"กรมข้าว" เตือนฝนตกหนักทั่วประเทศ 2-10 ส.ค. 65 ห่วงพี่น้องชาวนาอาจได้รับผลกระทบน้ำท่วม เร่งกำชับ จนท.ศูนย์เมล็ด-ศูนย์วิจัยข้าว เฝ้าสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 65 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงพี่น้องชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักในทุกพื้นที่ เนื่องจากการประเมินสถานการณ์น้ำฝนจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 2–10 ส.ค. 65 พบว่า จะมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงขอให้พี่น้องชาวนาเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง ในช่วงวันดังกล่าว ดังนี้
ภาคเหนือ 8 จังหวัด คือ จ.ตาก (อ.อุ้มผาง) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.ปาย) จ.เชียงใหม่ (อ.เชียงดาว และแม่อาย) จ.เชียงราย (อ.เมืองเชียงราย แม่จัน และแม่ลาว) จ.น่าน (อ.บ่อเกลือ ปัว และสันติสุข) จ.อุตรดิตถ์ (อ.ท่าปลา และทองแสนขัน) จ.พิษณุโลก (อ.นครไทย วัดโบสถ์ เนินมะปราง และชาติตระการ) จ.เพชรบูรณ์ (อ.วังโป่ง หล่มสัก และหล่มเก่า)
...
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด คือ จ.เลย (อ.เชียงคาน และนาด้วง) จ.หนองคาย (อ.โพนพิสัย และรัตนวาปี) จ.สกลนคร (อ.บ้านม่วง) จ.บึงกาฬ (อ.เมืองบึงกาฬ บุ่งคล้า โซ่พิสัย และเซกา) จ.มุกดาหาร (อ.ดงหลวง) จ.นครพนม (อ.ท่าอุเทน เมืองนครพนม และธาตุพนม) จ.ชัยภูมิ (อ.บ้านเขว้า และหนองบัวแดง) จ.ขอนแก่น (อ.เมืองขอนแก่น) จ.ร้อยเอ็ด (อ.สุวรรณภูมิ) จ.ยโสธร (อ.มหาชนะชัย และคำเขื่อนแก้ว) จ.นครราชสีมา (อ.จักราช พิมาย และลำทะเมนชัย) จ.อุบลราชธานี (อ.ม่วงสามสิบ ตระการพืชผล ดอนมดแดง เขื่องใน เมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ)
ภาคตะวันออก 5 จังหวัด คือ จ.นครนายก (อ.เมืองนครนายก และปากพลี) จ.ปราจีนบุรี (อ.นาดี ประจันตคาม และกบินทร์บุรี) จ.ระยอง (อ.แกลง และเมืองระยอง) จ.จันทบุรี (อ.เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่ แหลมสิงห์ เมืองจันทบุรี ขลุง และมะขาม) จ.ตราด (อ.เมืองตราด คลองใหญ่ แหลมงอบ เกาะกูด เกาะช้าง และเขาสมิง)
ภาคกลาง 3 จังหวัด คือ จ.กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี และทองผาภูมิ) จ.ลพบุรี (อ.ชัยบาดาล) รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ 8 จังหวัด คือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.บางสะพาน และทับสะแก) จ.ชุมพร (อ.ปะทิว) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.บ้านตาขุน และไชยา) จ.นครศรีธรรมราช (อ.พรหมคีรี) จ.ระนอง (อ.กะเปอร์) จ.พังงา (อ.ตะกั่วทุ่ง) จ.ตรัง (อ.ย่านตาขาว) จ.พัทลุง (อ.กงหรา)
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่า จากการคาดการณ์ดังกล่าว ที่อาจส่งผลให้พี่น้องชาวนาผู้ปลูกข้าวอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักในครั้งนี้ จึงได้สั่งการให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและศูนย์วิจัยข้าวในพื้นที่ เฝ้าติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และเตรียมรับมือกับเหตุอุทกภัยที่อาจตามมา หากพื้นที่ไหนได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ภายหลังน้ำลดได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรายงานตรงมากรมการข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องชาวนาให้ได้มากที่สุด.