“จเรตำรวจ” ตรวจสอบข้อเท็จจริงความผิดด้านวินัยตำรวจกลุ่มแรก 4 นาย จากทั้งหมด 16 นาย เสร็จสิ้นแล้วมีความเห็นฟัน 4 นายตำรวจตั้งแต่รอง สว.ถึง ผบก.มีมูลความผิดด้านวินัย ตามที่ “อัจฉริยะ” หอบหลักฐานภาพถ่าย คลิป และข้อสงสัยเรื่องเส้นทางการเงิน เข้าร้องเรียนว่า ตำรวจตั้งแต่อดีต ผบ.ตร.ไปจนถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ยังไม่เกษียณเกี่ยวพันเว็บพนันออนไลน์สารพัดสังกัด ทั้งจีนเทา สารวัตรซัว และตระกูล 4 บ. ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงนายตำรวจที่เหลือยังไม่เสร็จสิ้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ
ที่สำนักงานจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 เม.ย. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. มีหนังสือแจ้งผลตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ อ้างถึงหนังสือชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ด่วนที่สุดที่ 17/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค.2566 ตามหนังสือที่อ้างถึง กรณีร้องเรียนกล่าวหาข้าราชการตำรวจกระทำผิด วินัยประพฤติตนไม่เหมาะสม และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ กรณีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งที่ 39/2566 ลงวันที่ 18 ม.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
บัดนี้กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 0013.151/1637 ลงวันที่ 21 เม.ย.2565 เรื่องแนวทางและขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเรื่องร้องเรียนข้าราชการตำรวจ พนักงานราชการ และลูกจ้างในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสร็จสิ้นแล้ว และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีมติเอกฉันท์ เห็นว่าข้าราชการตำรวจ ดังมีรายชื่อต่อไปนี้ ประกอบด้วย 1.พล.ต.ต.ประกาศ พงษ์พานิช 2.พ.ต.อ.กวินศักดิ์ พีรยศธนนนท์ 3.ว่าที่ พ.ต.ต.ปฏิณวิช รอดบางยาง และ 4.ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช พงค์ภิภัทราภาคิน มีมูลความผิดทางวินัย เห็นควรเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการตำรวจดังกล่าว เพื่อให้เป็นตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ต่อไป
...
สำหรับตำแหน่งปัจจุบันของนายตำรวจทั้ง 4 นาย 1.พล.ต.ต.ประกาศ พงษ์พานิช ขอเออร์ลี่รีไทร์ไปแล้ว ตำแหน่งล่าสุด ผู้บังคับการ กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบก.อก.บช.ภ.7) 2.พ.ต.อ.กวินศักดิ์ พีรยศธนนนท์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 (รอง ผบก.ตชด.ภ.4) 3.ว่าที่ พ.ต.ต.ปฏิณวิช รอดบางยาง สารวัตร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรสำนักงานกำลังพล และ 4.ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช พงค์ภิภัทราภาคิน รองสารวัตร ฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (รอง สว.ฝอ.ภ.จว.ชลบุรี)
พล.ต.ต.สันติ์นที ประยูรรัตน์ โฆษกสำนักงานจเรตำรวจ กล่าวว่า ตามที่จเรตำรวจแห่งชาติแจ้งผลตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเรื่องร้องเรียนกล่าวหาข้าราชการตำรวจว่ากระทำผิดวินัยประพฤติตนไม่เหมาะสม และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ต้องขอชี้แจงว่า อำนาจหน้าที่ของจเรตำรวจอยู่ในกรอบด้านวินัยตำรวจ หากพบว่ามีมูลผิดวินัยจะดำเนินการเสนอไปตามขั้นตอนเพื่อดำเนินการกันต่อไป สำหรับกรณีการร้องเรียนเรื่องบ่อนพนันออนไลน์ เนื่องจากมีผู้ถูกร้องเรียนหลายราย หลายข้อกล่าวหา จเรตำรวจจึงแบ่งหน้าที่กันตรวจสอบออกเป็นหลายกลุ่ม สำหรับตำรวจ 4 นายนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ตรวจสอบเสร็จสิ้นและเข้าข่ายผิดวินัย จากนี้ยังต้องรอผลการตรวจสอบกลุ่มอื่นๆว่าจะมีใครเข้าข่ายความผิดอีกหรือไม่
กรณีลงทัณฑ์ 4 นายตำรวจครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำแผ่นป้ายไวนิลรายชื่อข้าราชการตำรวจที่พัวพันเว็บพนันออนไลน์ ตั้งแต่ระดับอดีต ผบ.ตร.จนถึง ร.ต.ท. ลอตแรก 16 รายชื่อ จากทั้งหมดที่อ้างว่ามีมากกว่า 100 รายชื่อมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ในจำนวนนี้มีหัวหน้าขบวนการใหญ่สุดคือ พลตำรวจเอก ส. อดีต ผบ.ตร.และลูกน้อง รวมถึงกลุ่มตำรวจไซเบอร์รวมอยู่ด้วย กล่าวหาด้วยว่าเครือข่ายเว็บพนันในประเทศไทยกว่าร้อยละ 70 มี พล.ต.อ. ส.เป็นผู้ดูแล จากนั้นมีลูกน้องระดับ พล.ต.ท.หลายคนคอยรับช่วงดูแลต่อ ทั้งดูแลกลุ่มทุนจีนสีเทารวมถึงสารวัตรซัว ตระกูล 4 บ. ทำให้ตำรวจสอบสวนกลางไม่สามารถดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เพราะอาจส่งผลกระทบกับนายตำรวจอีก 200-300 นาย
หากจับกุมสารวัตรซัวจะมีหลักฐานเอกสารเส้นทางการเงิน และเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลของสโมสรฟุตบอลในพื้นที่ภาคเหนือ ที่อ้างว่าใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน รวมถึงภาพถ่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องในธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงไปยังเครือข่ายต่างๆ พร้อมยืนยันว่า ในสโมสรฟุตบอลมีตำรวจหลายนายและเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เป็นคณะกรรมการบริษัท มีเส้นทางการโอนเงินไปยังเครือข่ายที่เป็นนายตำรวจตามรายชื่อทั้ง 16 นายด้วย เส้นทางการเงินเหล่านี้ไปถึงนายตำรวจระดับสูงคนละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท นำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความแล้วที่ บช.สอท. รวม 17 เว็บไซต์ เงินหมุนเวียนกว่าแสนล้านบาท ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนคณะกรรมการว่า มีความเห็นว่ามูลความผิดทางวินัยดังกล่าว