‘เทศกาลสงกรานต์’ กำลังจะกลับมาอีกครั้งหลังจากที่โควิด-19 คลี่คลายไป แต่ความสนุกสนานกับความปลอดภัย จำเป็นต้องมาคู่กัน หลายฝ่ายจึงจับมือกันอีกครั้ง เพื่อสร้างสรรค์งานเทศกาลสงกรานต์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนขึ้น โดยเฉพาะงานสงกรานต์ปลอดแอลกอฮอล์ ที่หลายหน่วยงานดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนพบว่า ‘เทศกาลสงกรานต์’ มีนัยสำคัญต่อสถิติความรุนแรงและอุบัติเหตุที่ลดลง ความสำเร็จเหล่านี้มี สสส. และเครือข่ายงดเหล้าอยู่เบื้องหลัง เป็นฟันเฟืองสำคัญ ที่ร่วมกันสร้างสังคมให้ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายในช่วงแรก แต่ความน่าสนใจอยู่ที่การร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง จากทุกภาคีเครือข่ายที่ค่อยๆ ทำให้ทัศนคติของสังคมเริ่มเปลี่ยนไปด้วยว่า ความสนุกสนานในเทศกาลสงกรานต์เกิดขึ้นได้ แม้ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการฉลองกันด้วยความสนุกสนาน

ผลักดัน สงกรานต์ปลอดภัย ปลอดเหล้า สร้างสังคมเป็นสุข

สงกรานต์หลายปีที่ผ่านมา สสส. มีส่วนสำคัญผลักดันให้เกิดการนำร่อง และขยายพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าขึ้นจำนวนมากทั่วประเทศ โดยร่วมกำหนดนโยบายและมาตรการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่รัดกุมและหนักแน่น รศ.ดร.แล ดิลกวิทยรัตน์ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. เปิดเผยว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยที่มีความสอดคล้องต่อปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรง และอุบัติเหตุ อย่างมีนัยสำคัญ แม้ช่วงปีแรกๆ ของการจัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าจะไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องอาศัยความเข้าใจและความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จนถึงภาคประชาชน แต่ความต่อเนื่องของการสร้างสรรค์พื้นที่สนุกสนาน ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงสงกรานต์ เริ่มพบการเปลี่ยนแปลงเรื่องทัศนคติของผู้คนได้มากขึ้นจากการที่มีสถิติอาชญากรรม ความรุนแรง และอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลลดลง ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการทำเรื่องนี้ ขณะเดียวกันการจัดงานโดยปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งการเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล เพราะมีทั้งคนที่กลับบ้าน และเดินทางไปสถานที่ต่างๆ กับครอบครัว

สำนักเครือข่ายองค์กรงดเหล้า หรือ สคล. เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจหนึ่งว่า จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่องกิจกรรมสงกรานต์ปลอดเหล้า ปี 2565 พบว่า 84% ชอบเที่ยวสงกรานต์ปลอดเหล้า และเกือบ 100% เชื่อว่าการที่วันสงกรานต์ที่มีมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับได้ 89% ลดการทะเลาะวิวาทได้ 88% เพราะทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัย ที่จะออกมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากขึ้น คุณวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สคล. ให้เหตุผลว่า นี่เป็นส่วนที่ทำให้ สคล. ตระหนักว่าแนวทางที่ดำเนินมาเป็นผลดีต่อผู้คนส่วนใหญ่ ปีนี้จึงได้เสนอ 7 มาตรการเพื่อสร้างความร่วมมือเพื่อให้เกิดความปลอดภัยขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่

1. ร่วมกันกำหนดไม่ให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นในพื้นที่สาธารณะ
2. ร่วมกันสนับสนุนการสร้างพื้นที่สงกรานต์ปลอดเหล้าปลอดภัย เล่นน้ำปลอดภัย
3. ร่วมใช้มาตรการไม่ให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในพื้นที่งาน มีนโยบายท้องถิ่น กติกาชุมชนขึ้น
4. ร่วมกันควบคุมและเฝ้าระวังไม่ให้ธุรกิจแอลกอฮอล์ฉวยโอกาสจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแล้วทิ้งภาระและผลกระทบจากอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท และความสูญเสีย
5. ร่วมกันส่งเสริมกิจกรรมตามประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น
6. ร่วมกันดูแลเด็กและเยาวชนที่เล่นน้ำสงกรานต์เวลากลางคืนให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ อาชญากรรม และการคุกคามทางเพศ
7. ร่วมกันสื่อสารให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและสังคม เข้าใจและตระหนักถึงความปลอดภัยในเหตุผลที่ต้องร่วมกันควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ

เดินหน้า ‘พื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย’ เกิดขึ้นได้จริง

ก่อนที่เทศกาลสงกรานต์จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ สสส. และภาคีเครือข่าย จึงได้ผนึกกำลังกันสร้างการตระหนักรู้เรื่องสงกรานต์ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์ขึ้นอีกครั้ง ผ่านงาน “สงกรานต์ 4 รีเทิร์น คุณค่า ความสุข ความสนุก ความปลอดภัย กำลังจะกลับมา” เพื่อส่งแรงกระเพื่อมไปยังสังคม โดยภายในงานมีการเสวนาร่วมกันของหลายหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จ จากการจัดงานสงกรานต์ปลอดแอลกอฮอล์มาอย่างต่อด้วย

หนึ่งในบทเรียนความสำเร็จ จากการจัดเทศกาลสงกรานต์ปราศจากแอลกอฮอล์ที่น่าสนใจ คือการจัดงานของเทศบาลนครขอนแก่น ที่นับได้ว่าเป็นพื้นที่แรกๆ ในประเทศที่จัดงานในลักษณะนี้จนประสบความสำเร็จในวงกว้าง โดยนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น “ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์” เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการจัดงานในลักษณะนี้ว่า เกิดจากการที่ไม่สามารถนิ่งนอนใจจากตัวเลขความสูญเสีย และความรุนแรงที่เกิดขึ้น จากการจัดงานในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป แต่ในช่วงแรกของการจัดเทศกาลสงกรานต์ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องอาศัยความเข้าใจ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จนกระทั่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากตัวเลขอุบัติเหตุและการทะเลาะวิวาทในแต่ละปีที่ลดลง ก็ทำให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงมากขึ้น จนวันนี้งานเทศกาลสงกรานต์ร่วมสมัยที่ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น กลายเป็นงานขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาร่วมงานสักครั้ง โดยมีกิจกรรมไฮไลต์อย่างคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทุกปี ซึ่งความสำเร็จหนึ่งจากการจัดงานลักษณะนี้ได้ เกิดจากความร่วมมือของห้างร้านต่างๆ ในพื้นที่ถนนข้าวเหนียวที่พร้อมใจกันงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดระยะเวลาการจัดงานด้วยนั่นเอง

นอกจากการจัดงานสงกรานต์ร่วมสมัย ที่ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น โดยเทศบาลนครขอนแก่นแล้ว ก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ร่วมกันจัดงานสงกรานต์ปลอดภัย ปลอดแอลกอฮอล์ ขึ้นในปีนี้ด้วย อาทิ สงกรานต์โนแอล LimeLightAvenu จังหวัดภูเก็ต โดยศูนย์การค้าไลม์ไลท์อเวนิว จังหวัดภูเก็ต, สงกรานต์กลางคืน ถนนข้าวทิพย์ จังหวัดจันทบุรี โดยเทศบาลเมืองจันทบุรี, สงกรานต์ถนนข้าวสามวัฒนธรรม มอญสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยเทศกาลตำบลวังกะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และสงกรานต์บางกอกใหญ่ไร้แอลกอฮอล์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือที่หวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในสังคม นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในอนาคตเช่นกัน