พิษแฉชูวิทย์ “รองโจ๊ก” รับสนิทสนมทนายตั้ม เพราะทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูล คดีทุจริตระบบไบโอเมตริกของ สตม. รวมทั้งสนิทกับจอมแฉ ยันไม่เคยส่งลูกน้องไปอำนวยความสะดวกให้ทนายดัง เป็นเรื่องไร้สาระ เผยไม่โกรธ แม้ว่าจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท ด้าน ผกก.ตม.แปดริ้ว ระบุเชื่อว่าเป็น ผกก.คนที่ชูวิทย์พูดถึง รับทนายตั้มเคยมาคุยเรื่องสลากออนไลน์ ได้เตือนไปว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ขณะที่ นายพล ป. และนายศักดิ์ พระราม 3 เข้าให้ข้อมูลกองปราบฯคดีเงิน 6 ล้านบาทแล้ว
ภายหลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำเงิน 6 ล้านบาทที่ได้มาจากนายพล ป. และนายศักดิ์ พระราม 3 เครือข่าย พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” อดีตตำรวจโยธาธิการ มาให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ออกมาแฉ จนถูกนายชูวิทย์แฉกลับ ล่าสุดโพสต์มีตำรวจคอยถือกระเป๋าเวลาทนายดังเดินทาง และเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดเมื่อบ่ายวันที่ 4 เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉว่ามีทนายคนดังสนิทสนมส่วนตัวและโยงเครือข่ายพนันออนไลน์ ว่า ยอมรับมีความสนิท เพราะทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูลคดีทุจริตระบบไบโอเมตริกของ บช.สตม. และสนิทสนมนายชูวิทย์ ไม่เคยส่งลูกน้องไปอำนวยความสะดวกเวลาเดินทาง ทนายตั้มเป็นรุ่นน้องไม่จำเป็นต้องเอาคนไปบริการ เอาตำรวจไปถือกระเป๋า เป็นเรื่องไร้สาระ ส่วนที่นายชูวิทย์พูดว่าทนายตั้มเกี่ยวข้องเรื่องเว็บพนันไม่รู้เรื่อง การตรวจสอบเว็บพนัน รอง ผบ.ตร. ถูกแบ่งมอบงาน มี ผบ.ตร.เป็นผู้ควบคุม แต่ที่มาพูดเรื่องพาดพิงลูกน้อง ผกก.ต๋อง มีคนเดียว อยู่กับตนไม่ได้เกี่ยวข้อง และรู้จักทนายตั้ม แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องพนันออนไลน์ ไม่ได้โกรธนายชูวิทย์ซึ่งรู้จักกัน แม้การให้สัมภาษณ์จะถูกมองว่าอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท
...
ขณะที่ พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ ผกก.ตม.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เชื่อว่าเป็น ผกก. ต. ที่นายชูวิทย์พูดถึง และทำงานกับ รอง ผบ.ตร.รู้จักทนายตั้ม คือตนยอมรับว่าเคยเจอกัน พูดคุยกันเรื่องข้อกฎหมาย ที่ผ่านมาไม่เคยคุยกันหรือปรึกษาเรื่องเว็บพนันออนไลน์ แต่ทนายตั้มเคยมาปรึกษาเรื่องฉลากออนไลน์ ได้เตือนไปว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ที่ผ่านมามีหลายรายที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว นอกนั้นเป็นเพียงการคุยปรึกษาข้อกฎหมายทั่วไป ไม่มีประเด็นอื่น
วันเดียวกัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเงิน 6 ล้านบาทของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พาดพิงว่ารับมาจากเครือข่ายสารวัตรซัว ว่า ในวันนี้ นายพล ป. และนายศักดิ์ ได้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูล ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะสอบปากคำ ส่วนกรณีที่ทั้งสองถูกพาดพิงว่าเป็นผู้นำเงินมาให้นายชูวิทย์นั้น เบื้องต้นเป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างของบุคคลที่ออกมาให้ข้อมูลเท่านั้น ส่วนนายพล ป. และนายศักดิ์ที่เข้ามาให้ข้อมูลในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์กล่าวอ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นของสารวัตรซัว จากคำให้การกับพนักงานสอบสวนของนายชูวิทย์ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. พบว่าไม่ตรงกับที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในคำให้การระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าวได้มาจากคนวงการธุรกิจอาบอบนวดมามอบให้ ก่อนที่นายชูวิทย์จะนำเงินดังกล่าวมาทำบุญ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม