คดีแก๊งตำรวจตบทรัพย์พนัน 140 ล้าน ยิ่งสอบยิ่งฉาว “บิ๊กโจ๊ก” แฉต้นตอรีดไถมาจาก “บอย” ผู้ ต้องหาหน้าเสื่อที่ยังหลบหนีชี้เป้าวางแผนตำรวจจับผู้ต้องหาแล้วเรียกเงิน 2 แสน กันตัวเป็นพยานทำรายงานสืบสวนเท็จเสนอศาลออกหมายจับเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่แล้วเรียกเงินสูงแถมข่มขู่คนในครอบครัว สุดท้ายหลังพิงฝาแจ้งกลับจับอดีตผู้การเมืองชลและลูกน้องยกก๊วน ปฏิเสธไม่มีผู้ช่วย หรือรอง ผบ.ตร.เอี่ยวแน่นอน ด้านดีเอสไอแจงปมร้อนคลิปโอนเงิน 25 ล้าน เคลียร์อธิบดีฯยันถูกแอบอ้าง

จากคดีสะเทือนวงการสีกากี กรณีเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์แจ้งความดำเนินคดี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีต ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พร้อมพวกอ้างว่าถูกรีดเงินถึง 140 ล้านบาท หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กัมพล และตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 10 นาย ยังเหลืออีกบางส่วน ขณะที่นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี และนายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ ผู้ต้องหาคนสำคัญที่รับเป็นหน้าเสื่อรับเคลียร์เงินยังคงหลบหนีนอกประเทศ ชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างขอหมายแดงติดตามจับกุมพร้อมสอบเส้นทางการเงินหาตัวผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ล่าสุดเรียกเซียนพระชื่อดังมาสอบ หลังพบโยงใยเงิน 28 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายนำไปจ่ายให้แก๊งตำรวจตบทรัพย์

ที่สโมสรตำรวจ กทม. เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 21 มิ.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีอดีต ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กับพวกรีดทรัพย์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาทว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ส.ต.ท.ธนวัตร จันทร์ต๊ะมูล ผบ.หมู่ (สส.) สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพิ่มอีก 1 นายในความผิดฐานเรียกรับผลประโยชน์, ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, ข่มขืนใจผู้อื่นให้ได้ทรัพย์สิน, กักขังหน่วงเหนี่ยว และมาตรา 157 หลังพบว่าเป็นผู้ทำรายงานการสืบสวนเท็จและยังเป็นคนขับรถรับส่งให้นายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ตำรวจนายนี้ให้การรับสารภาพ

...

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า คดีนี้หากย้อนไปจุดเริ่มต้นของการรีดไถเงินครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจในพื้นที่ จ.ชลบุรีเข้าตรวจค้นบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ใช้ลอบทำเว็บพนัน จับผู้ต้องหาได้จำนวนหนึ่งก่อนจะเรียกเงิน 2 แสนบาทแลกกับการตัดรายชื่อผู้ต้องหาออกไป 2 คน เพื่อใช้มาเป็นพยานทำรายงานการสืบสวนเท็จเสนอศาลออกหมายจับนายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ การกระทำลักษณะนี้ยังเป็นการละเมิดอำนาจศาล ขบวนการนี้ นายบอยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพราะรู้ว่าเว็บพนันไหนรายใหญ่ก่อนชี้เป้าไปที่นายเป้เจ้าของเว็บ Foxbet ตั้งราคาค่าใช้จ่ายเอง ส่วนตำรวจได้ส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อย เพราะตำรวจไม่ทราบว่าเว็บใดเป็นรายใหญ่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า จากการสืบค้นข้อมูลนายบอยพบว่า มีทรัพย์สินมูลค่ามากถึงหลักพันล้านบาท ตำรวจจะเร่งยึดอายัดทรัพย์ให้หมดและภายในสัปดาห์หน้าจะได้รับข้อมูลถึงเส้นทางการเงินเข้าออกกว่า 200 บัญชี ทำให้สามารถไล่เรียงความชัดเจนได้ เบื้องต้นพบว่ามีเงินถูกโอนไปยังนายกฤษฎา ไทยสำราญ หรือต้อม นครสวรรค์ เซียนพระชื่อดัง แต่ตำรวจเรียกมาสอบปากคำแล้วไม่พบความเกี่ยวข้อง และยังให้การเป็นประโยชน์ เพราะนายบอยซื้อขายพระถึง 400 ล้านบาท

“เรื่องเว็บพนันถ้าผลประโยชน์ลงตัวระหว่างตำรวจกับเจ้าของเว็บ มีการจ่ายเงินรับเงินก็จะไม่ค่อยมีเรื่อง แต่เมื่อไหร่ที่ขัดแย้งกันเอง ทะเลาะกันเองก็มักเกิดเรื่องขึ้น เอาเรื่องต่างๆมาแฉกัน เมื่อถูกแฉและมีหลักฐาน ตำรวจก็ต้องจับ อย่างที่ จ.ชลบุรีทำกันมานานแล้ว เดิมไม่มีปัญหา เพราะมันลงตัว แต่เกิดการรีดไถกันมากเกินไป และมีการข่มขู่ครอบครัวของผู้ต้องหา ทำให้ผู้ต้องหาหลังพิงฝาและต้องสู้ ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าถ้าแจ้งตำรวจตัวเองก็จะถูกดำเนินคดีด้วย แต่วันนี้ก็ยอมทิ้งบอมบ์” รอง ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเรื่องเว็บพนันต่างๆที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือ รอง ผบ.ตร คนไหน เพราะไม่มีใครสนับสนุนลูกน้องให้ทำแบบนี้ เรื่องเว็บพนันมีเงินจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ทำให้ล่อตาล่อใจ การดำเนินคดีเว็บพนันที่ จ.ชลบุรี ก็ไม่เกี่ยวกับผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือ รอง ผบ.ตร.คนไหน แต่เกิดจากลูกน้องไปทำผิด เมื่อรู้ว่าไปไม่รอดก็พยายามทำให้นายทะเลาะกัน ตัวเองทำชั่วเอง แต่พอมีเรื่องก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่น พยายามโยงประเด็นเรื่องการชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.บ้าง ลักษณะนี้เรียกว่าลูกน้องชั่วซ้ำซาก ชั่วเพราะตัวเอง เมื่อถูกจับแล้วก็ต้องยอมรับสารภาพ ไม่ใช่ไปโทษคนอื่น  เพราะฉะนั้นชั่วแล้วก็ต้องยอมรับสารภาพว่าชั่วจริง ไม่ใช่มากระทำผิดจนเป็นความชั่วซ้ำซาก

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายพิสิษฐ์ หรือ คณิศรพาณี หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันและการฟอกเงินร่วมกับแก๊งตำรวจตบทรัพย์นายเป้ 140 ล้านบาทได้สนทนากับนายจักรกริช หรือแก็ป บุญประมุข เพื่อทวงเงิน 25 ล้านบาท อ้างนำไปเคลียร์กับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้จบปัญหา เนื่องจากนายต้นกล่าวอ้างว่าดีเอสไอเตรียมดำเนินคดีกับนายเป้นั้น ล่าสุดเวลา 16.00 น.วันที่ 21 มิ.ย. นายพงษธร อินอำนวย ผอ.กองคดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ ให้ชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว

นายพงษธรเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการแจ้งความกันที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีบุคคลซึ่งเป็นทหารติดต่อมาถามดีเอสไอว่าได้ดำเนินการทางคดีกลุ่มบุคคลนี้หรือไม่ (นายเป้-ธนินวัฒน์ อุดมเชาว เศรษฐ์ และนายแก็ป-จักรกริช บุญประมุข) ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นเว็บไซต์พนันอะไร บอกเพียงชื่อคนที่คาดว่าถูกจับเท่านั้น ปรากฏว่านายต้นอ้างว่านอกจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ก็มีดีเอสไอที่กำลังมอนิเตอร์นายเป้อยู่ด้วย เสนอตัวอาสาขอเคลียร์ให้ เป็นเหตุให้นายเป้และนายแก็ปขอคำปรึกษากับบุคคลที่เป็นทหาร ขอให้ช่วยตรวจสอบรายชื่อว่านายเป้ เป็นผู้ต้องหาในคดีที่ดีเอสไอหรือไม่ เพราะมีการแอบอ้างว่าถูกเรียกเงิน 25 ล้านบาท เพื่อจะเอามาเคลียร์ดีเอสไอ

...

นายพงษธรกล่าวว่า จากการตรวจสอบเลขบัตรประจำตัวประชาชนของนายเป้ในระบบ เนื่องจากในขณะนั้นนายเป้ยังไม่ตกเป็นผู้เสียหายในกรณีถูกตบทรัพย์ 140 ล้านบาท พบว่าไม่ใช่ชื่อผู้ต้องหา หรือพยานในคดีพิเศษใดๆที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการอยู่ จึงแจ้งกลับไปยังทหารรายนี้ เมื่ออธิบดีฯทราบข้อเท็จจริงสั่งให้สืบสวนทางลับว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายใดเกี่ยวข้องตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่และปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่มีใครเกี่ยวข้อง และนอกจากพลเรือนที่เกี่ยวข้องกับทหารมาสอบถามแล้ว มีอัยการรายหนึ่งสอบถามมายังตนเช่นกันว่าดีเอสไอดำเนินคดีนายเป้หรือไม่ เพราะมีการถูกกล่าวอ้างพาดพิงดังกล่าว แจ้งไปว่าไม่มี ในข้อเท็จจริงยังพบด้วยว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้อ้างเพียงดีเอสไอ แต่ยังอ้างถึงหน่วยงานตำรวจถึง 2 หน่วยงาน และกลุ่มนายเป้ก็ตรวจสอบรู้ทันว่าไม่มีหน่วยงานตามรีดเงินตามที่ถูกอ้างไม่จ่ายเงินให้ จากนั้นมีการรายงานข่าวตามหน้าสื่อว่ามีการแจ้งดำเนินคดีกันเรื่องการตบทรัพย์

ผอ.กองคดียาเสพติด ดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ตนยังได้รับไฟล์ PowerPoint ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับนายเป้ เครือข่ายเว็บพนันและรายการทรัพย์สินต่างๆ ไฟล์ดังกล่าวใช้ตรากระทรวงยุติธรรมและพิมพ์ว่า “ข้อมูลเว็บพนันออนไลน์ Hilorich กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ” ข้อเท็จจริงคือสำนักคดีนี้ไม่มีมาตั้งแต่ปี 2559 และสำนักคดีทุกสำนักได้เปลี่ยนเป็นกองคดีหมดแล้วตามกฎกระทรวง กลายเป็นว่าไฟล์เอกสาร PowerPoint ฉบับนี้เป็นเอกสารปลอม ใช้เพื่อการแอบอ้างโดยเฉพาะ ที่สำคัญดีเอสไอไม่มีอำนาจในการทำไฟล์ดังกล่าวบรรจุข้อมูลลับภายในและยังใช้ตราของกระทรวงอีกด้วย และไฟล์นี้ก็ถูกกลุ่มคนที่เชื่อว่ามีความใกล้ชิดกับนายเป้มากๆทำมาเพื่อนำไปหลอกตบทรัพย์

เมื่อถามว่าการที่มีบุคคลสายทหารสอบถามดีเอสไอเกี่ยวกับกรณีนายเป้ถูกมอนิเตอร์อยู่หรือไม่นั้นแสดงว่านายเป้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงเส้นสายทหารด้วยหรือไม่ นายพงษธร กล่าวว่า ได้สอบถาม กับที่ปรึกษานายทหารรายดังกล่าวถึงข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบอกว่านายเป้ไปปรึกษากับสายทหารว่าถูกรีดเงิน นายทหารรายนี้อาสาเพื่อจะสอบถามทางดีเอสไอถึงข้อเท็จจริง เพราะหน่วยงานดีเอสไอถูกพาดพิงโดยตรง ตอนนั้นพอเราตรวจสอบข้อมูลแล้วก็ไม่พบในฐานระบบ แจ้งกลับไปว่าบุคคลดังกล่าวน่าจะถูกหลอกต้มตุ๋น และดีเอสไอถูกแอบอ้าง หลังจากนี้ตนคงจะนำเรียนอธิบดีก่อน ซึ่งอธิบดีอาจจะมีแนวทางการดำเนินการในขั้นตอนถัดไปกับกลุ่มเว็บพนันที่ไปแอบอ้างต่อไป

...

มีรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีพยานเดินทางเข้าให้ปากคำตำรวจชุดคลี่คดีแก๊งตำรวจรีบเงิน 140 ล้านบาท ที่สโมสรตำรวจและพยายามเดินหลบสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามข่าวออกทางด้านหลัง โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบคอยเดินตามประกบ โดยมีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนว่า พยานดังกล่าวเป็นกลุ่มพยานคนสำคัญ ทำหน้าที่คอยเฝ้าดูลาดเลาระหว่างที่กลุ่มผู้ต้องหานัดหมายผู้เสียหายนำเงินจำนวน 57.2 ล้านบาทมาให้ นำไปไว้กระโปรงท้ายรถโตโยต้า รุ่นอัลติส สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ภายในลานจอดรถสุดซอยภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี วันที่ 24 มิ.ย.66

จากการสืบสวนพบว่าวันดังกล่าวมีรถขนเงินมา 3 คัน คันแรกเป็นรถเบนซ์สีขาว คันที่ 2 และคันที่ 3 เป็นรถแท็กซี่ แบ่งรถแต่ละคันขนเงินมาคันละ 1 ก้อน เป็นเงินจากนายเค 29.2 ล้านบาท นายผุ 8 ล้านบาท และนายบอย ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ไปนัดรับกันมาจากร้านอาหารก่อนหน้านี้จำนวน 20 ล้านบาท เอามาใส่รวมไว้ที่ท้ายรถเก๋งสีส้ม คันดังกล่าวในเวลาใกล้เคียงกัน ก่อนจะมีคนขับรถอีกคันมารับเงินออกไปจากท้ายรถเก๋งสีส้ม แต่กลุ่มพยานกลับอ้างว่าไม่ทราบว่ารถที่มารับเงินออกไปจากท้ายรถเก๋งสีส้มคันดังกล่าวนั้นเป็นใครและเป็นรถยี่ห้ออะไร ชุดสืบสวนสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อพยาน อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อเค้นถามถึงบุคคลนิรนามที่ถูกมอบหมายให้มารับเงินในวันดังกล่าวว่าเป็นใคร เพื่อติดตามตัวและสืบสวน ยายผลเส้นทางการเงินต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับนายบอย ได้ประสานคณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ว่า จะขอมอบตัว แต่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะกลัวว่ามาแล้วจะไม่ได้รับการประกันตัว ไม่มีคำยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะเดินทางเข้ามาตามนัดหมายก่อนหน้านี้ที่นัดหมายไว้วันที่ 24 มิ.ย.หรือไม่ ถ้าจะมามอบตัวจริงก็ไม่สามารถที่จะทำตามเงื่อนไขตามที่นายบอยจะขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนได้อยู่แล้ว ดังนั้นหากต้องการประกันตัวต้องไปขอประกันตัวในชั้นศาลเท่านั้น

...