พ่อแม่นักเรียนสาวโล่งอก ผลตรวจร่างกายลูกสาวรอบสองไม่พบสารเมทแอมเฟตามีน แพทย์ออกใบรับรองนำไปใช้ยื่นเข้าศึกษาต่อคณะเภสัชศาสตร์ได้ตามกำหนด หลังผลตรวจครั้งแรกกินยาผิวขาวเข้าไปแล้วมีปัญหา ผลออกมาเป็นบวก เจ้าตัวยิ้มออก ยืนยันไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ด้าน อย.จี้ผลตรวจหาสารต้องห้ามในผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยใน 1 สัปดาห์ ออกโรงเตือนวัยรุ่นไม่ควรซื้ออาหารเสริมทางออนไลน์มากินเอง
กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ กรณี น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ผิวขาวทางอินเตอร์เน็ตมากินแล้วไปตรวจร่างกายที่ รพ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ แพทย์ไม่สามารถ ออกใบรับรองเพื่อจะนำไปใช้มอบตัวเข้าศึกษาต่อคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในภาคอีสานได้ ทำให้ผู้ปกครองต้องพาแจ้งความ ยืนยันว่าลูกสาวไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากกินยาผิวขาว ก่อนแจ้งสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์เก็บ ตัวอย่างอาหารเสริมดังกล่าวไปตรวจหาสารเสพติด คาดว่าจะรู้ผลไม่เกิน 7 วัน
ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 29 พ.ค. นายชัย อายุ 42 ปี (นามสมมติ) พร้อมด้วยนางเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี พ่อแม่ของ น.ส.ออย พาลูกสาวไปตรวจ ร่างกายซ้ำอีกครั้งที่ รพ.บุรีรัมย์ นายชัยเปิดเผยว่า วันนี้พาน้องออยมาตรวจร่างกายอีกครั้งเพื่อขอใบรับรอง แพทย์ หลังจากตรวจครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 พ.ค. เจอ สารดังกล่าว ไม่สามารถนำไปยื่นเข้าเรียนเภสัชศาสตร์ในวันที่ 31 พ.ค. ได้ ต้องพาลูกมาตรวจซ้ำอย่างละเอียด และมั่นใจว่าไม่พบสารเสพติดในร่างกายของลูกสาว แน่นอน คาดว่าผลตรวจจะออกมาไม่เกินเที่ยงของวันนี้
“ที่ผ่านมาครอบครัวพยายามปูพื้นฐานในสิ่งดีๆ ให้กับลูก คอยปลูกฝังให้รักการเรียน ประพฤติตนเป็นเด็กดี ลูกไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทาง เวลาไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันตลอด ทำให้พ่อแม่มั่นใจได้ว่าลูกสาวไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องยาเสพติดแน่นอน เขาเป็นเด็กเรียนดีตั้งแต่อยู่ชั้น ม.1 ได้เกรดเฉลี่ย 3.90-3.95 จนจบ ม.6 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกไม่ดี เลยตัดสินใจพาลูกมาตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อความสบายใจ” นายชัยกล่าว
...
ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งผลตรวจร่างกายของ น.ส.ออย หลังมีการเจาะเลือด และตรวจปัสสาวะอย่างละเอียด ไม่พบสารเสพติดใดๆ นายชัยเปิดเผยภายหลังทราบผลตรวจว่า ตอนนี้ถือว่าโล่งอก ผลตรวจในวันนี้แพทย์ระบุว่า สามารถเอาไปอ้างอิงกับสถานศึกษาที่ลูกสาวจะเข้าไปเรียนต่อ ได้ทันที ไม่ต้องไปตรวจซ้ำอีก เพราะตรวจอย่างละเอียดแล้ว ส่วนผลตรวจหาสารเมทแอมเฟตามีนในผลิตภัณฑ์ผิวขาวที่ลูกกินจะออกมาอย่างไรนั้นก็ต้องรอดูกันอีกที
ขณะที่ น.ส.ออยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ดีใจที่ผล ตรวจออกมาเป็นลบจะได้นำไปใช้ยื่นกับมหาวิทยาลัย ยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยกินยามั่ว แม้แต่ตอนปวดท้องประจำเดือนก็ไม่กินยาแก้ปวด ส่วนสารเมทแอมเฟตามีนที่พบตอนแรกก็ยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น คงต้องรอผลตรวจตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่เจ้าหน้าที่นำไปพิสูจน์ออกมาเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังกล่าวโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณี น.ส.ออย ที่สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ แต่ผลการตรวจร่างกายพบสารต้องห้ามว่า คณะเภสัชศาสตร์กำหนดสอบสัมภาษณ์ TCAS 3 วันที่ 31 พ.ค.นี้ และให้นักเรียน ที่มีสิทธิยื่นผลการตรวจร่างกายในวันสอบด้วย คณะยังไม่ได้ดำเนินการสัมภาษณ์ หรือตัดสิทธิผู้เข้าสอบคนใดทั้งสิ้น เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด และยัง ไม่ปรากฏผู้มีสิทธิเข้าสอบ หรือผู้ปกครองท่านใดมาขอหารือเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ถ้าปรากฏว่า มีผู้เข้าสอบที่ผลการตรวจร่างกายไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ คณะจะขอให้ไปตรวจร่างกายซ้ำเพื่อยืนยันผล ไม่ได้ตัดสิทธิการเข้าเรียนทันที
ด้าน ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า จากการตรวจผลิตภัณฑ์ผิวขาวที่นักเรียนหญิงกล่าวอ้างพบว่า เป็นอาหารเสริม ผลิตที่โรงงานใน อ.ดำเนิน สะดวก จ.ราชบุรี มีการขออนุญาตการผลิตกับ อย. อย่างถูกต้อง เบื้องต้นผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ไม่มีสรรพคุณช่วยทำให้ผิวขาว และไม่มีส่วนประกอบของสารเมทแอมเฟตามีน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ส่งตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ จ.นครราชสีมา จะทราบผลใน 1 สัปดาห์ สำหรับสารเมทแอมเฟตามีนจะอยู่ในร่างกายระยะเวลาหนึ่ง สามารถถูกขับจากร่างกายทางปัสสาวะ ทั้งนี้ อย.ขอเตือนนักเรียน วัยรุ่น และประชาชนทั่วไปว่า ไม่ควรซื้อยา ผลิตภัณฑ์อาหาร เสริมทางออนไลน์มาทานเอง