หนึ่งใน “กลศึกสามก๊ก” (หลีปิ่งเอี้ยน ซุนจิ้ง ค้นคว้า บุญศักดิ์ แสงระวี แปล สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2537) คือ การแสดงละครหลังเวที
ในประวัติศาสตร์สงครามจีน การต่อสู้ที่ห้อมล้อมอยู่กับการปล้นเสบียง การพิทักษ์รักษาเสบียง การตัดเส้นทางลำเลียงเสบียง และการพิทักษ์รักษาเส้นทางเสบียง จึงมีคำกล่าว ทหารกับม้ายังไม่ถึง เสบียงอาหารและหญ้าม้าต้องถึงก่อน
ขงเบ้งนำทัพออกจากเขากิสาน รบกับวุยก๊กเป็นครั้งที่สอง ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ตั้งยันกันอยู่ สุมาอี้ฝ่ายวุยก๊ก วิเคราะห์จุดอ่อนทัพจกก๊ก ลำเลียงเสบียงอาหารลำบาก เสบียงอาหารจะขาดแคลน เสนอพระเจ้าโจยอย
มีโองการให้โจจิ๋น (แม่ทัพ) รักษาถนนหนทางและปากด่านให้มั่นคง อย่าออกรบเป็นเด็ดขาด ไม่ถึงเดือน ทหารจกก๊กจะถอยหนีไปเอง
โจจิ๋นแม้รับโองการ แต่ร้อนใจ อยากจะรีบรบเอาชัย เพื่อได้หน้า
ซุนเล้เสนาธิการใหญ่ออกอุบายให้โจจิ๋น “ข้าพเจ้าจะปลอมตัวคุมเสบียงไปเขากิสาน แต่บนรถจะบรรทุกหญ้าฟืนแห้ง ดินประสิวเชื้อเพลิง ล่อให้ทหารขงเบ้งโจมตี แล้วจุดเพลิงเผา ภายนอกก็ซุ่มทหารไว้ตีกระหนาบเข้าไป ก็จะชนะได้โดยไม่ยาก”
เรื่องราวตอนนี้ สำนวนตำนานสามก๊กกล่าวว่า
ขงเบ้งแจ้งว่าซุนเล้คุมทหารเสบียงเกวียนมาส่งกองทัพโจจิ๋นทางเขาตะวันตก...จึงกล่าวว่า แต่แรกเราทำศึกมามีชัยชนะนั้น ก็เพราะอุบายลวงเผาทหาร บัดนี้โจจิ๋นจะลักเอาความคิดของเรา มาทำแก่เรา ยังจะได้อยู่หรือ
เราจะเอากลซ้อนเหนือกลบ้าง
ขงเบ้งวางทหารไว้หลายช่วงชั้น ทั้งแสร้งโจมตี ทั้งแสร้งถอยลวง แล้วส่งทหารกระหนาบทั้งต้นทางปลายทาง ผลของการรบครั้งนั้น โจจิ๋นแทนที่จะได้หน้า กลับเสียหน้ารบแพ้ยับ เสียทั้งกำลังทหาร และเสบียงอาหารส่วนหนึ่ง
ผู้รู้วิเคราะห์ไว้หลายทาง 1.โจจิ๋นประมาท ไม่สำนึกว่ารบอยู่ต้นตำรับกลลวงคือขงเบ้งผู้มีสติปัญญาลึกล้ำ คาดการณ์ได้ดังหนึ่งเทวดา 2.แม้รู้ว่าฝ่ายขงเบ้งจะขาดเสบียง แต่โจจิ๋นลืมคำที่สุมาอี้เสนอไว้ ว่าอย่าออกรบเด็ดขาด
...
และ 3.การที่ซุนเล้ มือขวาแม่ทัพเสนอตัวคุมเสบียงทางไกล ขงเบ้งอ่านทะลุว่าใช้คนผิดตัว โจจิ๋นตั้งใจขุดหลุมพราง แต่ลืมกลบหลุม พบพิรุธชัดเจน
สรุปบทวิเคราะห์จากผู้รู้ โจจิ๋น ตั้งใจแสดงละครหลังเวที หลอกคนอย่างขงเบ้ง ผลการรบที่ตั้งใจจะเอาชัยได้หน้า กลายเป็นการหาเหาใส่หัว หาทุกข์ใส่ตัวเองไปเต็มๆ
คนค้นคว้ากลศึกสามก๊ก บอกว่า งานโจจิ๋นเล่นละครหลังเวที ไม่มีในประวัติศาสตร์สามก๊ก แต่มีในตำนานที่หลอก้วนจงแต่งไว้ให้คนรุ่นต่อๆมาฟังกันเพลินๆ
ผมเลือกละครหลังเวที ในกลศึกสามก๊กมาเล่าต่อ เพราะทนดูละครการเมืองแบบไทยๆไม่ไหว ฝ่ายพระเอกกำลังเพลี่ยงพล้ำถูกแย่งเก้าอี้นั่ง ก็ตั้งใจเล่นบทขี่รถถัง ยิงปืนกล ประชุมตั้งแม่ทัพนายกอง...
บอกใบ้ว่าข้ายังคุมทหารไว้ทั้งกองทัพ
ส่วนผู้ร้าย ตั้งแต่ได้นั่งเก้าอี้ใหม่ บทผู้ชรางุ่มง่ามเงอะงะที่เล่นมานาน ก็เปลี่ยนเป็นบทหนุ่มกระชุ่มกระชวย ขึ้นลงรถได้ฉับไวไม่ต้องรอใครประคอง ตั้งตำรวจน้อยใหญ่จบได้ในเวลานิดเดียว
ทั้งพระเอกผู้ร้าย แม้จะมีบทประทับใจ ปล่อยเก้าอี้ใหญ่ให้ว่าง...จนดูไม่ออกใครแสดงดีกว่า ชาวบ้านเขาก็ส่ายหน้า
ฝ่ายนักแสดงอาจเผลอคิดว่า นี่เป็นเวลาเริ่มต้น แต่ฝ่ายชาวบ้าน ม่านเวทีรูดปิดสนิทแล้ว หมดเวลาของนักแสดงหน้าเก่าแล้ว ไม่มีใครอยากดูละครเวทีบทที่น่าเบื่อนี้ต่อไปอีกแล้ว.
กิเลน ประลองเชิง