ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวในการเป็นประธานการประชุมอธิการบดีทั่วประเทศ ประจำปี 2566 ว่า มหาวิทยาลัยต้องเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในยุคดิสรัปชัน กว่า 3 ปีที่ผ่านมาหลังการหลอมรวมอุดมศึกษากับวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน อว.มีผลงานทั้งการปฏิรูป ปลดล็อกและพัฒนาโครงการใหม่ๆมากมาย จนวันนี้ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของกลุ่มประเทศอาเซียน ล่าสุด อว.กำลังร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในการร่วมสำรวจอวกาศผ่านยานอวกาศฉางเอ๋อ 7 ส่งผลให้ใช้งบประมาณของไทยน้อย แต่ได้ผลงานระดับโลก ส่วนด้านอุดมศึกษาก็มีการพัฒนาและปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง มีการแบ่งประเภทมหาวิทยาลัย เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นเลิศในแบบของตนเอง ปลดล็อกเรื่องเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ หลังจากนี้เป้าหมายใหม่ต้องสร้างให้การอุดมศึกษาไทยเป็นแบบอย่างและเป็นต้นแบบให้แก่นานาชาติให้ได้ ต้องปรับเอาความรู้จุดเด่นและความพิเศษของไทยไปเผยแพร่ให้ต่างชาติรับรู้ ต้องส่งเสริมให้คนต่างประเทศมาเรียนในไทยมากขึ้น นอกจากนั้น อาจขยายการอุดมศึกษาให้เป็นการศึกษาตลอดชีวิต ให้คนทำงาน ผู้สูงอายุ มาเรียนมหาวิทยาลัยได้ แนวทางดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาการไม่มีนักศึกษาในมหาวิทยาลัยไทยในอนาคต ในขณะที่หน่วยงานให้ทุนก็ต้องช่วยสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อสร้างโอกาสให้การอุดมศึกษาของไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. กล่าวว่า ชาติมหาอำนาจต่างสนใจและตื่นเต้นกับการปฏิรูปอุดมศึกษาของไทยที่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ต่อจากนี้ทุกมหาวิทยาลัยต้องร่วมมือกันทำให้มหาวิทยาลัยไทยเป็นต้นแบบขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เป็นแบบอย่างของมหาวิทยาลัยโลก.