คณะสงฆ์เชียงใหม่ยื่นเดดไลน์ให้ “ครูบาพรชัย” ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ภายใน 15 วัน หลังถูกยื่นเรื่องตรวจสอบกรณีขับรถกระบะถอยชนดะในบ้านเอื้ออาทรกลางเมืองเชียงใหม่ และปมเงินทำบุญนับร้อยล้านบาทไม่เข้าบัญชีวัด ขณะที่เจ้าตัวยังล่องหน ลูกศิษย์บอกตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เห็นกลับมาวัดอีกเลย คาดคนใกล้ชิดพาไปรักษาตัวจากอาการอาพาธหลายโรค ชาวบ้านเผย ยอดเงินกฐินปีนี้ได้แค่ 2 ล้านบาท อึ้งห้องพักที่พระครูอ้างมาหาน้องชายวันเกิดเหตุ เป็นห้องร้างไม่มีคนพักอาศัย ถูกตัดน้ำตัดไฟนานแล้ว มีชื่อผู้หญิงเป็นคนครอบครอง
เป็นประเด็นที่พุทธศาสนิกชนจับตามอง กรณีเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สั่งตรวจสอบพฤติกรรมพระครูพุทธบทเจติยารักษ์ หรือครูบาพรชัย ปิยวัณโณ อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ขับรถกระบะถอยชนรถยนต์และรถ จยย.ในโครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ เสียหาย 6 คัน เมื่อวันที่ 29 พ.ค. และกรณีเงินทำบุญนับร้อยล้านบาทที่คณะศรัทธาจากกรุงเทพฯ ร่วมทำบุญถวายให้วัด แต่ไม่นำเงินเข้าบัญชีวัด รวมทั้งการก่อสร้างในวัดหลายจุด ไม่ได้ขออนุญาตและบุกรุกพื้นที่ป่า
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. พระครูสิริอาภากร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะอำเภอแม่ริม เผยว่า คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ได้เรียกครูบาพรชัยมาพบและมีคำสั่งให้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ภายใน 15 วัน เพื่อตรวจสอบกรณีนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (สปอท.) ยื่นคำร้องต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ให้ ตรวจสอบกรณีขับรถชนว่ากระทำถูกต้องเหมาะสมกับฐานานุรูปและขัดมติมหาเถรสมาคม มติที่ 252/2564 ห้ามพระภิกษุสามเณรขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งมีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ และเงินที่นำไปชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีเป็นเงินส่วนตัวของพระหรือของวัด มีที่มาที่ไปอย่างไร
...
พระครูสิริอาภากรกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนครูบาพรชัยยังคงยืนยันว่าขับรถไปหาญาติ และเกิดอาการโรคประจำตัวกำเริบ ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ในส่วนของการตรวจสอบเรื่องเงินทำบุญ ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงและยังไม่ได้ตรวจสอบ เป็นหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบในประเด็นนี้ต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดพระพุทธบาทสี่รอย บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา พื้นที่ภายในวัดหลายจุดกำลังก่อสร้าง ทั้งซุ้มประตูวัดด้านหน้าที่สร้างอย่างยิ่งใหญ่ และรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก สอบถามพระลูกวัดบอกว่า ครูบาพรชัยไม่ได้อยู่ที่วัด ลูกศิษย์พาไปรักษาอาการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัวในตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นครูบากลับมาที่วัดอีกเลย ปกติครูบาพรชัยจะขับกระบะตรวจงานก่อสร้างในวัดที่มีพื้นที่กว้างขวาง รวมทั้งขับรถไปทำธุระตามที่ต่างๆ เนื่องจากวัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล บางครั้งไม่มีลูกศิษย์คอยช่วยขับรถยนต์ให้
ด้านชาวบ้านใกล้วัดบอกว่า เรื่องเงินทำบุญทอดกฐินปีนี้ ที่ร่ำลือกันว่ามีจำนวน 200 ล้านบาท และครูบาไม่ได้นำเข้าบัญชีวัดนั้น คิดว่ายอดเงินไม่น่าจะมากขนาดนั้น ปกติทุกปีจะมีข้าราชการและนักการเมืองชื่อดังมาทำบุญเป็นประจำ ส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใดต้องถามกรรมการวัดทั้ง 10 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งมาเมื่อต้นเดือน เม.ย. เพราะหลังทอดกฐินแล้วคณะกรรมการวัดได้ประกาศเสียงตามสายในหมู่บ้านระบุว่า ปีนี้ได้เงินทอดกฐิน 2 ล้านกว่าบาทเท่านั้น และนำไปก่อสร้างซุ้มประวัดหมดแล้ว
“ซุ้มประตูวัดดังกล่าวใช้งบก่อสร้างไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท คาดไม่เกิน 2 ปีนี้จะแล้วเสร็จ และจะมีการจัดงานฉลอง พร้อมตัดลูกนิมิตวิหารใหญ่ของวัดไปพร้อมกัน แต่มาเกิดปัญหาเกี่ยวกับครูบาพรชัยขึ้นเสียก่อน ไม่รู้ว่าจะได้จัดงานหรือไม่ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของครูบาพรชัยว่าจะไม่นำเงินวัดไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพราะเป็นพระดี เป็นพระนักพัฒนาทำให้วัดมีความเจริญ มีผู้ศรัทธาพากันมาทำบุญจำนวนมาก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวบ้านและชุมชนจนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น” ชาวบ้านคนเดิมกล่าว
ส่วนประเด็นเรื่องการก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่ป่านั้น จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณพื้นที่ปัญหาเป็นการก่อสร้างอาศรมฤาษีวาสุเทพ และกุฏิเจ้าอาวาสหลังใหม่ กำลังสร้างศาลา รั้ว และซุ้มประตูขนาดใหญ่ มีคนงานเร่งก่อสร้างศาลาขนาดใหญ่ ตกแต่งลำธารเป็นน้ำตกด้วยพระพุทธรูปและพญานาค มีรถยนต์ 2 คัน คาดเป็นของเจ้าอาวาส จอดทิ้งไว้ใกล้กุฏิมานานหลายวันแล้ว เบื้องต้นทราบว่าวัดได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ และได้รับอนุญาตใช้พื้นที่จำนวนหนึ่งจริง แต่อาจจะขยายพื้นที่ก่อสร้างมากเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง
สำหรับห้องพักบ้านเอื้ออาทรป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ จุดเกิดเหตุที่ครูบาพรชัยดังถอยรถชนรถของผู้พักอาศัยเสียหาย เป็นรถยนต์ 4 คัน รถ จยย. 2 คัน ครูบาพรชัยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้รถทุกคันเรียบร้อยแล้ว เป็นเงิน 2 แสนบาท ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามนิติบุคคลบ้านเอื้ออาทรดังกล่าวทราบว่า ห้องพักที่ครูบาอ้างว่ามาหาน้องชายนั้นเป็นห้องชั้นที่ 1 อาคาร 30 แต่ห้องดังกล่าวไม่มีผู้พักอาศัยนานแล้ว น้ำไฟฟ้าถูกตัด มิเตอร์ไฟฟ้าถูกถอดออกไปแล้ว เจ้าของห้องเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง มีบ้านอยู่ในพื้นที่ ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ ซื้อทิ้งไว้นานแล้วแต่ไม่เคยเห็นว่ามาพักอาศัย ส่วนจะเป็นญาติหรือเกี่ยวข้องกับครูบาอย่างไรไม่ทราบ ยืนยันไม่ใช่ห้องของน้องชายตามที่ครูบากล่าวอ้างในวันเกิดเหตุแน่นอน