“ป.ป.ส.” จับมือตำรวจ “นครบาล” และกองทัพไทย เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นทลายเครือข่าย ยาเสพติด 21 จุดย่านฝั่งธนบุรี ล่าผู้ต้องหาค้ายาเสพติดตามหมายจับ 39 หมาย ลากคอเครือข่ายยานรกหากินกับผู้เสพรายย่อยตามชุมชนได้ 11 คน เป้าหมายสำคัญพร้อมยึดทรัพย์ทั้งบ้าน พร้อมที่ดิน รถยนต์ และทองคำ ฯลฯ มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท
ป.ป.ส.จับมือตำรวจนครบาล และกองบัญชาการกองทัพไทยปิดล้อมตรวจค้นทลายเครือข่ายยาเสพติดย่านฝั่งธนบุรี เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ตำรวจ บก.น.8 ตำรวจ บก.น.9 และเจ้าหน้าที่ทหารกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 21 จุดทลายเครือข่ายยาเสพติดย่านฝั่งธนบุรี จับกุมผู้ต้องหารวม 11 คน พร้อมอายัดทรัพย์สินเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหลายสิบล้านบาท โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบ.ก.น.9 และ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รอง ผบ.ก.น.8 ร่วมกันแถลงข่าวบริเวณชุมชนสุขสวัสดิ์ซอย 1 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.
การทลายเครือข่ายยาเสพติดครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2565 มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 60,200 เม็ด และยาไอซ์ 96.19 กรัม จากการบูรณาการสืบสวนสอบสวนระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส.และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าว ตั้งแต่ระดับลูกค้ารายย่อยไปจนถึงเครือข่ายผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในพื้นที่ชุมชน กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีมากกว่า 100 ราย เกี่ยวพันไปถึงบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมากกว่า 250 บัญชี จากการตรวจสอบพบว่ามีเงินหมุนเวียนมากกว่า 40 ล้านบาท
...
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พนักงานสอบสวน บก.น.8 และพนักงานสอบสวน บก.น.9 รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับตัวการหรือเจ้าของยาเสพติดและลูกค้า เป็นผู้ค้ายาเสพติดระดับแพร่ระบาด จากศาลอาญาธนบุรีได้จำนวน 39 หมาย ข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ส.อนุมัติแจ้งข้อหาจนนำไปสู่การวางแผน ปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้
ผลการปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้น เป็นการบูรณาการกำลังชุดปฏิบัติการจาก ป.ป.ส. ตำรวจ บก.น. 8 บก.น.9 และกองบัญชาการกองทัพไทย ปิดล้อม 21 จุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 11 คนจากทั้งหมด 39 หมายจับ หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการจับกุมนายนราธิป นาคทอง พร้อมของกลางยาอี 120 เม็ด และเคตามีน 25 กรัม พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินในเครือข่ายนี้เป็นสมุดเงินฝาก บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ พระเครื่อง ทองรูปพรรณและทรัพย์สินอื่นๆ 141 รายการ มูลค่าทรัพย์สินจำนวน 25 ล้านบาท
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การปิดล้อมครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากการจับกุมผู้ต้องหาเพียง 1 คน พบข้อมูลความเชื่อมโยงกับผู้ค้ารายย่อยและลูกค้าจำนวนมาก ทำให้สามารถออกหมายจับได้ 39 เป้าหมาย เป็นแนวทางการปราบปรามยาเสพติดแนวใหม่ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด สามารถขยายผลถึงผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด แม้ว่าผู้นั้นไม่เกี่ยวข้องกับตัวยาเสพติด เช่น เป็นผู้ดูแลธุรกรรมทางการเงินในเครือข่ายนี้พบการใช้บัญชีม้าในการกระทำผิด ขอฝากถึงประชาชนว่า การรับจ้างเปิดบัญชีหรือให้ยืมบัญชี มีโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 129 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“สำนักงาน ป.ป.ส.มุ่งเน้นการปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดในหมู่บ้านหรือชุมชนที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนใน พร้อมดำเนินการตามข้อร้องเรียนของประชาชนผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ผู้แจ้งเบาะแสไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลผู้แจ้งปลอดภัยแน่นอน” เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าว