ภูเก็ตโผล่อีก “ฝีดาษลิง” เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวเยอรมันวัย 25 ปี เดินทางมาเยี่ยมบ้านแฟนสาวชาวไทยและไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนพบมีอาการต้องสงสัยจึงเข้าไปตรวจร่างกายที่ รพ.พบติดเชื้อ ถือเป็นรายที่ 2 ของภูเก็ตและรายที่ 3 ของไทย ส่วนกลุ่มเสี่ยงพบ 7 ราย ล้วนเป็นสมาชิกในครอบครัวของแฟนสาว รมว.พลังงานติดโควิดหลังกลับจากซาอุฯ อย.จับกุมยาโมลนูพิราเวียร์เถื่อนนำเข้าจากอินเดีย “อนุทิน” ย้ำประชาชนไม่ควรซื้อยาต้านไวรัสมากินเอง

ไทยพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในประเทศเป็นรายที่ 3 ทั้งนี้ เมื่อบ่ายวันที่ 3 ส.ค. นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวการพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงที่ จ.ภูเก็ตรายที่ 2 และเป็นรายที่ 3 ของไทยว่า กรมควบคุมโรครายงานการพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายที่ 3 ของประเทศและรายที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้รับรายงานเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่า มีผู้ป่วยเข้าไปรักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัด และ รพ. สงสัยผู้ป่วยรายนี้ว่าอาจเป็นผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง เนื่องจากมีอาการเข้าข่ายต้องสงสัย คือมีไข้ มีผื่นขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต จึงรับตัวไว้รักษา ทีมแพทย์ได้เจาะเลือดส่งตรวจยังห้องปฏิบัติการ ศูนย์วิทยาศาสตร์บ้านบางโจ อ.ถลาง ที่สามารถตรวจสอบเชื้อโรคฝีดาษลิงได้ไม่เกิน 1 วันพบติดเชื้อจริงจึงแจ้งให้ผู้ป่วยทราบ

...

นพ.กู้ศักดิ์กล่าวอีกว่า จากนั้นทีมสอบสวนโรคร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมืองภูเก็ต ลงพื้นที่สอบสวนโดย รพ.ได้สอบประวัติผู้ป่วยที่เป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 25 ปี เดินทางจากประเทศเยอรมนี มายังภูเก็ตเมื่อวันที่ 18 ก.ค. มาอยู่กับแฟนสาวชาวไทย หลังมาถึงไทยได้ออกท่องเที่ยวกับแฟนสาวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของ จ.ภูเก็ต จนวันที่ 23-24 ก.ค. เริ่มมีอาการไข้ มีผื่นขึ้นเล็กน้อย วันที่ 30-31 ก.ค. มีผื่นขึ้นตามร่างกายมากขึ้น เริ่มที่ อวัยวะเพศก่อนแต่ไม่มาก แล้วลามไปยังแขน ข้อมือ ต่อมาวันที่ 1 ส.ค. มีไข้และมีผื่นขึ้นมากขึ้นตามลำตัว วันที่ 2 ส.ค. จึงมาตรวจที่ รพ. เอกชน ถูกเจาะเลือดและเพาะเชื้อก่อนมีการรับตัวไว้รักษาที่ รพ.

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตกล่าวด้วยว่า การสอบสวนโรคพบว่าผู้ป่วยไปท่องเที่ยวกับแฟนสาวทำให้แฟนกลายเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดที่สุด นอกจากนี้ มีสมาชิกในครอบครัวของแฟนเบื้องต้นราว 7 คน แต่จะเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น จะต้องสอบสวนโรคไปทีละขั้นตอน หลังพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงผู้ป่วยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการสอบสวนโรค จากนี้จะเป็นขั้นตอนที่ 2 คือการสอบสวนผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย ทั้งนี้ การติดเชื้อของโรคดังกล่าวไม่ง่าย นอกจากสัมผัสโดยตรงและสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยแบบเนื้อแนบเนื้อ ต้องดำเนินการฆ่าเชื้อโรคในบ้านผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิด พร้อมสร้างความมั่นใจให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคดังกล่าว โรคนี้อาการไม่รุนแรง หายเองได้ใน 2-3 สัปดาห์ สำหรับผู้ป่วยชาวเยอรมันรายนี้น่าจะติดเชื้อมาจากต่างประเทศ เนื่องจากระยะฟักตัวของเชื้อ 21 วัน ผู้ป่วยเข้ามายัง จ.ภูเก็ต วันที่ 18 ก.ค. เริ่มมีอาการวันที่ 23-24 ก.ค. ขณะนี้รอผลตรวจของแฟนสาวชาวไทยคาดว่าวันที่ 4 ส.ค. จะทราบ

ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคได้รับรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงยืนยันรายที่ 3 เป็นชายชาวเยอรมันอายุ 25 ปี ที่มาเที่ยว จ.ภูเก็ต จากการสอบถามเบื้องต้นและดูช่วงระยะเวลาการฟักตัวของเชื้อพบว่า ชายคนดังกล่าวเข้ามาประเทศไทยไม่นานก็เริ่มมีอาการ ดังนั้นน่าจะติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ขณะนี้มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและคนในกลุ่มเสี่ยงเพื่อตรวจคัดกรอง

อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวอีกว่า สำหรับความเสี่ยงของโรคที่จะกระจายในไทย จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 รายที่พบเป็นชายทั้งหมด ตรงกับข้อมูลขององค์การอนามัยโลกว่า ผู้ป่วยฝีดาษลิงร้อยละ 98 จะมีประวัติในกลุ่มชายรักชาย ในส่วนของไทยก็สอดคล้องกันเป็นชายต่างชาติ 2 คน อีก 1 คนเป็นคนไทยที่สัมผัสใกล้ชิดกับคนต่างชาติ ดังนั้น ความเสี่ยงของไทยคือการสัมผัสใกล้ชิดกับคนต่างชาติหรือคนที่มีประวัติเป็นโรคฝีดาษลิง ส่วนวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง องค์การเภสัชกรรมคาดว่าจะนำเข้ามาได้ภายในเดือน ส.ค. คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะรับวัคซีน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ คนที่ยังไม่มีประวัติติดเชื้อ แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ห้องแล็บ ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด กลุ่มที่สอง คือผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยและผู้มีความเสี่ยงสูง หากได้รับวัคซีนไม่เกิน 14 วันหลังการสัมผัสครั้งสุดท้ายเชื่อว่าจะป้องกันโรคได้

สำหรับยารักษาโรคฝีดาษลิง นพ.โอภาส กล่าวว่า โรคนี้เป็นโรคที่หายเองได้ ผู้ป่วย 2 คนแรกของไทยมีอาการดีขึ้นโดยไม่ต้องกินยาต้านไวรัสโดยเฉพาะ ส่วนการรับตัวรักษาไว้ใน รพ. เป็นไปเพื่อการควบคุมโรค โดยทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสมกว่า 2 หมื่นคน มีเพียงร้อยละ 9 ที่อยู่ใน รพ.เพื่อควบคุมโรค โรคนี้หายเองได้ อาการไม่รุนแรง ในอนาคตอาจพิจารณาให้รักษาตัวเองที่บ้าน

...

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการจ่ายยารักษาโควิด-19 ทั้งฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิดให้กับผู้ป่วย ว่าแนวทางการรักษาที่กรมการแพทย์ออกประกาศยืนยันว่าผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ร่วมกับปัจจัยเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่ง เช่น อายุเกิน 60 ปี ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น มีโรคร่วมเพียงแค่อายุ 60 ปีขึ้นไป จ่ายยาโมลนูพิราเวียร์ได้ ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ ยาโมลนูฯที่องค์การเภสัชกรรมสั่งเข้ามามีเพียงพอและมีการสั่งจ่ายยาโมลนูฯทุกวัน นอกจากนี้ บริษัท เมิร์กผู้ผลิตยาโมลนูฯแสดงความห่วงใยถึงยาโมลนูฯ ที่มีอยู่ในท้องตลาดของไทย บางรายดูเหมือนว่าโรงงานผลิตจะไม่ได้รับลิขสิทธิ์ ทำให้ไม่แน่ใจเรื่องประสิทธิภาพยา ดังนั้น ประชาชนไม่ควรหาซื้อยากินเอง เพราะยาที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมีเพียงพอทั้งยาโมลนูฯกับยาแพกซ์โลวิด ยานี้เป็นยาที่ใช้ในภาวะฉุกเฉินต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ สั่งจ่ายให้กับคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะเด็กยังไม่มียา ผลวิจัยของ รพ.ศิริราช ก็ยันว่าลดอาการได้

เวลา 15.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 3 ในไทยว่า ได้กำชับให้ด่านควบคุมโรคทั้งทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ เฝ้าระวังและคัดกรองผู้ที่เดินทางมาอย่างเป็นขั้นตอน รวมทั้งเตรียมสถานพยาบาล ยา วัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมาย หากประชาชนพบเห็นผู้ป่วยหากรู้จักควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ หรือไม่รู้จักก็แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ติดตามตัวไปรับการรักษาได้ ส่วนกรณีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ และแพกซ์โลวิด ขอย้ำว่าประชาชนไม่ควรซื้อยาต้านไวรัสมากินเอง ขณะเดียวกันได้รับรายงานจากเลขาธิการ อย.ว่า อย.จับยาโมลนูพิราเวียร์เถื่อนนำเข้าจากอินเดีย ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดและจะแถลงให้ทราบในวันที่ 4 ส.ค.

...

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ได้แจ้งให้บุคคลใกล้ชิดและคณะทำงานทราบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยมีอาการไอ ขณะนี้พักรักษาตัวที่บ้าน โดยเมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายสุพัฒนพงษ์ ได้ร่วมประชุม ครม.ผ่านระบบออนไลน์ ส่วนวันที่ 3 ส.ค. ยกเลิกการประชุมต่างๆเพื่อพักรักษาตัวที่บ้าน ก่อนหน้านี้นายสุพัฒนพงษ์พร้อมคณะได้ไปเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 25- 27 ก.ค.หลังจากกลับมาประเทศไทยได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT- PCR ไม่พบเชื้อ วันที่ 28 ก.ค.ร่วมงานทำบุญใส่บาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ท้องสนามหลวง และร่วมงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนม พรรษา ที่ทำเนียบรัฐบาล ต่อมาวันที่ 31 ก.ค. ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.แต่มีอาการป่วยไม่มากนัก แพทย์อนุญาตให้พักรักษากักตัวอยู่ที่บ้านได้

วันเดียวกัน ศบค.รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 2,432 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 4,596,559 ราย หายป่วยสะสม 4,543,156 ราย เสียชีวิตสะสม 31,463 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก ผู้ติดเชื้อสะสม 584,128,352 ราย เสียชีวิตสะสม 6,423,632 ราย

...