“Ars Longa, Vita Brevis” ในภาษาละตินที่ตรงกับภาษาไทยว่า “ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” นับเป็นคำพูดอมตะจากศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี บิดาศิลปะสมัยใหม่ของไทย ที่เอ่ยถึงความสำคัญของงานศิลป์ได้ดี ไม่เพียงกินความลึกซึ้งถึงความยืนยงของงานศิลป์ใดๆ บนโลกใบนี้มากกว่าชีวิตมนุษย์เท่านั้น แต่ยังอาจตีความได้ถึงความยืนยาวในฐานะสิ่งทรงคุณค่าต่อชีวิตด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะงานศิลป์รูปแบบใด ต่างก็ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตของคนเราแบบแยบยลด้วยเสมอ ไม่เพียงเพื่อสุนทรียะ กล่อมเกลา บอกเล่าความหมาย หากแต่เป็นเครื่องบำบัดใจ และเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งของการจุดประกายความหวัง และจุดพลังชีวิต
งานศิลป์ กับสารแห่งความสุข
เมื่อพูดถึงงานศิลป์ คนส่วนใหญ่อาจนึกถึงภาพจิตรกรรม หรือประติมากรรมงดงามของเหล่าศิลปิน แต่ในความจริงแล้วกลิ่นอายจากงานศิลป์ได้แฝงเข้าไปอยู่ในชีวิตของมนุษย์เรารูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเสมอ จากตึกหรืออาคารที่เราอาศัยที่อาจเริ่มต้นมาจากการสร้างสรรค์ด้วยแนวคิดและคุณค่าทางศิลปะ ไปจนถึงความพยายามในนำงานศิลป์เข้าไปใกล้ชิดกับชีวิตของผู้คนในรูปแบบเครื่องตกแต่งอาคาร ทั้งงานจิตรกรรม หรือประติมากรรม เพื่อให้ผลงานเหล่านั้นทำหน้าที่เป็นเครื่องบำบัดใจ ส่วนหนึ่งเนื่องจากการศึกษาในหลายครั้ง ได้พบความเชื่อมโยงของการที่สมองหลั่งสารโดปามีน หรือสารแห่งความสุข จากการมอง หรือชื่นชมงานศิลปะดีๆ เหตุนี้จึงเกิดผลดีต่ออารมณ์ ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ส่งผลต่อการทำงานและการใช้ชีวิตที่ราบรื่นได้
งานศิลป์อาจใกล้ชิดกับเราในฐานะเครื่องมือบำบัดใจที่จับต้องได้มากกว่านั้นอีก ยกตัวอย่างการใช้ศิลปะในคอร์สเพื่อการบำบัด อย่างการเรียนวาดภาพสีน้ำเพื่อฝึกสมาธิ บำบัดใจ และคลายความวิตกกังวล ที่กลายเป็นผลลัพธ์ที่ดีสำหรับผู้ที่เปิดใจพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับงานศิลป์ ผ่านการสร้างสรรค์และลงมือทำด้วยตนเอง ซึ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา การอาศัยงานศิลปะเข้ามาช่วยเยียวยาจิตในลักษณะเดียวกันนี้ ก็ทำให้ใครหลายคนสามารถข้ามผ่านวันร้ายๆ ไปได้แบบไม่ยากลำบากเกินไปนักเช่นกัน
ให้งานศิลป์เคียงคู่ไปกับชีวิต
ด้วยคุณค่าของศิลปะ หรืองานศิลป์ ที่มีประโยชน์กับมนุษย์เราในเชิงรูปธรรมเช่นนี้เอง ทำให้หลายฝ่ายหวังจะเป็นส่วนหนึ่งของการสานต่อ และชื่นชมคุณค่าในความสามารถของศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานด้วย ทั้งการเป็นผู้สนับสนุนในรูปแบบต่างๆ รวมถึงส่งต่อพลังไปยังศิลปินรุ่นใหม่ๆ ให้ได้จุดประกายการสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ฝากไว้ให้กับโลกใบนี้ต่อไป ผ่านเวทีการนำเสนอผลงาน และการประกวดต่างๆ
อย่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดการประกวดศิลปกรรม ปตท. เป็นประจำทุกปี โดยปี 2566 นี้ถือเป็นครั้งที่ 38 แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปิน เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาจนถึงประชาชนทั่วไป ได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดออกมาในรูปแบบของงานศิลป์ทุกประเภท ทั้งด้านจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์
ติดตามรายละเอียดอย่างต่อเนื่องได้ที่ แฟนเพจ หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา หรือ www.pttplc.com หรือ โทร. 02 537 1388
#จุดประกายความหวังจุดพลังชีวิต #PTT #PRNews