แม่น้ำมูล-ชีระดับน้ำหนุนสูงทะลักท่วมพื้นที่ริมน้ำ อุบลฯยังอ่วมหนัก 6 อำเภอ มหาสารคามเฝ้าระวังเตรียมอพยพชาวบ้าน ชัยภูมิเร่งสูบน้ำออกจากเมือง เชียงรายนาข้าวจมน้ำนับเดือน เชียงใหม่น้ำเซาะเจดีย์เก่าพัง กรมศิลป์หวั่นกำแพงเมืองเก่าพังซ้ำ จ.ตากท่วมหนักในรอบ 8 ปี เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำสูงสุดกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ขณะที่ “บิ๊กตู่” สั่งทุกฝ่ายช่วยชาวบ้าน กรมอุตุฯแจงฝนยังตกหนักเกือบทุกภาค

...

พายุ “โนรู” อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ศูนย์กลางอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ในหลายพื้นที่ทางภาคอีสานและเหนือน้ำท่วมหนัก เจ้าหน้าที่ระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่ และเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ที่เดือดร้อน

อุบลฯประกาศภัยพิบัติ 6 อำเภอ

จากผลกระทบจากพายุโนรูทำให้มีฝนตกต่อเนื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยช่วงเช้าเมื่อวันที่ 30 ก.ย. น้ำในแม่น้ำมูลปรับตัวสูงขึ้นล้นตลิ่งไหลสูงเกือบ 3 เมตร เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรจนได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจำนวน 15 อำเภอ เจ้าหน้าที่ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) แล้ว 6 อำเภอ คือ อ.วารินชำราบ อ.เมือง อ.เดชอุดม อ.น้ำยืน อ.น้ำขุ่น และ อ.ทุ่งศรีอุดม ชาวบ้าน เดือนร้อน 3,400 ครัวเรือน อพยพแล้วจำนวน 47 ชุมชน 1,780 ครัวเรือน อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 45 จุด จำนวน 1,451 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรและการประมงได้รับความเสียหาย 92,500 ไร่

พ่อเฒ่าและเมียจมน้ำฝายดับ

ด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ รับรายงานจากตำรวจ สภ.โนนคูณ ว่า ช่วงค่ำวันที่ 29 ก.ย. มีเหตุชาวบ้านขี่รถ จยย.ถูกน้ำซัดจมหายไป 2 คน ที่ฝายน้ำล้นห้วยผับ บ้านหนองแวง หมู่ 10 ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ทราบชื่อผู้สูญหายคือ นายสุวรรณ ยาศรี อายุ 78 ปี และนางคอง ยาศรี อายุ 67 ปี สองผัวเมียชาวบ้านในพื้นที่ นักประดาน้ำงมหากว่า 6 ชม. พบศพนางคองแล้ว ส่วนนายสุวรรณพบในเวลาต่อมาที่ชุมชนห้วยพอก ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.อ.ภคพล มีทิพย์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 23 นำกำลังทหารพรานและอาสาหน่วยกู้ภัย เข้าช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน หลังน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักเอ่อล้นลำห้วยพอกไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 ก.ย. ช่วยยกของขึ้นที่สูง และอพยพชาวบ้านไปอยู่ศูนย์พักพิง

ต้นไม้โค่นทับรถพัง 3 คัน

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพหน่วยกู้ภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ รับแจ้งเกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับรถยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน ที่บริเวณล้านจอดรถหน้า ที่ว่าการอำเภอเมืองหลังเก่า ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ไปตรวจสอบพบว่าเป็นต้นมะรุมป่าอายุกว่า 70 ปี มีความสูงกว่า 25 เมตร โค่นล้มทับรถ 3 คัน เป็นรถเก๋ง 2 คัน รถกระบะ 1 คัน เจ้าหน้าที่สำนักการช่างเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์นำเลื่อยยนต์มาช่วยตัดกิ่งไม้เคลียร์พื้นที่ ส่วนสาเหตุคาดมาจากฝนตกหนักดินชุ่มน้ำมาก ทำให้ต้นไม้โค่นล้ม

น้ำชีหนุนสูงกว่าปี 64

แม่น้ำชีระดับน้ำหนุนสูงทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านและพื้นที่เกษตรกรรมที่ อ.เมืองมหาสารคาม 4 ตำบล 20 หมู่บ้าน 133 ครัวเรือน โรงเรียนบ้านเกิ้งวิทยานุกูล ต.เกิ้ง อ.เมือง ปิดการเรียนการสอน และชาวบ้านท่าค้อ ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม ร่วมกันมากรอกกระสอบทรายกั้นน้ำเข้าหมู่บ้าน หมู่ 5 และหมู่ 13 และตั้งเครื่องสูบน้ำ สอบถามชาวบ้านบอกว่า ปีนี้น้ำมาเร็วและมีน้ำจำนวนมากน่าจะมากกว่าปี 64 อาจจะต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง ส่วนวนอุทยาน โกสัมพี อ.โกสุมพิสัย น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ เจ้าหน้าที่สั่งปิดทำการ ไม่มีนักท่องเที่ยวให้หาอาหารลิงแสม ส่งผลให้ฝูงลิงแสมกว่า 800 ตัว หนีน้ำไปอาศัยอยู่ตามวัด โรงเรียน และศาลเจ้า

...

อพยพพระออกจากวัด

ที่บ้านโนนสว่างและบ้านแสลงพันใน ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ อยู่ใกล้กับลำน้ำชี น้ำทะลักเอ่อเข้าท่วมวัดป่าโคกพัฒนาสว่างธรรม ศาลาการเปรียญ กุฏิ เจดีย์บรรจุอัฐิ และเมรุ ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่อพยพพระออกจากวัดไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง นอกจากนี้ น้ำท่วมโรงเรียนบ้านโนนสว่าง ต.ลำดวน อ.กระสัง ทั้งอาคารเรียน โรงอาหาร สนามเด็กเล่น และสนามหญ้า ประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ

ตัวเมืองชัยภูมิจมบาดาล

ที่ อ.เมืองชัยภูมิ น้ำท่วมบริเวณ 4 แยกโรงเลื่อยเก่าชัยภูมิ ในพื้นที่ย่านชุมชนย่านตลาดใจกลางเมืองชัยภูมิ สถานที่ราชการศาลากลางจังหวัด สถานีตำรวจ ไปรษณีย์ บ้านพักหัวหน้าราชการต่างๆ ตลาดสดเทศบาล ร้านค้าขายต่างๆอีกนับร้อยแห่ง ไปจนถึงที่ถนน 5 แยกโนนไฮ ระดับน้ำท่วมสูงถึงเอว รถเล็กไม่สามารถผ่านสัญจรได้ รวมทั้งถนนหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ หนักที่สุดชุมชนกุคแคนและชุมชนโนนสมอน้ำท่วมสูงถึงคอ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชัยภูมิร่วมกับ ปภ.ชัยภูมิ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่างๆ เดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่รวมทั้งหมด 24 เครื่อง เจ้าหน้าที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง และ อ.คอนสวรรค์

ท่วมนาข้าวนับเดือน

ที่ ต.หนองแรด อ.เทิง จ.เชียงราย และพื้นที่ข้างเคียง พื้นที่เป็นแอ่งกระทะรองรับน้ำที่ไหลมาจากกว๊านพะเยาก่อนไหลลงแม่น้ำอิงที่ ต.เวียง อ.เทิง ทำให้นาข้าวใน ต.หนองแรด ทั้งหมด 7 ตำบล และพื้นที่ข้างเคียง ได้แก่ ต.เวียง ต.แม่ลอย ต.ศรีดอนไชย และ ต.ปล้อง ถูกน้ำท่วมนาข้าวนานนับเดือนกว่า 25,000 ไร่ ได้รับความเสียหาย ถนนน้ำท่วมสูงไหลเชี่ยว ชาวบ้านมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก

...

กรมศิลป์สำรวจเจดีย์ถล่ม

...

นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผอ.กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ศิลปากรที่ 7 เข้าตรวจสอบองค์พระเจดีย์อายุเก่าแก่กว่า 522 ปี ที่วัดศรีสุพรรณ ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ พังถล่มลงโดยมีเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่และพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของตำบลหายยาเข้าร่วมตรวจสอบและมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมาดูองค์พระเจดีย์ คณะกรรมการวัดนำพระพุทธรูปจากกรุทั้งหมดไปขึ้นบัญชีและเก็บรักษาไว้ ประกอบด้วย พระเนื้อสำริด 6 องค์ และพระแก้วขาว 12 องค์ นายเทอดศักดิ์เปิดเผยว่า แก่นในของพระเจดีย์นั้นเป็นโบราณสถานเดิมก่อพอกเพิ่มน้ำหนักใช้ปูนซีเมนต์เสริมความมั่นคงของโครงสร้าง ไม่มีแกนอะไรช่วยพยุงเจดีย์ อีกทั้งเทคอนกรีตเป็นพื้นรอบทำให้ความชื้นสะสมใต้ดิน อากาศใต้ดินไม่สามารถระเหยขึ้นมาได้ ดังนั้น เมื่อมีรอยแยกรอยแตก น้ำฝนไหลลงไปสะสมบวกกับความชื้นที่อยู่ข้างใน ทำให้องค์เจดีย์พังทลายลงมา

ห่วงกำแพงเมืองโบราณถล่ม

นายเทอดศักดิ์เปิดเผยอีกว่า โบราณวัตถุที่พบฝังไว้ในพระธาตุ ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่จะเข้ามาทำทะเบียนและพิสูจน์ว่าอยู่ในยุคสมัยใด หลังจากนั้นจะให้ทางวัดเป็นผู้เก็บรักษาไว้ตามเดิม ส่วนการเก็บกู้ซากองค์พระธาตุคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ประสานทั้งทางเทศบาลนครเชียงใหม่และวัดศรีสุพรรณเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ทางศิลปกรรมให้มากที่สุด ส่วนการจะรื้อเจดีย์ลงมาทั้งหมดหรือไม่นั้น ต้องขอดูโครงสร้างหลักจากที่รื้อเศษอิฐออกมาก่อน และนักโบราณคดีเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งว่ารูปแบบเป็นอย่างไร สิ่งที่น่าห่วงคือกำแพงเมืองโบราณหลายจุด เช่น แนวกำแพงดินที่เป็นกำแพงเมืองชั้นนอก หรือแนวกำแพงเวียงสวนดอก ที่มีลักษณะกำแพงเหลือเป็นเนินดินมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุม เมื่อฝนตกหนักมากและสะสมมีความเสี่ยงเกิดดินเคลื่อนตัวเป็นอันตรายต่อบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ประชิดติดกับแนวกำแพง ต่อมาเวลา 15.00 น. พระและชาวบ้านทำพิธีขอขมาต่อองค์พระเจดีย์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวเชียงใหม่

ตากท่วมหนักในรอบ 8 ปี

จ.ตาก เกิดฝนตกหนักน้ำป่าถล่มใน ต.พะวอ อ.แม่สอด น้ำไหลบ่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสองหมู่บ้านในหมู่ 6 และหมู่ 9 น้ำป่าสีแดงขุ่นและมีความรุนแรง ชาวบ้านเร่งขนของหนีน้ำกันอย่างอลหม่าน ด้านนายสุพจน์ กาใจ กำนันตำบลพะวอ เปิดเผยว่า ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านที่มีบ้านเรือนติดสองแนวตลิ่งติดลำห้วยแม่ละเมาให้รีบขนย้ายสิ่งของโดยด่วน แต่ไม่คาดคิดว่าน้ำป่าจะมาเร็วและมีความรุนแรงมาก ทำให้สะพานทางเข้าออกหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ น้ำท่วมหนักในรอบ 10 ปี ปภ.ตากแจ้งมีพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด 2 อำเภอ คือ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก พื้นที่ 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 1,388 ครัวเรือน 3,247 คน เส้นทางคมนาคมได้รับความเสียหาย 8 สาย และพื้นที่ทางการเกษตรด้านพืช 4,250 ไร่ ด้านการประมง 11 ไร่ 2 งาน

เตือนห้ามเล่นน้ำบนถนน

ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้างในหลายตำบล เป็นลักษณะน้ำท่วมบ่าทุ่งนาและจะท่วมขังเป็นระยะเวลานาน 1-2 เดือน ทำให้บางจุดที่น้ำท่วมเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้าน ระดับน้ำบนถนนสูงถึงข้อเท้าเป็นทางยาว เด็กและวัยรุ่นมักจะรวมกลุ่มเล่นน้ำกันบนถนน แต่ข้างทางเป็นร่องน้ำลึก 1 -1.5 เมตรเป็นอันตราย อาจจมน้ำเสียชีวิต เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนไปยังผู้นำท้องที่ให้ประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านเพิ่มความระมัดระวัง และคอยดูบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ที่ จ.นครสวรรค์ น้ำหลากเข้าท่วมตลาดสดเทศบาลท่าตะโก อ.ท่าตะโก พ่อค้าแม่ขายต้องรีบขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า

น้ำป่าอุทยานฯไหลทะลัก

จ.ปราจีนบุรี น้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลานไหลหลากลงมาที่คลองลำพญาธาร ส่งผลให้น้ำท่วมทางเข้าหมู่ 10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ส่วนในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ รับน้ำมาจากในพื้นที่ อ.นาดี และ อ.กบินทร์บุรี ปริมาณน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านสองฝั่งแม่น้ำ ที่ จ.นครนายก ฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากจากบึ้งไม้ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และน้ำตกกระอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก มวลน้ำจำนวนมากไหลลงสู่คลองบ้านนา ทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ 2 ฝั่งคลอง ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยชาวบ้านขนย้ายข้าวของไปไว้ที่สูง

เขื่อนฯเร่งระบายน้ำสูงสุด

มีรายงานจากเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลางพบว่า น้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วัดได้ในอัตรา 2,598 ลบ.ม./วินาที และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศ ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุดวัดได้ +17.00 เมตรต่อระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ส่วนอัตราการระบายน้ำขึ้นไปที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และเพื่อเร่งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำเหนือเขื่อน รองรับมวลน้ำเหนือที่จะมีมากขึ้นจากอิทธิพลของ “พายุโนรู” ฝนตกต่อเนื่องทั้งวันทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวสูงขึ้นรายชั่วโมง ขณะนี้อยู่ที่ 15.87 ม.รทก.

กระทบพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา

ที่ ต.เกาะเทโพ อ.เมืองอุทัยธานี พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำท่วมบ้าน 60 หลัง ที่ จ.ลพบุรี น้ำป่าไหลทะลักเข้า อ.โคกสำโรง ท่วมชุมชนและตลาดสด ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า ส่วนที่ อ.บางบาล และ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยาน้ำท่วมสูงเกือบมิดหัว

อาสาฯนำเรือรับผู้ป่วย

สถานการณ์แม่น้ำท่าจีนในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี หลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน บ้านริมฝั่งแม่น้ำท่วมสูงเกือบมิดหัว บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เขต อ.เมืองสุพรรณบุรี อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง เสียหายกว่า 150 หลังคาเรือน ส่วนอาสามูลนิธิเสมอกัน สุพรรณบุรี นำเรือเข้าไปรับผู้ป่วยจาก รพ.เจ้าพยายมราช เพื่อนำผู้ป่วยติดเตียงนอนบนเรือและลุยน้ำไปส่งถึงบ้านน้ำท่วมที่ อ.บางปลาม้า กันอย่างทุลักทุเล ที่สะพานข้ามแม่น้ำนครชัยศรี (แม่น้ำท่าจีน) ถนนบรมราชชนนี อ.สามพราน จ.นครปฐม น้ำหนุนสูงไหลทะลักเข้าท่วมถนนบรมราชชนนี ในช่องทางคู่ขนาน จุดกลับรถลอดใต้สะพานทั้งสองฝั่ง ระดับน้ำท่วมสูง 60 ซม.

เสริมกระสอบทรายสูงขึ้น

ที่ชุมชนพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านสูงถึงหัวเข่า ด้านนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี และ น.อ.สวาท นิมยมเหตุ รองนายกเทศมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีปริมาณสูงขึ้น พร้อมสั่งการให้ ปภ.เสริมแนวกั้นกระสอบทรายให้แข็งแรงและสูงขึ้น รองรับกับปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น ผลจากเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่ม ที่ตลาดพิชัย อ.ปากเกร็ด น้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่ทำสะพานไม้ให้ชาวบ้านเดิน

“บิ๊กตู่” ยันดูแล ปชช.

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายก รัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้กำลังใจและเห็นใจประชาชนที่เดือดร้อน จากสถานการณ์พายุโนรูส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 28 ก.ย. พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

อุตุฯแจงฝนยังตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังจากพายุ “โนรู” ปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร