เรื่องราวสุดซึ้งประทับใจ ภรรยาวัย 49 ปี ชาวอ.ปากท่อ ราชบุรี นำสามีวัย 61 ป่วยเดินไม่ได้ นั่งรถพ่วงไปไหนด้วยกันทุกที่ เผยทิ้งไว้ที่บ้านไม่ได้เพราะไม่มีใครดูแล และสาบานไว้จะไม่ทิ้งกัน จะดูแลกันจนตายไปข้างหนึ่ง

วันที่ 9 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 49/4 หมู่ 6 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อพบกับครอบครัวสู้ชีวิต ที่ไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา เป็นคู่แท้ที่ดูแลกันและกันยามเจ็บป่วย ภรรยาพาสามีที่เดินไม่ได้ขึ้นรถเข็นไปด้วยกันทุกที่ ได้พบกับ นายสมชัย หรือลุงดำ กิมชุนมณี อายุ 61 ปี อดีตตำรวจชุมชน และอดีตอาสาสมัครกู้ภัย และนางศิริรัตน์ หรือพี่รัตน์ พ่วงสมบูรณ์ อายุ 49 ปี ภรรยาอดีตจิตอาสากู้ภัย และน้องแตงโม อายุ 10 ปี ลูกสาว

ลุงดำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า จ่าดำ นอนป่วยอยู่บนเตียง ไม่สามารถนั่งหรือเดินได้ ต้องมีพี่รัตน์ และน้องแตงโม ค่อยช่วงพยุงและดูแลตลอด ที่บริเวณหน้าบ้านยังพบรถเข็นสองล้อ ที่บรรจุส้มโอที่พี่รัตน์ไปซื้อมาจากจ.สมุทรสงคราม เมื่อช่วงบ่ายใส่ไว้ในรถเข็นเต็มคันเตรียมเอาไว้ขายในตลาดนัดวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อหาเงินดูแลลุงดำและใช้จ่ายภายในครอบครัว

...

พี่รัตน์ เปิดใจว่า ลุงดำ สามี ป่วยเพราะประสบอุบัติเหตุทางถนน จนต้องผ่าตัดลำไส้ทิ้ง พออยู่ไปเกิดลำไส้อุดตัน ทำให้ต้องไปผ่าตัดอีกสองครั้ง ล่าสุดผ่าตัดลำไส้ทิ้งไปกว่า 1 เมตร หลังออกมาจากรพ.สามีต้องนอนให้น้ำเกลืออยู่บ่อยๆ และเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงจนทำให้เดินไม่ได้ เธอจึงต้องเป็นเสาหลักของบ้านหาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งที่บ้านอยู่กันเพียงแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก แต่ต้องดูแลสามีอยู่ตลอด ถ้าจำเป็นต้องไปไหนก็จะพาสามีไปด้วยกันตลอด แม้แต่ไปซื้อส้มโอที่จ.สมุทรสงคราม เธอก็นำสามีใส่รถเข็นสองล้อ และพาไปซื้อส้มโอด้วย ซึ่งต้องเดินทางไปกลับถึง 120 กม. ส่วนเวลาไปขายของที่ตลาดนัดก็จะพาไปด้วยเช่นกัน เพราะอยู่บ้านไม่มีใครดูแล หากไม่พาไปด้วยจะต้องให้ลูกสาวลาหยุดเรียน เพื่อมาอยู่คอยดูแลแทน โดยลูกสาวเรียนอยู่ ป.4 วันหยุดก็จะพาไปขายของด้วย

พี่รัตน์ เผยอีกว่า หลังสามีป่วย ต้องหาเงินคนเดียวมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวและดูแลสามี ซึ่งรายได้จากการขายส้มโอก็ไม่ค่อยจะพอ บางทีต้องออกไปรับจ้างทั่วไป ดิ้นรนหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวให้ได้ ซึ่งยังโชคดีที่เพื่อนบ้านคนรู้จัก ยังให้หยิบยืมและช่วยเหลือเธอและสามี เนื่องจากทั้งสองเคยเป็นอาสาสมัครกู้ภัย ช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด ยอมรับว่าตอนนี้ถือว่าลำบากมาก แต่สิ่งเดียวที่เธอขอยืนยันว่า ไม่คิดที่จะทิ้งสามีไปไหน จะดูแลจนตายจากกัน

"ตอนนี้ต้องการแพมเพิร์สเป็นอย่างมาก เพราะจำเป็นต้องใช้และมีราคาแพง ซึ่งสาเหตุที่เอาสามีไปไหนมาไหนด้วยเพราะไม่มีคนดูแลสามีจริงๆ ไม่ได้มีความคิดจะเอาสามีมาขอทานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตอนนี้ตัวเองก็เป็นทั้งโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันอุดตันแต่จะล้มป่วยไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าเป็นอะไรขึ้นมาครอบครัวต้องแย่แน่”

ขณะที่ ลุงดำ สามี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากทางอบต. ปภ. และผู้ใหญ่บ้านบ้างแล้ว รู้สึกดีใจและขอบคุณ แต่ที่ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากคือ ภรรยา ที่ไม่ทิ้งในวันที่ตนล้มป่วยและลำบาก ซึ่งเราได้สาบานกันไว้แล้วว่า "จะไม่ทอดทิ้งกัน จะอยู่ดูแลกันจนตายไปข้างหนึ่ง" จากที่แต่ก่อนเคยเป็นจิตอาสา ชอบช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุบัติเหตุต่างๆ มาตอนนี้ตนล้มป่วย พอเพื่อนบ้านทราบข่าว ก็จะคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้บ้างแต่ไม่มาก

ลุงดำ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณทุกคนที่สอบถามสาเหตุการเจ็บป่วยด้วยความห่วงใย ตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือแค่แพมเพิร์สผู้ใหญ่ โจ๊ก และอาหารเหลวที่ต้องใช้ประจำทุกวัน โดยแพทย์ไม่อยากให้กินอาหารที่แข็ง เพราะกลัวลำไส้อุดตันจนต้องผ่าตัดอีก อยากให้กินแต่อาหารเหลวไปก่อน

...

สำหรับใครที่อยากช่วยเหลือ ลุงดำและภรรยาที่ดูแลยามเจ็บป่วย สามารถช่วยเหลือด้วยการโอนเงินผ่าน ธนาคารออมสิน สาขาปากท่อ หมายเลขบัญชี 020082493113 ชื่อบัญชี นายสมชัย กิมชุนมณี หรือโทร.สอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทร. 085-295-2734 ลุงดำ