นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ตามที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามนโยบายการศึกษาในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพบข้อมูลว่าในจังหวัดท่องเที่ยวมีปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติได้ใช้ช่องทางจากการเรียนวิชาชีพในกลุ่มโรงเรียนเอกชนนอกระบบ เพื่อขอต่อวีซ่าในการอยู่ประเทศไทยไปเรื่อยๆ ซึ่งปัญหาดังกล่าว อาจส่งผลต่อภัยความมั่นคงของประเทศนั้น ในประเด็นดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ได้ตรวจสอบข้อมูลและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มาตลอด ซึ่งหากมีข้อมูลที่ไม่ชอบมาพากลเราจะแจ้ง ตม.ให้ดำเนินการทันที ทั้งนี้การดำเนินการเรื่องดังกล่าวที่ผ่านมาเมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามาสมัครเรียนตามหลักสูตรต่างๆของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ สช.จะดูข้อมูลจำนวนรับผู้เรียนให้มีความเหมาะสมต่อหลักสูตรนั้นๆ พร้อมกับมีการรับรองว่ามีผู้มาสมัครเรียนในหลักสูตรจริงจำนวนกี่คนจากนั้นจะส่งข้อมูลเหล่านี้ให้ ตม.ตรวจสอบต่อไป

เลขาธิการ กช.กล่าวอีกว่า ตนอยากให้มองหลากหลายแง่มุม หากมองเรื่องชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวก็จะทำให้มีรายได้เข้าประเทศ หรือถ้าเกิดสนใจหลักสูตรวิชาชีพจริงๆ ก็ขอลงเรียนเพิ่มเติมเป็นวีซ่าเพื่อการศึกษาต่อ ซึ่งหากพบว่ามีชาวต่างชาติมาใช้ช่องทางโรงเรียนเอกชนจริง ตม.จะประสานข้อมูลกับ สช.เพื่อนำมาตรวจสอบ อนาคต สช.จะสร้างระบบฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีใหม่ให้ทันสมัยสามารถตรวจสอบผู้ที่เข้ามาสมัครเรียนกับโรงเรียนเอกชนว่ามีสิ่งอื่นแอบแฝงในการเข้ามาเรียนหรือไม่ โดยจะเชื่อมโยงข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ ตม.ด้วย.