แทบไม่น่าเชื่อ เหตุการณ์ระทึก เฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์ก (ฮท.60) ของคณะ "บิ๊กเกรียง" พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจจาก ค่ายเสนาณรงค์ จ.สงขลา ปลายทางค่ายสิรินธร อ.ยะรัง และค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขณะที่เครื่องกำลังไต่ระดับความสูง และนักบินพบว่าเกิดเหตุขัดข้อง จึงพยายามบังคับอากาศยานลงจอดฉุกเฉิน จนร่วงตกลงพื้นที่สวนยางพารา ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา

โดยอากาศยานมีนักบิน เจ้าหน้าที่ และผู้โดยสารทั้งหมด 7 นาย ประกอบด้วย มทภ.4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมผู้ติดตาม นักบิน 2 นาย ช่างประจำเครื่อง 2 นาย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต

จากนั้นทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าสู่กระบวนการรักษา ประกอบด้วย 1. พล.ท. เกรียงไกร ศรีรักษ์ 2. พ.ต. ประสาร ด้วงชาญ (นักบินที่ 1) 3. ร.อ.วิสารท์ ชูสังกิจ 4. ร.ต. ณัฐ โลหากาศ 5. จ.ส.อ.พิษณุ พันเต 6. จ.ส.อ.ธีรพงษ์ คูหาแก้ว 7. ส.อ. พีรวิชย์ โอสถเจริญ

...

ต่อมา "กองทัพบก" ได้ชี้แจงรายละเอียด พร้อมออกมาขอขอบคุณในการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ ต.วังใหญ่ ที่ช่วยนำผู้บาดเจ็บออกมาจากอากาศยานทันทีที่ประสบเหตุ พระภิกษุ ฝ่ายปกครองอำเภอเทพา และมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง อ.หาดใหญ่ พร้อมกำลังคนและนำเครื่องตัดถ่างเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ขณะที่ ทางหน่วยเฉพาะกิจสงขลา นำกำลังพลเข้าควบคุมพื้นที่ที่อากาศยานลงฉุกเฉิน เพื่อเตรียมให้คณะกรรมการนิรภัยการบินของกองทัพบกเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุและประเมินอากาศยาน

ทั้งนี้หลัง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมแสดงความห่วงใยและย้ำให้ "กองทัพภาคที่ 4" ให้การดูแลเจ้าหน้าที่ผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด รวมถึงการประสานแจ้งข้อมูลและอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวของกำลังพลที่บาดเจ็บ รวมทั้งการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ที่เฮเลคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉิน เพื่อเยียวยาและช่วยฟื้นฟูสภาพอย่างเหมาะสม

สำหรับ "บิ๊กเกรียง" พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ถูกคนในพื้นที่และทหารด้วยกันขนานนาม "ทหารนักรบ" เก่งทั้งงานบู๊และบุ๋น เชี่ยวชาญงานมวลชน ได้รับการยกย่องจากรุ่นพี่ และรุ่นน้องที่ผ่านสนามชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะด้วยรับราชการเติบโตในภาคใต้มาตลอดทั้งชีวิต แถมเป็นคนพื้นที่ภาคใต้ เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2506 เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 22 (ตท.22) และ จปร.33

ผลงานที่ผ่านมาของ "บิ๊กเกรียง" ถือว่าได้ผ่านมาหลายสมรภูมิ และหลายยุทธการ เพราะด้วยเป็นคนที่บ้างาน ทำงานไร้วันหยุด ลุยด้วยตัวเองลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะการปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น ยิงปะทะ และคิดค้นยุทธวิธีเพื่อให้ทหารในพื้นที่ปฏิบัติการด้วยความปลอดภัย โดยมี "บิ๊กเดฟ" พล.อ.พรศักดิ์ พูนสวัสดิ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และอดีต ผช.ผบ.ทบ.เป็นนายทหารรุ่นพี่ที่ "บิ๊กเกรียง" ให้ความเคารพรัก และเป็นแบบอย่าง

ด้วยความที่มีนิสัยเป็นกันเอง พล.ท.เกรียงไกร จึงถือเป็นที่รักใคร่ของรุ่นพี่ เพื่อน และรุ่นน้อง เพราะด้วยความที่มีคอนเน็กชันหลายวงการ มีบทบาทสำคัญในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขดับไฟใต้ และเป็นทหารเข้าถึงง่าย เป็นกันเอง ส่งผลให้ชาวบ้าน มวลชน เข้ามาผูกมิตรทำให้มีการข่าวทุกระดับชั้น ทำให้ง่ายต่อการหาข่าว ทำงาน นอกจากนี้ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับภาคประชาสังคมหลากหลายกลุ่ม จึงถือว่าเป็นนายทหารที่ได้รับการยอมรับจากแทบทุกภาคส่วนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

...

สำหรับเส้นทางชีวิตการงานก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะอยู่ในสายกำลังรบมาโดยตลอด เริ่มจาก เป็นผู้หมวด ผู้กอง ในกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 (ร.25 พัน 3) ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี และไต่เต่าจนเป็น ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 42 (ผบ.ทพ.42), เสนาธิการจังหวัดทหารบกปัตตานี (เสธ.จทบ.ปัตตานี), รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 (รองผบ.พล.ร.15), รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 (รองผบ.พล.5)

ติดยศ "พล.ต." ในตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 (ผบ.พล.ร.5) และในปี 2562 ขึ้นเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 4 (รอง มทภ.4) ก่อน 1 ต.ค. 2563 สไลด์ขึ้นเป็น "พล.ท." ในตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4)

สำหรับการฟาดเคราะห์คราวนี้ ก็อาจเป็นสัญญาณดี เพราะ "แม่ทัพเกรียง" อยู่ในรายชื่อแคนดิเดต ที่จะได้รับการพิจารณาเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ. โดยคาดว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. และในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น จะขยับ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ขึ้นเป็น "ผช.ผบ.ทบ." ก่อนเกษียณราชการในตุลาคม 2566

...

ซึ่งถือเป็นการตอบแทนคนที่มีความรู้ ความสามารถ และคนทำงานเพื่อชาติ ศาสนา และกองทัพมาทั้งชีวิต