อาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติทุกประเภท พัฒนาเป็นอาชญากรรมองค์กรขนาดใหญ่ ทวีความรุนแรง เป็นภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทำความเสียหายกับเศรษฐกิจและสังคมพี่น้องคนไทย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติแสวงหาความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน
ระดับทวิภาคี พหุภาคีและระดับสากล กำหนดให้ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มี นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด ปปง. กรมสอบ สวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ กสทช.

สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และ สมาคมธนาคารไทย ประชุมวางมาตรการตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ “บัญชีม้า” ธุรกรรมต้องสงสัย ซิมม้า การสื่อสารที่ใช้หลอกลวงประชาชน เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันมิให้เกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในเชิงรุก
...
ระบบช่องทางและวิธีการรับส่งข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการทั้งด้านการเงินและโทรคมนาคม และผู้เสียหาย ผบ.ตร.เร่งรัดให้ กสทช. ธนาคาร และหน่วยที่เกี่ยวข้อง จัดทำระบบ กระบวนการเปิดเผยแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นขั้นตอนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว พัฒนาระบบ Banking ให้มีช่องทางรับแจ้งเหตุ เพื่อขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพในการระงับความเสียหาย ป้องกันปราบปราม และดำเนินคดีคนร้ายความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ดียิ่งขึ้น
การปราบปรามสั่งให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเดือน พ.ค.จับ 3,366 คดี ผู้ต้องหา 3,262 ราย ความผิดบัญชีม้า 179 คดี ผู้ต้องหา 168 ราย และความผิดซิมม้า 40 คดี ผู้ต้องหา 48 ราย
จัดทำข้อสอบ Cyber Vaccine 80 ข้อกระจายทุกพื้นที่ให้ประชาชนทดสอบ เป็นการ “ฉีดวัคซีนไซเบอร์” เพื่อสร้างความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน สร้างความเข้าใจรูปแบบกลโกงหลอกลวงออนไลน์ต่างๆ
การดำเนินการร่วมกับองค์กรต่างประเทศ มอบ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 23 ที่เมืองยอร์กยากาตาร์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ร่วมกับ นายไมเคิล เทเน รองเลขาธิการอาเซียนฝ่ายประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ประเทศคู่เจรจา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย รัสเซีย อินเดีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา

มี พล.ต.อ.ลิสติโย ซิกิต ปราโบโว ผบ.ตร.อินโดนีเซีย และ พล.ต.ท.อกุส อันเดรียนโต ผู้บัญชาการตำรวจฝ่ายสอบสวนคดีอาญา แสวงหาความร่วมมือเป็นกลไกนโยบายอาเซียนต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ดำเนินกลยุทธ์ป้องกันและต่อสู้กับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติที่มีอยู่และเกิดขึ้นใหม่
ยกระดับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาและประเทศผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใต้ความร่วมมือป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมใน 10 สาขา ได้แก่ อาชญากรรมทางไซเบอร์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ การลักลอบขนคนโดยผิดกฎหมาย การลักลอบค้าอาวุธ การลักลอบค้ายาเสพติด การก่อการร้าย การละเมิดลิขสิทธิ์ทางทะเล และ การลักลอบค้าไม้และสัตว์ป่า
ผลการปฏิบัติการที่ผ่านมาไทยปฏิบัติร่วมกับหลายประเทศ ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใหญ่ในเมืองสีหนุวิลล์และช่วยเหยื่อชาวไทยที่ถูกหลอกผ่านโซเชียลมีเดียไปทำงานถูกกักขัง บังคับใช้แรงงานกว่า 800 ราย ร่วมมืออินโดนีเซียช่วยเหยื่อชาวอินโดนีเซียค้ามนุษย์ส่งกลับประเทศ 20 ราย ปฏิบัติการร่วมพหุ ภาคีไทย-จีน-เมียนมา ปราบปรามอาชญากรรมพื้นที่เมียวดี-แม่สอด จ.ตาก และท่าขี้เหล็ก-อ.แม่สาย จ.เชียงราย ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์บูรณาการความร่วมมือการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงล้านช้าง-แม่โขง
รอบ 2 เดือนทั้ง 3 ประเทศร่วมปฏิบัติการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง 50 ราย บุคคลหลบหนีคดีและต้องสงสัยฉ้อโกงทางเทคโนโลยี 27 ราย ช่วยเหลือเหยื่อชาวจีนที่ถูกฉ้อโกงได้ 40 ราย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ หารือเรื่องระบบ ช่องทาง และวิธีการรับส่งข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการด้านการเงิน โทรคมนาคมและผู้เสียหาย พบปัญหาในทางปฏิบัติและประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ต้องเร่งทุกภาคส่วนแก้ปัญหาทิศทางเดียวกัน ทั้งวิธีรับแจ้งจากผู้เสียหาย อายัด ระงับธุรกรรม ส่งต่อข้อมูลและดำเนินคดี
...
ผบ.ตร.แต่งตั้ง พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยคนไทย
หลัง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโน โลยี พ.ศ.2566 ประกาศบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. สถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีลดลงได้ระดับหนึ่ง เฉลี่ยจาก 790 เรื่องต่อวัน เป็น 684 เรื่องต่อวัน อายัดบัญชีจากเดิมได้ทันร้อยละ 6.5 มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 15

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า “การแสวงหาความร่วมมือผ่านการประชุมครั้งนี้ส่งผลให้ทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุมบรรลุเจตนารมณ์ร่วมกันในการเล็งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงผลกระทบของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปัจจุบันมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมข้ามชาติประเภทอื่นๆ ทุกประเภท ซึ่งทวีความรุนแรงเป็นภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศ จะร่วมกันยกระดับประสานความร่วมมือบูรณาการปราบปรามและแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิดและจริงจัง ทั้งในระดับทวิภาคี พหุภาคีและระดับสากล เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนมีความปลอดภัย เกิดสันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน”
...
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า “เชื่อว่าหลังจากประชุมขับเคลื่อนในทุกหน่วยจะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา ข้อขัดข้อง จัดวางระบบการส่งต่อ แลกเปลี่ยนข้อมูล การบังคับใช้กฎหมายและการระงับธุรกรรมต่างๆ ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ได้อย่างทันท่วงที”
เป็นงานต่อเนื่อง ผบ.ตร. ให้ความสำคัญแก้ไขปัญหาใหญ่คนไทยกับความเสียหาย “ภัยออนไลน์” ได้ดี แม้จะเหลืออีกไม่กี่เดือนเกษียณราชการ และวางรากฐานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทำให้เหยื่อถูกหลอกออนไลน์ลดลง.
ทีมข่าวอาชญากรรม