"ปศุสัตว์" บุกอายัดเครื่องใน-เนื้อสัตว์แช่ถังฟอร์มาลิน หนัก 25,000 กก. มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท พบหลักฐานส่งขายร้านหมูกระทะ ในพื้นที่ชลบุรี และใกล้เคียงปริมาณ กว่า 66 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากกรมปศุสัตว์ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการลักลอบผลิตเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตหวั่นแพร่โรคระบาดสัตว์ร้ายแรง กรมปศุสัตว์ จึงส่งเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี บุกตรวจสอบแหล่งลักลอบผลิตวัตถุดิบชิ้นส่วนเนื้อสัตว์แช่ในถังน้ำผสมฟอร์มาลินรายใหญ่ ในพื้นที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่งขายร้านหมูกระทะและร้านอาหารอีสาน กว่า 66 แห่ง ในพื้นที่ใกล้เคียง ปริมาณน้ำหนักรวม 25,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
ผลการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าสถานประกอบการดังกล่าว ไม่มีการขออนุญาตผลิตอาหาร ไม่มีเอกสารใบอนุญาตค้าซากสัตว์ (ร.10) ไม่มีเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์ (ร.3) และไม่มีเอกสารรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์(รน.) ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาด พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 นอกจากนี้ ยังไม่สามารถแสดงแหล่งที่มาของชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในสัตว์ได้ จึงไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และมีความเสี่ยงแพร่เชื้อโรคระบาดสัตว์ร้ายแรงเช่น แอฟริกาอหิวาต์ในสุกร และโรคปากและเท้าเปื่อย เป็นต้น
อีกทั้งยังพบการผลิตวัตถุดิบชิ้นส่วนเครื่องในโค ชิ้นส่วนเครื่องในสุกร มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ประกอบด้วย ฟอร์มาลิน โซดาไฟ และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
...
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดอายัดของกลางชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในสุกรและโคที่อยู่ในสถานประกอบการและในตู้แช่เย็นคอนเทนเนอร์ จำนวนกว่า 25,000 กิโลกรัม รวมทั้งของกลาง เป็นสารเคมีและแกนลอนบรรจุสารฟอร์มาลิน ขนาด 25 ลิตร จำนวนกว่า 50 แกลลอน ใบเสร็จกว่า 2,300ใบ ที่มีหลักฐานการขายให้กับลูกค้าร้านหมูกะทะ และร้านอาหารอีสาน จำนวนกว่า 66 ราย และในส่วนของชิ้นส่วนสไบนาง ที่ผลิตแปรรูปนั้นแช่อยู่ในถังน้ำผสมสารฟอร์มาลิน
นอกจากนี้ จะได้เก็บตัวอย่างเนื้อและเครื่องในสัตว์ นำส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเชื้อโรคปนเปื้อนที่เป็นอันตรายและตรวจหาสารเคมีตกค้าง (ฟอร์มาลิน) โดยได้ให้เจ้าของกิจการห้ามโยกย้ายถ่ายเทของกลางที่อายัดไว้ และให้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงภายใน 15 วัน หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทำลายด้วยการฝังหรือเผา และดำเนินคดีถึงที่สุด ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง.