เอ็นดู "น้องเจ้านาย" หนุ่มน้อยวัย 12 ปีใจกล้า ขอพ่อฝึกเป็นสัปเหร่อ ช่วยทำพิธีให้ศพไร้ญาติ เผยมีพ่อเป็นไอดอล ด้านชาวบ้านชื่นชมในความสามารถ

วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดชากกอไผ่ ในพื้นที่ ม.1 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งมีการจัดงานฌาปนกิจให้กับศพไร้ญาติ โดยชาวบ้านในพื้นที่ต่างร่วมด้วยช่วยกันเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ นำศพไร้ญาติมาทำพิธีกรรมตามหลักศาสนาในครั้งนี้

ทั้งนี้ได้พบกับ นายอรัญ รอดพ้น อายุ 41 ปี สัปเหร่อหลักในพิธี และ ด.ช.วุฒิภัทร์ รอดพ้น อายุ 12 ปี บุตรชาย ซึ่งทั้งสองคนกำลังเตรียมการขั้นตอนต่างๆ ของพิธีกรรมฌาปนกิจศพไร้ญาติ ซึ่งเป็นภาพที่แปลกตาของชาวบ้านที่พบเห็น เนื่องจากมีเด็กหนุ่มเป็นคนจัดการนำขั้นตอนพิธีก่อนเผาศพให้ถูกต้องตามประเพณีนิยมท้องถิ่น โดยที่มีนายอรัญ คอยช่วยและให้คำแนะนำในส่วนสำคัญของพิธีกรรม

นายอรัญ รอดพ้น อายุ 41 ปี เล่าว่า ตนเรียนเองได้เรียนรัฐศาสตร์และต่อนิติศาสตร์ จบมาก็ทำงานในธนาคารมา 21 ปี บางครั้งมีเวลาว่างก็อยากจะช่วยเหลือสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนมาเป็นสัปเหร่อ คือในพื้นที่หมู่บ้านที่ตนอยู่ ปัจจุบันสัปเหร่อได้เสียชีวิตหมดแล้วและไม่มีใครสืบทอด

...

ช่วงที่มีศพจำเป็นจะต้องใช้สัปเหร่อจากตำบลอื่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้ตนมาเรียนวิชาที่วัดชากกอไผ่ เพื่อกลับไปเป็นสัปเหร่อในเขตพื้นที่ ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่ตัวเองอาศัยอยู่ ซึ่งปัจจุบันก็เป็นสัปเหร่อมา 3 ปีแล้ว ช่วงที่มาเรียนวิชาจนได้ครอบครูและเป็นสัปเหร่อเต็มตัว ก็พาลูกชายมาด้วย จนเกิดความชอบสนใจในการเป็นสัปเหร่อ แต่ตนก็ยังไม่อยากให้ทำ อยากให้สนใจเรื่องการเรียนไปก่อน และอยากจะให้บวชก่อน

ต่อมามีสัปเหร่อด้วยกันทักว่า ลูกชายตนได้มาอยู่ในจุดนี้ น่าจะต้องมีวิชาความรู้อะไรไว้ป้องกันตัวบ้าง ตนจึงเริ่มสอนขั้นตอนต่างๆ ของพิธี รวมไปถึงคาถาบทสวดต่างๆ ให้ ปัจจุบันก็เรียนรู้มา 1 ปีกว่าแล้ว ช่วงสอนก็ยังต้องประกบไปด้วย แต่ก็จะมีบางขั้นตอนตนก็ให้ทำเองบ้างแล้ว

ด.ช.วุฒิภัทร์ รอดพ้น อายุ 12 ปี หรือ น้องเจ้านาย เล่าว่า ตนมีพ่อเป็นไอดอล โตมาอยากเป็นผู้พิพากษา และเป็นสัปเหร่อเหมือนพ่อ เวลาเห็นพ่อทำแล้วสงสาร กลัวพ่อเหนื่อย เพราะบางทีมี 3-4 ศพพ่อก็ทำไม่ไหว จึงอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง อยากช่วยเหลือศพไร้ญาติและคนที่เขาไม่มีเงินด้วย พอทำแล้วก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยคนอื่น และอยากลองดูว่าเราจะทำได้ไหม

ในช่วงแรกเข้ามาช่วยพ่อ หยิบของเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังมีความกลัวและเกร็งอยู่บ้าง พ่อจึงบอกว่า "ถ้าเรากลัว แล้วคนจะอยู่อย่างไร" "แล้วใครจะทำ ถ้าไม่มีเรา" จึงมาลองดู และสัมผัส ความกลัวก็ค่อยๆ หายไป พ่อจึงเริ่มสอนโดยการให้ท่องจำคาถาก่อน 10 กว่าบท ตนก็จำได้หมดทุกคาถา วันนี้พ่อจึงให้ลองปฏิบัติ ซึ่งก็เป็นศพแรกของตน โดยที่มีพ่อคอยประกบด้วย เวลาเราท่องผิด พ่อก็จะคอยบอกว่าท่องให้ถูก

ชาวบ้านที่มาร่วมงานต่างเคยเห็นเด็กคนนี้มากับพ่อบ่อยๆ ช่วยพ่อหยิบของเล็กๆ น้อยๆ ครั้งนี้มาเป็นคนนำพิธีบางส่วนเองเลย แต่ก็ยังมีพ่อคอยประกบด้วย ต่างก็ทึ่งและชื่นชมน้องเจ้านายกันทุกคน.