สองพรรคการเมืองใหญ่ กำลังใช้ความพยายาม “จับคู่” กันอยู่ แต่ดูเหมือนดวงชะตาจะไม่สมพงษ์กันนัก...มีแต่ข่าว แต่ยังไม่มีเค้าจะยอม อยู่เรียงเคียงหมอนกันสักที
ถ้ายังเป็นเช่นนี้ การนับญาติ จึงยังเริ่มต้นไม่ได้
ผมพยายามเกริ่นนำเรื่องนี้ เพื่อจะลากเข้าเนื้อหาเรื่อง “สังคญาติ” (ศัพท์สรรพรรณนา สถาพรบุ๊คส์ พ.ศ.2565)
ปรัชญา ปานเกตุ เริ่มต้นว่า “ญาติ” คือคนในวงวานที่ยังนับรู้กันได้ ทางเชื้อสายฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่
พูดอย่างไม่เป็นทางการ อาจเติมคำนำหน้าหรือคำท้าย เป็น สังคญาติ หรือญาติกา ก็ได้ และอาจเติมคำท้ายยืดยาวเป็นญาติโก โหติกา ญาติกาญาติโก ญาติกานาติเก ก็ได้อีก
แถบบ้านอาจารย์ปรัชญา (สุพรรณบุรี) มีคำเรียกญาติที่มักสร้างภาระให้เอือมระอา ญาติกาหมาติดเต้ง หรือญาติกาหมาติดเก้ง รวมความได้ว่า หมายถึงบรรดาญาติพี่น้องหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นญาติกัน ทั้งที่สืบสายโลหิต และมิได้สืบสายโลหิต
สันนิษฐานว่า สังคญาติ เพี้ยนมาจาก สาขาญาติ
พระไอยการทาษ ปรากฏคำว่า สังขาญาติ และสาขาญาติ ดังความว่า
“มาตราหนึ่ง ผู้ใดยากจนมาขายตัวฝากอยู่กับท่าน และหาผู้รับประกันมิได้ นายเงินเหนแก่มันช่วยมันไว้เป็นทาษ อยู่มา ทาษนั้นหนี นายเงินจะว่ากล่าว แก่พี่น้องสังขาญาติมัน ซึ่งมิได้มีชื่อในสารกรมธรรม์นั้นมิได้เลย
เหตุใดจึงกล่าวดังนี้ เหตุว่า สาขาญาติ มันผู้ทาษนั้น มิได้ค้ำประกันมันผู้นั้น”
ดูตามบริบทน่าจะหมายถึง ญาติที่มิใช่ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ ลูกหลาน แต่เป็นสาขาออกไป คือลูกหลานของลุง อา หรือเป็นลูกหลานของพี่น้องของปู่ หรือตา เป็นต้น
ทวดมีลูก 9 คน ยายเป็นลูกสาวคนโต มีน้องชายหญิงอีก 8 คน อาจารย์ปรัชญา จึงมีวงศาคณาญาติมาก
...
ในหนึ่งปีพวกเราจะมีโอกาสพบกันที่งานบวช งานแต่งงาน หรืองานศพ ของญาติคนใดคนหนึ่งเสมอ นอกเหนือจากวันสงกรานต์
“ยายผมจำชื่อคนเก่ง และไล่เรียงลำดับสังคญาติในตระกูล และนอกตระกูลได้อย่างแม่นยำ เมื่อมีคนในละแวกบ้านตาย ยายจะรบเร้าให้ลูกหลานพาไปงานศพ ด้วยเหตุผลสั้นๆว่า “เขาเป็นสังคญาติเรา”
ถ้ามีใครถามว่า เราจะต้องไปงานศพเขาผู้นั้นทำไม ยายจะแจกแจงว่าปู่ย่าตาทวดเขาเป็นใคร มาเกี่ยวดองกับเราอย่างไร และปิดท้ายว่า เขาเป็นญาติกับเราในลักษณะใด “ไปเถอะ เขาเป็นสังคญาติกับเรา”
กาลเวลาย่อมกลืนกินสัตว์ทั้งหลาย ยายจากไปด้วยอำนาจของความตายเมื่ออายุได้เจ็ดสิบปี และความตายก็พรากความทรงจำเรื่องวงศ์วานว่านเครือไปพร้อมกับยายด้วย
บ้านเราเริ่มห่างหายจากงานศพสังคญาตินอกตระกูล และหลายต่อหลายครั้งที่สับสนจนใจเรื่องการนับญาติในตระกูลของเราเอง ทุกคนคิดถึงยาย และน้องยายทุกคนพูดเหมือนกันว่า “เรื่องนี้ต้องเจ๊”
“เจ๊ตายแล้ว เราไม่ค่อยได้ไปงานศพของใครเลยเนอะ” น้องสาวยายคนหนึ่งปรารภในวันรวมญาติ
“ถ้าเจ๊ยังอยู่ ก็จะบอกว่าคนนั้นก็ญาติเรา คนโน้นก็ญาติเรา เลยต้องไปมันทุกงานเลย” อีกคนเห็นด้วย
“แต่ก็มีเหมือนกันนะ ที่เจ๊บอกว่า ไม่ต้องไป” พูดไม่ทันจบน้องสาว ของยาย ก็หัวเราะออกมา “อย่าเพิ่งขำสิ เจ๊เขาว่าไง?” เริ่มมีคนสงสัย “เขาว่า ถ้าญาติมันห่างนักละก็” พูดแล้วก็หัวเราะอีก
“ขำอีกแล้ว อย่าเพิ่งจำสิ แกนี่! พอดีไม่รู้เรื่องกัน”
“เจ๊เขาว่า ถ้าสังคญาติพวก สุดหียาย ปลายหีย่า ก็ไม่ต้องไป มันไกลเกิน”
คนเล่าก็หัวเราะ คนอ่านก็หัวเราะครับ...นี่เป็นหัวเราะครั้งแรก...ที่ผมจำได้ นับแต่รู้ผลการเลือกตั้ง
ก็จะหัวเราะออกได้ยังไง...ฟังแต่ข่าวเขาพยายามนับญาติกัน... เป็นแรมเดือนแล้ว ยังไม่รู้ว่าบ้านนี้เมืองนี้ ใครจะมาเป็นนายกฯ.
กิเลน ประลองเชิง