สังเวยเก้าอี้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. จากผลพวงของ “ส่วยรถบรรทุก”
ผ่านรูปแบบ “สติกเกอร์” แสดงอาณัติสัญญาณ “ไฟเขียว” แลกการอำนวยความสะดวกบนท้องถนนหลวง
ปัญหาเรื้อรังที่สะสมมาหลายปีเรียกว่า วิน-วิน กันทั้งสองฝ่ายระหว่าง “ผู้ให้” และ “ผู้รับ”
“ต้นเหตุคือ เรื่องรถบรรทุกหนักเกินกำหนด” แม่ทัพติดอาร์มตำรวจทางหลวงระบายเหตุผล “ต้องย้อนถามไปยังสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยด้วยว่า อะไรคือ ปัญหาที่แท้จริง ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเห็นแก่ตัวจนต้องบรรทุกหนักเกิน”
จากนั้นแสดงสปิริตขอขยับตัวเอง “เข้ากรุ” ไปประจำ ศปก.บช.ก.
เปิดทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เซ็นคำสั่งส่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.ไปรักษาราชการแทน ผบก.ทล.อีกตำแหน่ง
ลงไปเรียกประชุม “รอง ผบก.- ผกก.” เพื่อแก้ข้อครหา “ส่วยสติกเกอร์” ทำต้นสังกัดเหม็นเน่า
ยอมรับเป็นเรื่องสกปรกหมกอยู่ใต้พรมมานาน
จำเป็นต้องกวาดบ้านนำพาหน่วย “โปลิศ ไฮเวย์” ไปในทางที่ถูกต้อง
ประเดิมยุบ “ชุดเฉพาะกิจ” ทั้งหมดเพื่อ “ตัดวงจร” ที่ส่อไปในทางทุจริตออกไปจากต้นสังกัด
“ตำรวจทางหลวงมาถึงการเปลี่ยนแปลง แม้ทุกขั้นตอนย่อมกระทบไปถึงธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ แต่ต้องปรับตัวตามให้ทัน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติย้ำ
“การปรับตัว คือบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม” เจ้าตัวว่า “ถึงจะเสียบุคลากรแต่ต้องยอมรับความจริง”
ประกาศล้างพิษสติกเกอร์ส่วย “กู้ภาพลักษณ์” ตำรวจทางหลวงคืน.
...
สหบาท