู้ และร่วมกันอนุรักษ์ต่อไป สำหรับนักท่องเที่ยว หรือประชาชนที่สนใจอยากจะเข้ามาดูดอกลานบานในปีนี้ สามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา โดยในระยะช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. จะเป็นช่วงที่ดอกลานบานอย่างเต็มที่และมองเห็นได้ง่ายตลอดริมข้างทาง.  

ขอบคุณเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช