เลขาฯ ป.ป.ส.เผยระหว่างส่งตัวแทนเสวนาเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายยาเสพติด 3 ประเทศ 5 หน่วยงานที่ฮ่องกง เจ้าภาพประสานเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหา 2 คนพร้อมผงขาว 48 กก.ซุกกระเป๋าผ้าปักลายชาวเขา ประสานศุลกากรเช็กต้นทาง พบสำแดงเป็นผัก-ผลไม้ส่งเข้าออกประจำ อีกคดี ชุดปฏิบัติการ AITF ยึดเคตามีน 1.7 กก. ซุกอยู่ในกระเป๋าผ้าลายชาวเขาเตรียมส่งไต้หวัน เร่งขยายผลหาต้นตอเชื่อเชื่อมโยงกัน
เร่งขยายผลจับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ก.พ. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เผยว่า เมื่อวันที่ 13-16 ก.พ.66 มอบหมายนายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด พร้อมคณะ เป็นตัวแทนสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมการเสวนาสามประเทศห้าหน่วยงานและการประชุมด้านบังคับใช้กฎหมายยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ศุลกากรระดับสูงประจำภูมิภาคครั้งที่ 6 ประกอบด้วย ศุลกากรไต้หวัน ศุลกากรมาเก๊า สำนักงานพิทักษ์เขตแดนแห่งออสเตรเลีย สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย ศุลกากรนิวซีแลนด์ ศุลกากรไทยประจำฮ่องกง และศุลกากรไทยประจำกวางโจว ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวด้านการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ
นายวิชัยกล่าวต่อว่า ระหว่างประชุมเสวนา ได้รับการประสานจากศุลกากรฮ่องกงว่า ในวันที่ 14 ก.พ. ศุลกากรฮ่องกงแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมเฮโรอีน 48 กก. ซุกซ่อนในกระเป๋าผ้าปักลายชาวเขา 124 ใบ บรรจุในกล่องกระดาษสีน้ำตาล เหตุเกิดในพื้นที่เมืองฮ่องกง เจ้าหน้าที่ศุลกากรฮ่องกงขยายผลพบข้อมูลระบุจัดส่งพัสดุมาจากประเทศไทย (สำนักงาน ป.ป.ส.) ประสานศุลกากรประเทศไทย ตรวจสอบเลขพัสดุดังกล่าว พบว่ามีการสำแดงสินค้าเป็นผัก ผลไม้ นำเข้า-ส่งออก ฮ่องกงเป็นประจำ อีกคดี วันที่ 15 ก.พ.66 ชุดปฏิบัติการ AITF ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศ พร้อมคีตามีน 1.7 กก. ซุกซ่อนในกระเป๋าผ้าปักลายชาวเขา เตรียมจัดส่งปลายทางไต้หวัน เหตุเกิดที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยไม่แจ้งข้อมูลผู้รับปลายทาง
...
เลขา ป.ป.ส.กล่าวต่อว่า ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลกับศุลกากรฮ่องกง และกรมสอบสวน กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน เกี่ยวกับการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดทั้ง 2 คดี เนื่องจากพบว่าลักษณะการซุกซ่อนยาเสพติดในกระเป๋าผ้าปักลายชาวเขาเหมือนกัน ทั้งนี้จะเร่งสืบสวน ปราบปราม รวมถึงขยายผลหาบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้ายาเสพติดระดับข้ามชาติทั้งเครือข่ายให้หมดสิ้น