• ลอยกระทง 8 พฤศจิกายน 2565 คืน 15 ค่ำ เดือน 12
  • เปิดสถิติปริมาณกระทงที่กรุงเทพมหานคร เก็บขนได้ ระหว่างปี 2551-2564 พบว่า คนใส่ใจวัสดุที่ใช้ในการทำกระทงมากขึ้น เพื่อไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม
  • เทียบข้อดี ข้อเสีย จากวัสดุต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการทำ "กระทง"

 

เวียนมาบรรจบอีกครั้ง กับเทศกาล "ลอยกระทง" ซึ่งปีนี้ ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 และเป็นช่วงที่ประเทศไทย ปลดล็อกจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายสถานที่ ออกมาจัดกิจกรรม "ลอยกระทง" อีกครั้ง

และนอกจากกิจกรรมลอยกระทงแล้ว หลายคนให้ความสำคัญกับ "กระทง" ที่จะนำมาลอยด้วย โดยเน้นไปที่วัสดุที่ย่อยสลายง่าย ลดการก่อขยะ ไม่สร้างมลพิษทางน้ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

ปริมาณกระทงจากวัสดุธรรมชาติ เริ่มเพิ่มขึ้น

กรมควบคุมมลพิษ เผยปริมาณกระทงที่กรุงเทพมหานครเก็บขนได้ ระหว่างปี 2551 - 2564 พบว่า ในปี 2557 มีปริมาณกระทงที่เก็บได้มากที่สุด 982,054 ใบ แบ่งเป็นกระทงใบตอง 885,995 ใบ (ร้อยละ 90) และกระทงที่ทำจากโฟม 96,069 ใบ (ร้อยละ 10)

...

ขณะที่ปี 2564 นั้น มีกระทงที่จัดเก็บได้รวม 403,235 ใบ เป็นกระทงใบตอง 338,954 ใบ (ร้อยละ 96.46) และกระทงที่ทำจากโฟม 14,281 ใบ (ร้อยละ 3.54)

แต่เมื่อย้อนกลับไปในปี 2554 กลับพบว่า มีปริมาณกระทงที่เก็บได้เพียง 322,779 ใบ แต่ในจำนวนนี้ เป็นกระทงใบตองเพียง 264,942 ใบ (ร้อยละ 82) แต่มีกระทงที่ทำจากโฟมถึง 57,837 ใบ (ร้อยละ 18) เลยทีเดียว 

ข้อดี-ข้อเสีย ของกระทงที่ทำจากวัสดุต่างๆ

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ เผยข้อดี และข้อเสียของกระทงจากวัสดุธรรมชาติและกระทงโฟม โดยแบ่งเป็นกระทงที่ทำจากวัสดุต่างๆ ดังนี้

กระทงใบตอง

ข้อดี : ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และลดการใช้วัสดุสังเคราะห์อื่นๆ ที่ทำให้เกิดการลดภาวะเรือนกระจก ลดภาวะจากโลกร้อน

ข้อเสีย : หาวัสดุในการทำยาก, ถ้ามีจำนวนมากไป ทำให้เกิดการเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็น เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและสภาพแวดล้อม และใช้เวลาในการย่อยสลาย 14 วัน

กระทงขนมปัง

ข้อดี : หาวัสดุได้ง่าย, ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และสามารถเป็นอาหารปลา เหมาะกับบ่อน้ำธรรมชาติ

ข้อเสีย : ใช้เวลาในการย่อยสลาย 3 วัน และอาจมีคราบไขมันลอยบนผิวน้ำ ทำให้น้ำเน่าเสียได้

 


กระทงดอกบัว

ข้อดี : ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ขนาดเล็ก และเกิดขยะน้อยชิ้น

ข้อเสีย : หาวัสดุในการทำยาก, ถ้ามีจำนวนมากไป ทำให้เกิดการเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็น เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและสภาพแวดล้อม และใช้เวลาในการย่อยสลาย 14 วัน

กระทงน้ำแข็ง

ข้อดี : สามารถทำได้ง่าย เมื่อลอยแล้วกลายเป็นน้ำ ไม่มีขยะตกค้าง

ข้อเสีย : ไม่สะดวกในการขนย้าย เนื่องจากน้ำแข็งละลายง่าย

กระทงกระดาษ

ข้อดี : หาซื้อวัสดุ อุปกรณ์ในการทำง่าย เก็บรักษาง่าย น้ำหนักเบา ลอยน้ำได้นาน

ข้อเสีย : ใช้เวลาในการย่อยสลายค่อนข้างนาน ประมาณ 2-5 เดือน

กระทงโฟม

ข้อดี : หาซื้อวัสดุ อุปกรณ์ในการทำง่าย เก็บรักษาง่าย น้ำหนักเบา ลอยน้ำได้นาน

ข้อเสีย : ใช้เวลาในการย่อยสลายตามธรรมชาตินานกว่า 500 ปี จึงต้องใช้วิธีต่างๆ ในการจัดการ ไม่ว่าจะเป็นฝังกลบ การนำไปรีไซเคิล และการเผา แต่ก็จัดการได้ยาก เพราะเมื่อนำไปฝังกลบจะเปลืองเนื้อที่ฝังกลบ หากนำไปเผาจะเกิดก๊าซเรือนกระจก

...

ลอยกระทงออนไลน์

ข้อดี : แค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็สามารถลอยได้ ประหยัด ไม่มีขยะตกค้าง

ข้อเสีย : หากไม่มีอินเทอร์เน็ต ก็ไม่สามารถลอยได้ บางคนมองว่า ไม่เป็นการสืบสานประเพณีอันดีงาม

แนะลอยกระทง โดยใช้หลัก 3R

นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษ ยังแนะแนวทางในการลอยกระทงโดยใช้หลักการ 3R (Reduce Reuse Recycle) เพื่อการสืบสานประเพณีในครั้งนี้ จะไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมทางอ้อม ดังนี้

1. ใช้น้อย (Reduce) โดยการลดขนาดของกระทง ใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่ง หรือลดการตกแต่งให้น้อยลง เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากร ลดปริมาณขยะ

2. ใช้ซ้ำ (Reuse) โดยลอยกระทงร่วมกันในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน เช่น 1 กระทง 1 ครอบครัว หรือ 1 แก๊ง 1 กระทง เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอย่างคุ้มค่า

3. แปรรูปใช้ใหม่ (Recycle) โดยนำกระทงที่เก็บรวบรวมไปใช้ประโยชน์ ถ้าเป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติสามารถนำไปใช้ในการหมักทำปุ๋ยหรือทำก๊าซชีวภาพ แต่ถ้าเป็นกระทงที่ทำจากโฟมก็รวบรวมทำความสะอาดเพื่อนำไปรีไซเคิลต่อไป

นอกจากนี้ ยังขอเชิญชวนร่วมลดปริมาณกระทง ลดการก่อให้เกิดขยะ ด้วยการลอยแบบ 1 คู่รัก 1 กระทง หรือ 1 ครอบครัว 1 กระทง หรือ 1 แก๊งหรือกลุ่ม 1 กระทง หรือการลอยกระทงออนไลน์ แทน.

...

เรียบเรียง : เจ๊ดา วิภาวดี
กราฟิก : Theerapong Chaiyatep