ญาติทุกข์ใจ ยังไม่พบ "น้า-หลาน" 5 ชีวิต หลังหายตัวปริศนา ล่าสุดออกหมายจับ "นายแบงค์" คนพาออกจากบ้านแล้ว ขณะที่พลเมืองดี ช่วยโทร. แจ้งเบาะแส
จากรณีเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.พิทยารัตน์ จันทรมาศ อายุ 26 ปี ออกมาร้องผ่านสื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการตามหาตัว น้า-หลาน 5 ชีวิต หลังหายตัวออกจากบ้านไปอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นางอุษา ปานรอด อายุ 43 ปี อยู่บ้าน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช, น.ส.ชนนิกานต์ หรือ น้องบีม โตชะนก อายุ 22 ปี นักศึกษาราชภัฏสุราษฎร์ธานี, น.ส.ญาสุมินร์ หรือน้องรุ้ง โจมฤทธิ์ อายุ 22 ปี (เพื่อน น.ส.ชนนิกานต์ โตชะนก), ด.ช.พรพิพัฒน์ ปานรอด อายุ 13 ปี หรือ น้องฟอร์ด, ด.ญ.ศิรประภา หรือน้องฟ้าใส รุจิตร อายุ 13 ปี
ทั้งนี้ ได้หายออกจากบ้านไปพร้อมกับ นายลมกรด หรือ นายแบงค์ แสงสว่าง อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ แฟนของ น.ส.ชนนิกานต์ โดยนำรถตู้สีขาวทะเบียน นข 8797 อุดรธานี โดยมี นายนพดล แสงเมืองอินทร์ เป็นคนขับ และมีหญิงสาวคนสนิทของนายนพดลนั่งมาในรถรวม 3 คน ต่อมานายลมกรดซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.ชนนิกานต์ ได้พาทั้งห้าคนหายออกจากบ้านไป และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนเวลาผ่านล่วงเลยไปนานกว่า 2 เดือน ก็ยังติดต่อใครไม่ได้เลย ทำให้ทางญาติเป็นกังวลไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จึงออกมาร้องสื่อให้ช่วยตามเรื่องให้ด้วย
ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.พิทยารัตน์ โดยมีศักดิ์เป็นญาติของบุคคลทั้ง 5 และเป็นผู้ร้องเปิดประเด็นให้ช่วยกันตามหาบุคคลดังกล่าว โดย น.ส.พิทยารัตน์ เล่าว่า นายลมกรด ได้มารู้จักกับ น.ส.ชนนิกานต์ เมื่อ 5 เดือน จากนั้น น.ส.ชนนิกานต์ได้พานายลมกรดมาทำความรู้จักกับนางอุษา ผู้เป็นแม่ที่บ้าน โดยมี น้องรุ้ง, น้องฟอร์ด และน้องฟ้าใส นั่งอยู่รวมกันที่บ้าน
...
จากนั้น หลังนางอุษาได้รู้จักกับนายลมกรดแฟนของลูกสาว นายลมกรดได้ชักชวนนางอุษาให้ร่วมลงทุนเปิดปั๊มน้ำมัน โดนอ้างว่าเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง ทำให้นางอุษาหลงเชื่อ นำที่ดินจำนวน 5-6 ไร่ไปขาย ได้เงินมาจำนวน 3 แสนบาท นอกจากนี้ นายลมกรดยังได้บอกกับนางอุษาว่า จะช่วยเหลือดูแลเรื่องทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ทั้ง 4 คน โดยจะรับฟ้าใสกับฟอร์ดเป็นลูกบุญธรรม
หลังนางอุษาได้เงินจากการขายที่ดินมาก็นำไปให้นายลมกรดแฟนของลูกสาว นอกจากนี้นางอุษายังได้หลงกลนายลมกรดที่พยายามหว่านล้อมให้ลงทุนเพิ่ม ทำให้นางอุษาใจอ่อน นำรถกระบะโตโยต้ารีโว่ สมาร์ทแค็บตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน ผจ 9822 นครศรีธรรมราช ไปจำนองไว้กับเต็นท์รถในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้เงินมาจำนวน 100,000 บาท
ต่อมา มีรถฟอร์จูนเนอร์สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมารับบุคคลทั้ง 5 คน หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อบุคคลทั้ง 5 รวมถึงตัวนายลมกรดได้อีกเลย หลังจากทั้ง 5 คนได้หายตัวไป นางสุจิต แม่ของนางอุษาไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ท่าศาลา กระทั่งทางตำรวจสืบทราบว่ารถตู้ที่ใช้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ จ.พะเยา จึงส่งตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบไปติดตามจับกุมตัว นายนพดล แสงเมืองอินทร์ ได้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา
จากนั้นก็นำตัวนายนพดลพร้อมรถตู้มาที่ สภ.ท่าศาลา นายนพดลให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายลมกรดว่า เป็นเพียงคนรับจ้างขับรถตู้ให้เท่านั้นไม่มีส่วนได้เสีย และในวันที่ 14 มิ.ย. นายนพดลได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกไป
ส่วนประเด็นที่คาดว่า นายลมกรด น่าจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎมาหลอกลวงให้หลานสาวหลงรัก และออกอุบายให้นางอุษาผู้เป็นแม่ร่วมลงทุน ทำให้ทุกคนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ ทำให้ทางญาติๆ เป็นกังวลเพราะเกรงจะเกิดอันตรายกับน้าและหลานทั้ง 5 คน จึงขอให้สื่อช่วยติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อสอบถามไปทางตำรวจ สภ.ท่าศาลา เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้า ที่กังวลมากที่สุดคือกลัวจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งค้ามนุษย์ ทุกวันนี้ญาติๆ ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ล่าสุด เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 29 มิ.ย. 2566 น.ส.พิทยารัตน์ จันทรมาศ หรือ น้องฝน ผู้ออกมาร้องได้รับการประสานจากตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ว่า ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ พยายามติดตามสืบสวนหาข่าวเพื่อตามล่าตัว นายลมกรด หรือ นายแบงค์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ล่าสุดทางพนักงานสอบสวนได้ขอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับนายแบงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหมายจับเลขที่ 205/2566 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 2566 ในข้อหาร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีพลเมืองดีหลายท่าน โทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์มือถือของน้องฝน เพื่อแจ้งเบาะแสต่างๆ ให้ทราบ ล่าสุดได้มีอดีตเพื่อนของนายลมกรดหรือแบงค์ติดต่อมาพูดคุยกับน้องฝนผู้ออกมาร้อง และได้ส่งภาพขณะที่นายแบงค์ใช้ชีวิตเที่ยวกินอยู่กับหญิงสาวคนสนิทไปตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ยังบอกว่านายแบงค์ยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกด้วย ซึ่งเพื่อนนายแบงค์คนที่แจ้งเบาะแสมาบอกว่าตนก็เคยถูกนายแบงค์หลอกลวงถูกโกงเงินไปด้วยเช่นกัน และเมื่อเดือน พ.ค. 2561 นายแบงค์ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง ไม่มาตามศาลนัดที่ศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ จึงออกหมายจับนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป.