วัคซีนเข็มบูสเตอร์ยังจำเป็น พบโอมิครอน 4 สายย่อย คาดอนาคต "XBB" ยึดไทย

• "วัคซีนบูสเตอร์โดส" มีความจำเป็น การฉีดขอให้ห่างกันทุก 4 เดือน แต่เป็นไปตามความสมัครใจ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ควรฉีดเข็ม 4 ถ้าห่างจากเข็ม 3 ไปแล้ว 4 เดือน
• สธ.คิกออฟฉีดวัคซีนเด็กเล็ก 6 เดือน-4 ปี ลดอาการเจ็บป่วย-อักเสบรุนแรง เป็นไปตามความสมัครใจ เผยพ่อแม่ 4 แสนราย ยอมให้ฉีด
• ศูนย์จีโนมฯ คาดโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" อุบัติใหม่อย่างน้อย 4 สายพันธุ์ย่อย BQ.1.1, BA.2.3.20, BA.2.75.2 และ XBB ที่กลายพันธุ์จากบรรพบุรุษโอมิครอนจากไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น"

สถานการณ์โควิดฯ ไทยดีวันดีคืน จนนำไปสู่การยกเลิก ศบค.และปรับลดระดับโควิดจากโรคติดต่อร้ายแรง มาเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง รวมทั้งมีการปรับระบบการรายงานผู้ป่วยเป็นรายสัปดาห์ โดยให้กรมควบคุมโรครับหน้าที่ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 2-5 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเฉลี่ยวันละกว่า 3 ร้อยราย เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 9 ราย จากการประเมินตัวเลขแล้วถือว่าเป็นไปตามคาด และยังต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งจากตัวเลขการรายงานที่น้อยลงนี้ จึงทำให้ความสนใจฉีดวัคซีนของประชาชนลดลงตามไปด้วย จนหลายคนไม่แน่ใจว่าจะฉีดดีหรือไม่ ?

วัคซีนยังสำคัญ "ฉีดเข็มบูสเตอร์โดส" ห่างทุก 4 เดือน ตามความสมัครใจ

นพ.โอภาส การกวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คำแนะนำของคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคระบุว่า "วัคซีนบูสเตอร์โดส" มีความจำเป็น การฉีดขอให้ห่างกันทุก 4 เดือน แต่เป็นไปตามความสมัครใจ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ควรฉีดเข็ม 4 ถ้าห่างจากเข็ม 3 ไปแล้ว 4 เดือน ปีต่อไปจะฉีดเหมือนไข้หวัดใหญ่หรือไม่นั้น ข้อมูลทั่วโลกขณะนี้ยังไม่เพียงพอ หากมีคำแนะนำต่างๆ ก็จะออกนโยบายมาให้รับทราบ คงต้องออกแรงกันช่วยกันรณรงค์ สำหรับกลุ่มเด็กเล็กนั้นมีการเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 65 ที่ผ่านมาแล้ว ที่ รพ.พระนั่งเกล้า

ซักซ้อม รพ.ทั่วประเทศ รับมือฉีดวัคซีนเด็ก

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ซักซ้อมกับ รพ.ต่างๆ ทั่วประเทศทั้งเรื่องการจัดเก็บวัคซีน การฉีดเด็กกลุ่มเป้าหมายมีจำนวน 3 แสนคน และเป็นการรับวัคซีนโดยความสมัครใจ เป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้ม ลอตแรกจำนวน 5.04 แสนโดส ซึ่งมาถึงไทยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา อีกทั้งภายในเดือน ต.ค.นี้ จะมา 1 ล้านโดส จากนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะตรวจสอบรับรองคุณภาพการผลิตและกระจายวัคซีน โดยวัคซีนโควิดสามารถฉีดร่วมกับวัคซีนพื้นฐานในเด็กเล็กอื่นๆ ได้ หลังฉีดจะสังเกตอาการ 30 นาที และติดตามอาการเด็กอีก 1 เดือน

"แม้จะมีการปรับรายงานเป็นรายสัปดาห์ แต่กรมควบคุมโรคมีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) ติดตามสถานการณ์ทุกวัน ขอให้มั่นใจว่าเราติดตามอย่างใกล้ชิด"

ฉีดวัคซีนเด็ก ช่วยลดอัตราป่วย-ภาวะอักเสบทั่วร่างกาย 

ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กเล็กพบมีมากกว่าเด็กโตถึง 3 เท่า การฉีดวัคซีนช่วยลดอัตราป่วย ลดการเกิดภาวะอักเสบทั่วร่างกายในเด็ก หรือมิสซี (MIS-C) ปริมาณฉีด 3 ไมโครกรัม ฉีด 3 เข็ม เข็มแรกและเข็มสองห่างกัน 1 เดือน และเข็มสามห่างอีก 2 เดือน

ผู้ปกครอง 4 แสนราย สมัครใจให้เด็กเล็กฉีด

ส่วนการคิกออฟฉีดวัคซีนโควิดฯ ไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้มให้กับเด็ก อายุ 6 เดือนถึง 4 ปี เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2565 ที่ผ่านมานั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ยืนยันว่าการนำวัคซีน ยา หรือเวชภัณฑ์ใดก็ตาม ที่จะนำมารักษาโรคหรือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เราจะไม่ใช้เชิงบริหารมาชี้แนะ เน้น หรือมาเหนือหลักวิชาการทางการแพทย์ ขอให้มั่นใจทุกอย่างมีหลักวิชาการสนับสนุน เราปิดเกมได้เพราะคนส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนมากกว่า 75% ที่ยังตกค้างคือเด็กซึ่งก็มีโอกาสติดเชื้อสูงจากการไปโรงเรียน แม้เด็กจะมีสุขภาพแข็งแรง แต่เด็กเป็นตัวกระจายเชื้อให้คนในครอบครัวได้ ทราบว่าผู้ปกครองลงทะเบียนสมัครใจให้เด็กกลุ่มนี้ฉีดประมาณ 4 แสนราย ลอตแรกของวัคซีนเด็กมี 5 แสนโดส จะสั่งเข้ามามากขึ้นถ้ามีความต้องการของผู้ปกครอง

พบ "โอมิครอน" อุบัติใหม่อย่างน้อย 4 สายพันธุ์ย่อย

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า ฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก "GISAID" ล่าสุดพบว่าโอมิครอนอุบัติใหม่อย่างน้อย 4 สายพันธุ์ย่อย คือ BQ.1.1, BA.2.3.20, BA.2.75.2 และ XBB ที่กลายพันธุ์จากบรรพบุรุษโอมิครอนที่ต่างกลุ่มกัน มีการกลายพันธุ์ต่างจากไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น" ถึงกว่า 100 ตำแหน่ง คาดว่าจะระบาดแทนที่ BA.5 สิ้นปีนี้หรือต้นปี 2566 ประเทศใดจะเกิดการระบาดจากโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยใด คาดคะเนได้ล่วงหน้าจากความได้เปรียบของสายพันธุ์ย่อยนั้นในการเติบโต-แพร่ระบาด ปัจจัยหลักน่าจะมาจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ที่แพร่ระบาดในเขตหรือท้องถิ่นนั้น ประเภทและจำนวนวัคซีนที่ประชากรทวีปนั้นๆ ได้รับ

คาดอนาคต "XBB" ระบาดระลอกใหม่ในไทยแทน BA.5

โดยทวีปอเมริกาเหนือ พบเป็นโอมิครอน BQ.1.1 และ BA.2.3.20, ทวีปยุโรป พบโอมิครอน BQ.1.1 และ BQ.1, ทวีปเอเชีย พบโอมิครอน XBB และ BQ.1, ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย พบโอมิครอน BQ.1.1 และ XBB ประเทศไทยคาดหากระบาดจากโอมิครอนระลอกใหม่ในอนาคต จะมาจากสายพันธุ์ย่อย XBB

"XBB" กลายพันธุ์หลบภูมิดีสุด ดื้อแอนติบอดีสังเคราะห์

ขณะที่อังกฤษแนวโน้มการระบาดของ BQ.1.1 ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังมาเยือนมากที่สุด โอมิครอน XBB เป็นสายพันธุ์ลูกผสมโอมิครอน ระหว่าง BJ.1 และ BA.2.75 มีต้นตระกูลร่วมกันคือ BA.2 กลายพันธุ์หลบเลี่ยงภูมิคุ้มได้ดีที่สุด ดื้อต่อยาประเภทแอนติบอดีสังเคราะห์สำเร็จรูปทุกชนิด พบแพร่ระบาดมากที่สุดในสิงคโปร์และอินเดีย

ยังไม่พบ "BQ.1.1" และ "XBB" ไทย 

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการค้นพบโอมิครอนกลายพันธุ์ตัวใหม่ BQ.1.1 และ XBB สามารถแพร่เชื้อได้เร็ว และดื้อภูมิคุ้มกันมากกว่าทุกสายพันธุ์นั้น จากข้อมูลการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ของกรมวิทย์ร่วมกับเครือข่ายทั่วประเทศ ยังไม่มีรายงานตรวจพบโอมิครอนสายพันธุ์ดังกล่าวในประเทศไทย ส่วนใหญ่ที่พบในไทยยังเป็น BA.5 และสายพันธุ์ย่อยอื่นๆดังนี้

กราฟิก : Theerapong.c